10 วิธีลดน้ำตาลในร่างกาย ลดเสี่ยงโรคอันตรายสารพัด

รสหวานเป็นรสชาติที่อร่อยและคนทั่วไปมักติดความหวานในอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เพราะทำให้สมองแจ่มใสและลดความเครียด จนมักทำให้พวกเราทานน้ำตาลเกินความต้องการของร่างกาย และเมื่อน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงจากปริมาณที่เคยบริโภคในแต่ละวันก็เริ่มส่งผลต่ออารมณ์ ทำให้หงุดหงิด และอ่อนเพลียง่าย สรุปแล้วน้ำตาลจึงให้ผลเสียแก่เราในระยะยาวมากกว่าผลดี

อันตรายจากภาวะติดน้ำตาล

นายเเพทย์​ อรรถ​สิทธิ์​ ศักดิ์​สุธา​พร ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสารอาหารเพื่อการดูแล​สุขภาพ​ขั้นสูง และเวชศาสตร์​ชะลอวัยและฟื้นฟู​สุขภาพ จากเฟซบุ๊กเพจ อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ ระบุถึงอันตรายจากภาวะการติดน้ำตาล ที่จะก่อให้เกิดโรคร้ายชัดเจนถึง 4 โรค ดังนี้

  1. ฟันผุ
  2. อ้วน
  3. เป็นโรคหัวใจ ความดัน 
  4. มะเร็ง

10 วิธีลดน้ำตาลในร่างกาย ลดเสี่ยงโรคอันตรายสารพัด

  1. เปลี่ยนเครื่องดื่ม

ตัดน้ำอัดลมทิ้งไป ลดเครื่องดื่มชูที่กำลังจะทานระหว่างออกกำลังกาย แล้วเปลี่ยนไปเป็นดื่มน้ำแร่แทน ลดกาแฟในยามเช้า ดื่มน้ำมะนาว ชาสมุนไพร อเมริกาโน หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลแทน

  1. ลดอาการติดน้ำตาลอย่างค่อยเป็นค่อยไป

เมื่อร่างกายคุณเสพน้ำตาลจนเคยชินแล้ว และถ้าคุณตัดขาดจากของหวานที่เคยชอบกินเช่น เค้ก ไอศกรีม คุกกี้ พาย โดนัท ทันที คุณจะรู้สึกเหมือนร่างกายไม่มีพลังงานและรู้สึกเฉื่อยชา ดังนั้นคุณอาจทดแทนด้วยการทานผลไม้ที่มีรสหวานไม่มาก เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง และผลไม้ตระกูลเบอรี่  หรือกินอาหารเช้าเพื่อสุขภาพต่างๆ ซึ่งจะมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยให้ร่างกายคุณสดชื่นขึ้นอีกด้วย

  1. อาหารไขมันสูงอาจดีต่อสุขภาพมากกว่าอาหารไขมันต่ำ

ถ้าพยายามจะลดน้ำตาล คุณควรเลือกทานอาหารที่มีไขมันดี เช่น อะโวคาโด มันม่วง มันหวาน ฟักทองนึ่ง เป็นต้น หรืออาหารที่มีคาโบไฮเดรตเชิงซ้อน จริงๆ แล้วไขมัน เป็น 1 ในสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ถ้าหากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมจะอยู่ท้องเป็นเวลานาน หลายๆ ครั้งในอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิดที่มีฉลากปิดว่า fat-free เมื่อนำมาทดสอบแล้วกลับพบว่า มีปริมาณน้ำตาลสูงกว่าอาหารที่มีไขมันดีเสียอีก 

  1. รับประทานอาหารออร์แกนิก หรืออาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูป

อาหารปรุงสำเร็จ หรืออาหารตามร้านอาหาร อาจจะเต็มไปด้วย เกลือ น้ำตาล และผงชูรส ในปริมาณที่มาก ทำให้เราไม่อาจควบคุมได้ อาหารที่ผ่านการแปรรูปมักจะแต่งสี กลิ่น และสารกันบูด และหากคุณสามารถทำอาหารกินเองที่บ้าน นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังช่วยให้คุณสามารถควบคุมปริมาณน้ำตาลและเกลือในอาหารได้

  1. อย่าประมาทกับคำว่า “ขนมเพื่อสุขภาพ”

รู้หรือไม่ว่าขนมที่ทำจากธัญพืช เช่น กราโนลาแท่ง โปรตีนแท่ง และผลไม้อบแห้ง ในบางครั้งก็มีปริมาณน้ำตาลสูงพอๆ กับการกินช็อคโกแลต 1 แท่ง

