10 พฤติกรรมสุดเซอร์ไพรส์ ทำให้สูญเสียกล้ามเนื้อแบบไม่รู้ตัว

แม้คุณจะออกกำลังกายอย่างหนักและทานโปรตีนอย่างเพียงพอ แต่ถ้ายังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ต้องการ อาจมีปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากการออกกำลังกายที่ส่งผลต่อเป้าหมายของคุณ เช่น พฤติกรรมการกินหรือการพักผ่อนที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจทำให้คุณสะสมไขมันแทนที่จะสร้างกล้ามเนื้อ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายท่านได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาและบรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น และต่อไปนี้คือ 10 พฤติกรรมที่ทำให้สูญเสียกล้ามเนื้อแบบไม่รู้ตัว

10 พฤติกรรมที่ทำให้สูญเสียกล้ามเนื้อแบบไม่รู้ตัว 

1.ไม่ทานปลา

เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการออกกำลังกายและการสร้างกล้ามเนื้อ การบริโภคปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน หรือปลาฮาลิบัต เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากปลาเหล่านี้เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและสุขภาพหัวใจ

เจนนิเฟอร์ โนวัค นักกายภาพบำบัดและผู้เชี่ยวชาญด้านความแข็งแรงและการปรับสภาพจากสมาคมความแข็งแรงและการปรับสภาพแห่งชาติ อธิบายว่า "กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้โปรตีนของกล้ามเนื้อ และยังช่วยลดการสลายของโปรตีนในกล้ามเนื้ออีกด้วย" ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Applied Physiology, Nutrition, and Metabolism ในปี 2014

สำหรับผู้ที่ไม่นิยมรับประทานปลา สามารถหาแหล่งกรดไขมันโอเมก้า 3 จากอาหารอื่นๆ ได้ เช่น เมล็ดแฟลกซ์ ถั่ววอลนัท และน้ำมันคาโนลา

2.ไม่ค่อยโดนแดด

แสงแดดเป็นแหล่งวิตามินดีที่สำคัญที่สุด และวิตามินดีมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพกระดูกและกล้ามเนื้อ การขาดวิตามินดีอาจนำไปสู่การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ

เจนนิเฟอร์ โนวัค นักกายภาพบำบัดได้อธิบายว่า "วิตามินดีไม่เพียงแต่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเพื่อสุขภาพกระดูกที่ดีเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในการสร้างและบำรุงรักษามวลกล้ามเนื้อด้วย" ดังนั้น การได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญ

หากคุณกังวลว่าร่างกายอาจขาดวิตามินดี ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวัดระดับวิตามินดีในร่างกาย และพิจารณาการรับประทานอาหารเสริมหากจำเป็น การตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาการขาดวิตามินดีได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

3.การอดอาหาร

การอดอาหารเป็นวิธีที่ไม่เหมาะสมในการลดน้ำหนัก เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอแล้ว ยังส่งผลเสียต่อการสร้างและรักษากล้ามเนื้ออีกด้วย ดังที่ Samuel Simpson ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายได้กล่าวไว้ การลดแคลอรีอย่างรุนแรงอาจทำให้ระบบเผาผลาญช้าลง ส่งผลให้คุณสูญเสียกล้ามเนื้อและสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น

แทนที่จะอดอาหาร คุณควรเน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานที่เพียงพอสำหรับการทำงานและการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้คุณรักษามวลกล้ามเนื้อได้อย่างยั่งยืน

4.การตัดคาร์โบไฮเดรต

การตัดคาร์โบไฮเดรตออกจากอาหารทั้งหมดอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป แม้ว่าการลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการแปรรูปจะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นก็ตาม แต่คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนกลับมีความสำคัญต่อการฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกายอย่างมาก คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานที่กล้ามเนื้อใช้ ซึ่งหากขาดคาร์โบไฮเดรตไป กล้ามเนื้อก็จะได้รับความเสียหายและไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่

5.ปล่อยให้ความปวดทำให้ไม่ออกกำลังกาย

หลายคนอาจคิดว่าการพักผ่อนอยู่เฉยๆ จะช่วยบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง แต่ความจริงแล้วการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมกลับเป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการปวดได้เป็นอย่างดี ดร. เบนจามิน ดอมบ์ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬา กล่าวว่า "การออกกำลังกายช่วยให้เรารักษามวลกล้ามเนื้อเอาไว้ได้ ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดข้อ และยังช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ช่วยบรรเทาอาการปวดได้อีกด้วย

