"รังสิมันต์ โรม"ผิดหวังผลสอบ2บิ๊กตำรวจไร้คนผิดปมเอี่ยวเว็บพนัน
นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงผลการสอบสวน 2 บิ๊กตำรวจ ที่ให้ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนคำสั่งย้ายกลับและให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่าอำนาจสอบสวนอยู่ที่ใครว่า สังคมก็ยังไม่เห็นความชัดเจนของกระบวนการตรวจสอบนี้คืออะไร ซึ่งเมื่อไม่มีความชัดเจนแบบนี้ทำให้เกิดความสงสัยว่ารัฐบาลทำอะไรอยู่ ทำไมถึงทำให้เรื่องนี้จบแบบไม่รู้ว่าจะเอาผิดกันอย่างไร
ผลสอบทำลายความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม
"สิ่งที่สังคมอยากเห็นจากรัฐบาลคือตกลงจะจบกันแบบนี้ใช่หรือไม่ คือต่างฝ่ายต่างแยกย้าย วันเวลาที่ผ่านมาก็ไม่มีความหมายเลยหรือ การที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเกี่ยวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มันทำลายความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมมากขนาดนี้ สังคมต้องการคำตอบว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไร"
ผลสอบเหมือน ซูเอี๋ยกัน
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่าสิ่งที่ นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมายแถลงออกมายังไม่ชัดเจนเพียงพอ ที่จะยอมรับได้ว่าจะมีหนทางแก้ปัญหาและเอาผิดกับคนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันจริงๆ เชื่อว่าผู้คนไม่น้อยมองว่า ซูเอี๋ยกัน แล้วต่างคนต่างแยกย้าย ที่ผ่านมาก็แล้วๆกันไป
ข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงขนาดนี้ รับเงินจากเว็บพนัน คิดว่าเป็นเรื่องร้ายแรง และต้องยอมรับว่าวันนี้เว็บพนันมีจำนวนมากจริงๆ การจะจับตัวการใหญ่ ก็เป็นเรื่องที่สังคมมีคำถามว่าเราสามารถจับตัวการใหญ่ได้จริงหรือไม่ หรือว่าตัวการใหญ่จริงๆแล้วเป็นตำรวจ นี่คือสิ่งที่สังคมอยากเห็น และยังไม่นับประเด็นที่มองกันว่า ระดับ ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร. เข้าไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน แล้วคนอื่นๆ จะเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
ปมเอี่ยวเว็บพนันถูกซุกใต้พรม
สิ่งนี้ยังไม่เห็นการขยายผลก็เกิดคำถามว่าตกลงนโยบายของรัฐบาลจะทำอย่างไร กับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาสีดำทั้งหลาย สิ่งนี้เป็นปัญหากัดกินสังคมไทยมายาวนาน แต่ก็ยังไม่เห็นความชัดเจน หรือประสิทธิภาพของรัฐบาลนี้ ต้องไม่ลืมว่าองค์กรตำรวจอยู่ภายใต้นายกรัฐมนตรี หมายความว่าหากมีปัญหาก็จะกระทบถึงสถานะของนายกรัฐมนตรี มีประสิทธิภาพแค่ไหน ในการกวาดล้างปัญหาผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
"ถ้ามันจบกันแบบนี้เสียงที่ประชาชนรู้สึกว่ารัฐบาลเกี่ยวข้องกับการซูเอี๋ย ระหว่างความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติและคนสำคัญต่างๆ มันจะดังมากยิ่งขึ้นคิดว่าไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล และต่อนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน ผมยังอยากให้รัฐบาลจัดการปัญหาเรื่องนี้ด้วยข้อเท็จจริงว่าหากพลตำรวจเอกทั้ง 2 นาย ไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน มันต้องมีมาตรการออกมา ถ้าเขาเกี่ยวข้องจริงจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สังคมไทยอยากเห็น ไม่ใช่ปล่อยกันไปให้ทะเลาะกัน มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีความชัดเจนอะไร ทำให้กระบวนการตรวจสอบและเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐมันล้มเหลว เกิดความสูญเสียความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลขึ้นไปอีก"