  1. ลดอาหารเช้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาล

พวกซีเรียลที่เคลือบน้ำตาล แพนเค้กราดน้ำผึ้ง พาย วาฟเฟิล ขนมปังกับแยม ครัวซอง และมัฟฟิน เป็นอาหารสุดโปรดที่ผู้คนชอบรับประทานร่วมกับกาแฟในยามเช้า แต่ทว่าอาหารเช้าเหล่านี้เป็นเหตุให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราสูง ดังนั้น อาหารเช้าทางเลือกใหม่ที่ควรเปลี่ยนเพื่อสุขภาพได้แก่ กรีกโยเกิร์ต ไข่ต้ม ไข่คน ไข่ดาวน้ำ หรือไข่ที่ทอดบนกะทะเทฟล่อนแบบไม่ใช้น้ำมัน หรือกินอะโวคาโด ที่มีพลังงานสูง มีไขมันที่ดี และมีน้ำตาลต่ำก็ได้

  1. ส่วนผสมข้างฉลากที่ควรหลีกเลี่ยง

ไม่ควรเลือกอาหารอย่างฉาบฉวยในซุปเปอร์มาเก็ตเพียงแค่เห็นคำว่า “low sugar” หรือ “no sugar” แต่คุณจะต้องสังเกตส่วนผสมเหล่านี้ ซึ่งอันตรายเท่าๆกับน้ำตาล แต่ใช้คำที่ยากต่อการสังเกต เช่น

  • น้ำเชื่อมข้าวโพด  (High-fructose corn syrup)
  • มัลโตส (Maltose)
  • เด็คโตรส (Dextrose)
  • น้ำเชื่อมข้าว (Rice syrup)
  • คาราเมล (Caramel)
  • สารให้ความหวานแทนน้ำตาล (Invert sugar)
  • น้ำเชื่อม (Molasses)
  1. สิ่งที่ให้ความหวานตามธรรมชาติ

ภาวะเสพติดน้ำตาล ไม่ต่างจากความรู้สึกของคนติดแอลกอฮอล์ เราถึงต้องใช้ความอดทนสูงมากในช่วงเวลาที่ขาดน้ำตาล เพื่อบรรเทาความรู้สึกนี้ ลองใช้ความหวานตามธรรมชาติในการทำเครื่องดื่ม หรือปรุงอาหารแทน การลดความหวานบางครั้งทำให้รู้สึกหงุดหงิด หิว กระวนกระวาย จึงไม่ควรลดแบบหักโหม คุณสามารถรับประทานอาหารที่มีรสหวานได้ตามเดิม เพียงแค่เปลี่ยนมาใช้ สารให้ความหวานอื่นๆ แทนได้ 

  1. อย่าเก็บขนมหวานไว้ในบ้าน

ในยามที่ความอยากน้ำตาลเพิ่มขึ้น สมองของเราที่เคยชินกับการรับปริมาณน้ำตาลทุกวันจะสั่งการให้คุณรีบไปหาอะไรหวานๆ มากิน ดังนั้นอย่าซื้อพวกช็อคโกแลต ไอศกรีม หรือลูกอมมาเก็บไว้ในบ้านเพราะถ้าเห็นเข้าก็จะโดนความหิวเข้าจู่โจมทันที และถ้าคุณทนไม่ไหวจริงๆ ก็อาจจะลองหาขนมที่มีความหวานต่ำ หรือขนมที่ไม่มีแคลอรี่มากินแทนไปก่อน

  1. นอนหลับให้เพียงพอ

การนอนน้อย หรืออดนอน ส่งผลต่อสุขภาพของคุณ ทำให้เป็นโรคซึมเศร้า และภูมิต้านทานต่อโรคภัยต่ำ สมาธิสั้น ประสิทธิภาพในการทำงานจึงลดลง แถมกลุ่มคนที่อดนอนยังมีความรู้สึกหิว กระหาย และอยากกินของหวานมากกว่ากลุ่มที่นอนเพียงพอ ดังนั้นการเข้านอนเร็ว และนอนหลับให้เพียงพอจะช่วยให้คุณลดความรู้สึกอยากกินของหวาน และช่วยให้สมองลดความต้องการน้ำตาลลงได้

การลดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะน้ำตาลเป็นอาหารที่ส่งผลให้เกิดโรคร้ายต่างๆ ตามมา ทั้งมะเร็ง เบาหวาน โรคอ้วน แต่การไม่รับประทานน้ำตาลเลย ไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้อง ในทางที่ดีเราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควบคุมปริมาณน้ำตาลให้อยู่ในระดับพอดีจะเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.