พลิกปูม"วิษณุ เครืองาม"ไขข้อสงสัยทำไมรัฐบาลต้องใช้บริการ

นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีด้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติราชการ แถลงผลการตรวจสอบ "2 บิ๊กตำรวจ" ตามคำสั่งของนายกฯเศรษฐา ซึ่งบทสรุปในเบื้องต้น บิ๊กต่อ กลับสตช.คืนตำแหน่งผบ.ตร.ส่วน บิ๊กโจ๊ก ยังคงมีสถานะรองผบ.ตร.ส่วนจะได้กลับสตช.เหมือน บิ๊กต่อหรือไม่ให้รอไว้ก่อนเพราะต้องรอผลการตรวจสอบข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ปมคำสั่งให้ออกจากราชการไม่เป็นธรรม

นายวิษณุ เข้ามารับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของนายกฯเศรษฐา ทวีสิน เมื่อ 30 พ.ค. 2567 ตามคำสั่งที่ 205/2567 เพื่อให้คำปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ดังนั้นการให้ข่าวสารในประเด็นเรื่อง "บิ๊กตำรวจ"เพื่อสร้างความเข้าใจต่อสาธารณชนได้"ตามความจำเป็น"ถือเป็นหนึ่งในภาระกิจสำคัญของนายวิษณุที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯตามที่มีประกาศในคำสั่ง

นายวิษณุ เป็นนักกฎหมาย มีบทบาทในการให้คำแนะนำและแก้ปัญหาทางกฎหมายอย่างหาตัวจับได้ยาก ดังที่ทราบเคยดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลหลายชุดและในหลายหน่วยงาน รวมถึงการเป็นรองนายกรัฐมนตรี และเป็นฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล

ในแง่มุมการศึกษาเล่าเรียนก็มีประวัติน่าสนใจ

หลังนายวิษณุเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนแสงทองวิทยา (รุ่น09) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก็เข้าเรียนที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยวัย17ปี ใช้เวลาเล่าเรียนจากปี2511-2515 และจบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมดีมาก)

นายวิษณุตอกย้ำความเป็นผู้มีมัน"สมองดีชั้นเลิศ"เพราะใช้เวลาอีก1ปีต่อมาสอบได้เนติบัณฑิตไทย จากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ซึ่งในวงนักกฎหมายเป็นที่ทราบกันดีกว่า ผู้ใดได้เนติบัณฑิตไทย ผู้นั้นถือว่ามีความรู้ความเชี่ยวชาญการนำบทกฎหมายและคำพิพากศาลฎีกาไปประยุกต์ใช้สำหรับการประกอบวิชาชีพ
 
แต่นายวิษณุ ไม่ได้จบศึกษาด้านกฎหมายเพียงแค่เนติบัณฑิตไทย ซึ่งสามารถประกอบอาชีพทนายความและได้สิทธิในการสอบเป็นอัยการหรือผู้พิพากษาตามที่นักเรียนกฎหมายทั้งใฝ่ฝัน ยังบินไปเรียนต่อสหรัฐอเมริกาจนได้ปริญญา Master of Laws (LL.M.) University of California, Berkeley และ Doctor of Juridical Science (J.S.D.) University of California, Berkeley หากนับจากปีเกิด วันที่ 15 กันยายน 2494 นายวิษณุเป็นดร.ด้านกฎหมายในวัย25ปี 

11กันยายน 2546 มีพระบรมราชโอการโปรดเกล้าแต่งตั้งนายวิษณุ เป็นราชบัณฑิต ประเภทวิชานิติศาสตร์ สาขาวิชากฎหมายปกครอง สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง นอกจากนี้ยังมีเกียรติคุณในชีวิตของนักกฎหมาย เป็นศาสตราจารย์กิตติคุณ และศาสตราภิชานของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อีกทั้ง นายวิษณุยังเคยได้รับรางวัลผู้พูดภาษาไทยได้ถูกต้องและเหมาะสม จากราชบัณฑิตยสถาน เมื่อปี2534 จึงไม่แปลกใจว่า นอกจากมีความแม่นยำในตัวบทกฎหมายแล้ว นายวิษณุยังสามารถอรรถาธิบายความข้อกฎหมายซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจยากให้เข้าใจง่ายขึ้นและไม่มีผู้ใดโต้แย้งได้

