"ผงชูรส" ทำให้ผมร่วงจริงหรือ?
“อย่ากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเยอะ เดี๋ยวผมร่วง” เคยได้ยินประโยคทำนองนี้มากันตั้งแต่เด็กเลยใช่ไหมคะ ผู้ใหญ่มักไม่ให้เด็กๆ อย่างเรากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากเกินไป เพราะไม่อยากให้เราทานผงชูรสมากเกินไปนั่นเอง
ทานผงชูรสมากๆ ทำให้ผมรวงจริงหรือไม่ ถ้าอันตรายมากขนาดนั้นทำไมยึงมีผงชูรสเป็นส่วนประกอบของอาหารมากมายตามท้องตลาด นอกจากผมร่วงผงชูรสยังมีอันตรายอื่นๆ อีกหรือไม่ Sanook Health มีคำตอบมาให้
ผงชูรส คืออะไร ?
ผงชูรส หรือโมโนโซเดียมกลูตาเมท (MSG) ประกอบไปด้วยโซเดียม (เกลือ) และกรดกลูตามิก (กรดอะมิโนชนิดหนึ่ง) ผงชูรสได้จากการหมักกากน้ำตาลจากอ้อย หรือน้ำตาลจากแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบธรรมชาติโดยผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ได้จะเป็นผลึกขาวบริสุทธิ์ ละลายน้ำได้ง่าย และเข้ากับอาหารได้ทุกชนิด
ผงชูรสเป็นที่นิยมในการเป็นส่วนประกอบที่ช่วยเสริมรสชาติของอาหารให้ดียิ่งขึ้น หรือเรียกภาษาชาวบ้านคือทำให้อาหารอร่อยกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น เราจึงพบผงชูรสตั้งแต่ร้านอาหารข้างทาง ไปจนถึงโรงงานผลิตอาหาร และขนมสำเร็จรูปต่างๆ มากมาย
ผงชูรส ทานมากผมร่วง ?
การรับประทานผงชูรสมากๆ ไม่ได้ทำให้ผมร่วงผมล้านแต่อย่างใด ไม่มีปรากฎในวารสารทางการแพทย์ หรือผลงานวิจัยใดๆ ทั้งสิ้น หลายคนนำอาการผมร่วงมาโยงหาสาเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้จากอาหารการกิน ผงชูรสจึงตกเป็นจำเลยตามความเชื่อที่ได้รับมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ แต่อันที่จริงแล้วสาเหตุใหญ่ๆ ของผมร่วง เกิดจากความผิดปกติของรูขุมขนบนหนังศีรษะ และเส้นผมเอง ความเชื่อนี้จึงไม่เป็นจริง istockphoto
อันตรายจากผงชูรส
แม้ว่าผงชูรสจะไม่ได้ทำให้ผลร่วง แต่ที่เราถูกห้ามตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่ให้ทานผงชูรสมากเกินไป เพราะจากวารสารทางการแพทย์ มีการรายงานถึงอาการผิดปกติของคนที่ทานอาหารที่มีผงชูรสเป็นส่วนประกอบเอาไว้มากมาย ตั้งแต่อาการผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงอาการร้ายแรง
- คอแห้ง กระหายน้ำ
- มีอาการแพ้ผงชูรส ปากแห้ง ลิ้นชา แขน หลัง และคอมีอาการชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง ใจสั่น แน่นหน้าอก หน้าแดง จนถึงขั้นเป็นลม
- กระตุ้นอาการหืดหอบ และไมเกรนให้กำเริบ
แต่กระนั้น ก็ยังไม่สามารถสรุปฟันธงได้ว่า อาการผิดปกติดังกล่าวมาจากผงชูรสเพียงอย่างเดียว เพราะจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น และจากการทดลอง มีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีกมาก เช่น ส่วนประกอบต่างๆ ของอาหารในจานนั้นๆ ที่อาจส่งผลต่ออาการเหล่านั้นได้ด้วยเช่นกัน istockphoto
แต่อันตรายจากผงชูรสที่เกิดขึ้นจากเกลือโซเดียมในผงชูรส มีดังนี้
- ภูมิต้านทานร่างกายลดลง
- เกิดการคลั่งในสมองของเด็ก ทำให้เด็กโตขึ้นมามีอาการปัญญาอ่อน หรือมีอาการชักโคม่า
- เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคไต ความดันสูง โรคหัวใจ และโรคอื่นๆ ที่แพทย์สั่งห้ามทานอาหารเค็ม
ส่วนใหญ่ผู้บริโภค หรือแม้กระทั่งผู้ผลิตมักไม่ค่อยระมัดระวังในปริมาณการใส่ผงชูรสลงไปในอาหาร เพราะผงชูรสไม่ได้มีรสชาติเค็มชัดเจนเหมือนเกลือแกงธรรมดา ใส่ผงชูรสมากๆ ก็อาจไม่ค่อยรับรู้รสเค็มได้ชัดเจน ถึงอาจเผลอใส่เยอะจนทำให้ร่างกายได้รับผงชูรสมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ยังมีอันตรายที่เกิดขึ้นจากตัวผงชูรสเอง ดังนี้
- ทำลายสมองส่วนที่ควบคุมการเจริญเติบโต
- ทำลายระบบสืบพันธุ์ ระบบประสาทตา
- อาจเป็นต้นเหตุของมะเร็ง
- เป็นอันตรายต่อหญิงมีครรภ์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารก
ทั้งนี้ อันตรายเหล่านี้เกิดขึ้นจากการทานรับประทานผงชูรส “มากเกินไป” เท่านั้น
ทานผงชูรสเท่าไร ถึงจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
บางคนที่ยังไม่สามารถตัดผงชูรสออกไปจากมื้ออาหารได้อย่างเด็ดขาด ควรรับประทานได้ไม่เกินวันละ 2 ช้อนชา หรือหากต้องการให้รสชาติของอาหารที่ความอร่อยกลมกล่อมใกล้เคียงกับการใส่ผลชูรส สามารถใส่วัตถุดิบจากธรรมชาติได้ เช่น สาหร่าย น้ำต้มกระดูก เป็นต้น
แม้ว่าเรื่องผงชูรสทำให้ผมร่วงจะเป็นเรื่องไม่จริง แต่ที่ผู้ใหญ่ไม่ให้เราทานผงชูรสมากเกินไปตอนเด็กๆ ก็ยังเป็นเรื่องจริงที่ควรทำอย่างนะคะ และถึงแม้ว่าผงชูรสจะแฝงอันตรายเอาไว้มากมาย แต่หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ก็สามารถให้ประโยชน์กับคนทานอย่างเราๆ ได้เหมือนกัน อ่านต่อได้ที่ > 3 ประโยชน์ของ “ผงชูรส” ที่คุณอาจไม่รู้
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.