เมื่อถามว่า ผลการตรวจสอบควรเปิดเผยอย่างละเอียดหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การเปิดเผยขั้นตอนการตรวจสอบเป็นความโปร่งใสขั้นต้น การแถลงของนายวิษณุ ค่อนข้างน่าตกใจ ไม่คิดว่าการเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจพอๆกับรองนายกฯ น่าจะทำได้มากกว่านี้ แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าความขัดแย้งในองค์กรตำรวจถูกซุกไว้ใต้พรมไม่ได้รับความคลี่คลาย ผมไม่ได้กล่าวหาว่าใครผิด ถ้าเขาไม่ผิดก็ต้องบอกว่าไม่ผิด แต่ถ้าเขาผิดก็ต้องมีมาตรการทางกฎหมายตามมา เรารอคอยผลการตรวจสอบมาเป็นเวลานาน
ทั้งนี้ นายวิษณุ ก็พูดชัดเจนว่าไม่มีอะไรต้องสอบจึงให้ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ กลับไป แต่ถ้าสอบแล้วมีข้อเท็จจริงปรากฏ ตกลงมันมีความผิดอะไร ไม่งั้นการที่คุณเอาเขาไปดองไว้เป็นเวลาตั้งไม่รู้เท่าไร แล้วสุดท้ายก็ไม่มีความชัดเจนทางกฎหมาย ว่าจะเอาอย่างไร แบบนี้ไม่เป็นธรรมกับ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ เช่นกัน และไม่เป็นธรรมต่อประชาชน ในฐานะเป็นผู้เสียภาษี ซึ่งเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เราหล่อเลี้ยงองค์กร และหากมีการรับเงินจากเว็บพนัน
"สิ่งเหล่านี้คือความเสียหายที่ประชาชนได้รับ รัฐบาลจะไม่ทำอะไรเลยหรือ ผมคิดว่ามันไม่ใช่แค่เด็กทะเลาะกัน แล้วจับแยกให้หายๆ เลิกแล้วต่อกัน ถ้าทำแบบนั้นคือการจัดการที่ไม่มีวุฒิภาวะของรัฐบาลชุดนี้มาก”
กมธ.ความมั่นคงฯเตรียมเรียกดูผลสอบ
เมื่อถามว่า กมธ.ความมั่นคงฯ สามารถเรียกดูผลสอบและบุคคลที่เกี่ยวข้องมาได้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คงต้องตรวจสอบและอยู่ในกรอบวิสัยที่มีอำนาจของ กมธ.ความมั่นคงอยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องติดตาม และตนพยายามให้โอกาสรัฐบาลก่อน ซึ่งเรามีการตั้งอนุ กมธ. เรื่องศึกษาการปฏิรูปตำรวจ โดยมี นายปิยรัตน์ จงเทพ สส.กทม. พรรคก้าวไกล เป็นประธาน ซึ่งอยู่ในวิสัยที่จะเอาข้อมูลผลสอบมาได้ แต่เขาจะกล้าให้หรือไม่ ถ้าไม่ให้ก็ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ในเรื่องความโปร่ง ของรัฐบาลนี้
เมื่อถามว่า ผลในทางกฎหมายออกมาแบบนี้ คาดเดาได้หรือไม่ว่าความขัดแย้งในตำรวจจะทุเลาลงหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยากที่จะคาดคะเน เพราะไม่รู้ว่าความขัดแย้งลึกซึ้งแค่ไหน เพราะล่าสุดพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ก็นำ 20,000 รายชื่อ มายื่นถอดถอน ป.ป.ช. แม้จะเป็นคนละกรณี ก็คงต้องดูอีกทีว่าความขัดแย้งจะเป็นอย่างไร
“สาระสำคัญ ผมคิดว่าไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่อยู่ที่การทุจริต การรับผลประโยชน์จากเว็บพนัน นี่คือปัญหาใหญ่สุดของตำรวจ แล้วจะขยายผลหรือป้องกันอย่างไร นี่คือสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น อยากทราบ”นายรังสิมันต์ กล่าว
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.