นายวิษณุเป็นเจ้าของฉายา"เนติบริกร"จากสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล เมื่อปี 2548  เพราะถือเป็นผู้ผ่านการทำงานร่วมกับหลายรัฐบาล รวมถึงหลายนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ยังมีอีก 3 ฉายา ประกอบด้วย

ปี 2562 ฉายา"ศรีธนญชัยรอดช่อง" ด้วยความเป็นกูรูด้านกฎหมายสามารถช่วยรัฐบาลรอดพ้นปากเหวได้ทุกครั้งด้วยช่องว่างทางกฎหมายที่แม้แต่แว่นขยายก็ยังมองไม่เห็น" 

ปี 2563 ฉายา"ไฮเตอร์ เซอร์วิส" เป็นการยกคุณสมบัติเด่น อาศัยช่องว่างทางกฎหมาย เปรียบได้กับผลิตภัณฑ์ซักฟอกขาวยี่ห้อดัง สามารถล้างคราบสกปรกให้ขาวสะอาดหมดจดได้แต่อาจทำให้เนื้อผ้าเสียหาย ขาดความสวยงาม คล้ายกับชื่อเสียงของรัฐบาลที่สึกกร่อนตามไปด้วย

ปี 2565 ฉายา "เครื่องจักรซักล้าง" ความเอกอุด้านกฎหมายระดับปรมาจารย์ในตำนาน ทำหน้าที่เหมือนเครื่องจักรกล คอยซักล้างความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลเรื่องไหนผ่านมือเนติบริกรคนนี้ อย่าหวังว่าจะมีใครโต้แย้งได้  

ปัจจุบัน นายวิษณุในวัย73 มาช่วยงานนายกฯเศรษฐาในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ท่ามกลางปัญหาสุขภาพเนื่องจากมีอาการป่วยจากการฟอกไต อยู่ทุกคืน อาทิตย์ละ 7 วัน วันละ 10 ชั่วโมง

ก่อนรับตำแหน่งมีการเผยแพร่คลิปนายวิษณุ กล่าวในงาน รวมใจ นิติ -มธ.2511 เมื่อ26 พ.ค.2567 มีคนเคยถามเรื่องฟอกไตว่า จะต้องทำจนถึงเท่าไหร่ นายวิษณุตอบว่า จนตายครับ เว้นแต่สามารถหาไตใหม่มาเปลี่ยนได้  

มีการหาเรื่องจับผิดว่านายวิษณุรับงานหวังเปลี่ยนไตฟรีในรพ.ดัง แต่เจ้าตัวออกมายืนยันว่าไม่จริงและได้ปรึกษาหมอแล้วไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน ชีวิตมีความสุขปกติดี

เมื่อตรวจสอบการยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินย้อนหลังของนายวิษณุและคู่สมรส หลังพ้นจากตำแหน่งรองนายกฯสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ "ยิ่งเป็นไปได้ยาก"เพราะมีทรัพย์สินรวม 118,935,550 บาท ไม่มีหนี้สิน เป็นทรัพย์สินของนายวิษณุ 81,072,362 บาท 

"ชีวิตที่เปรียบเหมือนทะเลกับหาดทราย ไม่ได้ตั้งเท่ๆหรูๆ แต่มีความหมายที่ซ่อนอยู่ ทะเลผมตั้งใจเปรียบเหมือนการเมือง ที่เรียกว่าทะเลการเมือง ส่วนหาดทราย ก็คือชีวิตที่เป็นข้าราชการ เป็นชาวบ้านธรรมดา ถ้าหากว่าน้ำทะเลขึ้นมันก็จะซัดหาดทรายก็หายไป ถ้าน้ำทะเลลง หาดทรายก็ยื่นออกไป"  

หากเปรียบรัฐบาลยามนี้ก็คงเหมือนน้ำทะเลลงและหาดทรายกำลังยื่นออกไป เมื่อชายตามองไปรอบๆ ในประเทศนี้ก็ยังหาใครมาแทนที่นายวิษณุได้ในช่วงเวลานี้ไม่ได้