SET เคลื่อนไหวในกรอบ รอปัจจัยใหม่ แนะ “Selective Buy” ชู AOT และ ADVANC

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET เคลื่อนไหวในกรอบ โดยมีกรอบบนอยู่ที่บริเวณแนวต้าน 1,325 และ 1,330 จุด ตามลำดับ และกรอบล่างบริเวณแนวรับ 1,310 และ 1,300 จุด ตามลำดับ เนื่องจากตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามากำหนดทิศทาง โดยวันพรุ่งนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ตัวเลข PCE ของสหรัฐ ที่ตลาดใช้ประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟด

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET ยังอยู่ในภาวะผันผวนและเปราะบางเช่นเดิม เนื่องจากปัจจัยการเมืองในประเทศยังยึดเยื้อ ทำให้ SET ยังมีโอกาส Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค อย่างไรก็ดีมีความคาดหวังว่าปัจจัยเชิงเศรษฐกิจ อาทิ ดัชนีอุตสาหกรรมและรายงานประชุม กนง. อาจจะส่งสัญญาณการฟื้นตัวของภาคการผลิตได้ 

นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยบวกจากการประกาศนโยบายสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุน ทั้งการปรับเพิ่มวงเงินกองทุน T-ESG และมาตรการ Uptick ที่จะเริ่มใช้วันที่ วันที่ 1 ก.ค. ส่วนปัจจัยต่างประเทศในสัปดาห์นี้คาดยังไร้ปัจจัยใหม่ โดยเน้นติดตามดัชนี PCE พ.ค. ของสหรัฐ คาดทรงตัว MoM และปรับขึ้น 2.6%YoY (ชะลอตัวจาก 2.7%YoY ในเดือน เม.ย.) ซึ่งไม่น่ากดดันตลาดมากนัก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy“ ใน 4 ธีมหลัก ดังนี้

1) หุ้น Global Play ที่คาดผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องและได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่จะขึ้นกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ภายในประเทศที่ไม่แน่นอน เลือก KCE SCGP TU MINT

2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์ Cover Short หลัง ตลท. เริ่มใช้มาตรการ Uptick ตั้งแต่ 1 ก.ค.2567 เลือก HANA TOP BEM KCE MINT OSP BBL SCGP AOT

3) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากการเข้าสู่บรรยากาศแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2024) ในช่วงวันที่ 14 มิ.ย.-14 ก.ค.2567 เลือก ADVANC TRUE CPALL MINT TU 

4) สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Bent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขึ้นต้นอย่าง PTTEP

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ AOT ราคาหุ้นปรับลง 2.5%WTD มองประเด็นลบสะท้อนในราคาหุ้นแล้ว ขณะที่กำไรจะเพิ่มขึ้นตามการท่องเที่ยวไทยที่เติบโต คาดกำไรปกติปี 2567 เพิ่มขึ้นสู่ 2.3 หมื่นล้านบาท (+150%YoY) และ 2.8 หมื่นล้านบาท ในปี 2568 (+23%YoY) ส่วนกำไรปกติไตรมาส 3/2567 (เม.ย.-มิ.ย.2567) คาดโต YoY แต่ลดลง QoQ ตามฤดูกาล

ADVANC ไตรมาส 2/2567 คาดกำไรจะเติบโต YoY จากรายได้ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งคาดค่าใช้จ่ายในการบริหารจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก synergy ด้านต้นทุนเริ่มเห็นผลแล้ว คาดกำไรปี 2567 จะเพิ่มขึ้นสู่ 3.16 หมื่นล้านบาท (+10.9%YoY)

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.