6.ดื่มน้ำน้อย

คุณรู้หรือไม่ว่ากล้ามเนื้อของคุณต้องการน้ำมากแค่ไหน? เปรียบเสมือนพืชที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง กล้ามเนื้อของคุณก็ต้องการน้ำเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เคที แซมเพโย นักโภชนาการชื่อดัง กล่าวว่า "เมื่อร่างกายขาดน้ำ กล้ามเนื้อจะหดตัวได้ไม่เต็มที่ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้าและอาจเกิดอาการปวดเมื่อยได้"

ลองนึกภาพองุ่นลูกโตที่ฉ่ำน้ำ เปรียบเทียบกับลูกเกดที่เหี่ยวเฉา นั่นแหละคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อของคุณเมื่อขาดน้ำ การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้กล้ามเนื้อของคุณแข็งแรง อ่อนนุ่ม และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สถาบันการแพทย์แนะนำให้ดื่มน้ำประมาณ 9 แก้วต่อวัน แต่ปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อุณหภูมิของสภาพแวดล้อม กิจกรรมที่ทำ และสุขภาพโดยรวม หากคุณออกกำลังกายหนักหรืออยู่ในสภาพอากาศร้อน ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น

7.การไม่ทานโปรตีน

การกินอาหารที่มีโปรตีนเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกีฬาหรือเพียงแค่ต้องการมีสุขภาพที่ดี การรับประทานโปรตีนในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น

8.การนอนหลับไม่เพียงพอ

คุณรู้หรือไม่ว่าการนอนหลับเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการสร้างกล้ามเนื้อ? นอกจากการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ยังเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยให้กล้ามเนื้อของคุณแข็งแรงและเติบโต

ในขณะที่คุณหลับร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนการเจริญเติบโตซึ่งมีหน้าที่ซ่อมแซมและสร้างเซลล์กล้ามเนื้อใหม่ นอกจากนี้ การนอนหลับยังช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟื้นฟูพลังงานที่ใช้ไปในระหว่างวัน ทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและพร้อมที่จะออกกำลังกายในวันรุ่งขึ้น

 9.ไวน์แก้วโปรดอาจส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อ

ใครจะรู้ว่าการดื่มไวน์สักแก้วใน 1  สัปดาห์อาจส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อของคุณได้! แม้ว่าไวน์จะเป็นเครื่องดื่มที่หลายคนชื่นชอบ แต่การดื่มมากเกินไปอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่คาดไม่ถึง หนึ่งในนั้นคือการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ เนื่องจากแอลกอฮอลล์ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ทำให้กล้ามเนื้อขาดความชุ่มชื้นและทำงานได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งแอลกอฮอล์ยังรบกวนกระบวนการสร้างโปรตีนในร่างกาย ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน การดื่มแอลกอฮอล์จะยิ่งเร่งกระบวนการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ

 10.อยู่นิ่งนานเกินไป เสี่ยงเสียกล้ามเนื้อ

การนอนติดเตียงเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเกิดจากการบาดเจ็บ การผ่าตัด หรือภาวะสุขภาพอื่นๆ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อมวลกล้ามเนื้อ ดร. ซูเซตต์ เปเรรา นักโภชนาการได้กล่าวว่า “การนอนติดเตียงเพียงแค่ 3 วัน อาจทำให้ผู้สูงอายุสูญเสียมวลกล้ามเนื้อขาไปถึง 10%” นอกจากนี้อาการคลื่นไส้หลังการผ่าตัดที่ทำให้รับประทานอาหารไม่ได้ก็ยิ่งทำให้สภาวะแย่ลงไปอีก เพราะร่างกายจะเริ่มสลายกล้ามเนื้อเพื่อนำไปใช้เป็นพลังงาน

  • แหล่งโปรตีน 10 ชนิดที่ผู้หญิงไม่ควรพลาด เสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดี
  • วิธีออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อ 6 ส่วน ทำง่าย ได้กล้ามเนื้อสวยเป๊ะ
  • สูตรคำนวณ BMI ตัวช่วยการลดน้ำหนักสำหรับทุกเพศทุกวัย

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.