คุยกับ โก๋เอ็ม กิตติพงษ์ 25 ปี แห่งความสุขจากศิลปะและการทำงานจิตอาสา
โก๋เอ็ม กิตติพงษ์ คำศาสตร์ เรารู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในสมาชิก บุดด้า เบลส (Buddha Bless) แต่อีกหนึ่งสิ่งที่อยู่ข้างกายผู้ชายคนนี้ตลอด คือ ความรักในการขีดเขียน วาดรูป ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ทราบว่า ก่อนที่จะเป็นที่รู้จักในฐานะนักร้อง นักดนตรี โก๋เอ็มเคยเป็นนักวาดภาพโดยได้พัฒนาตัวเองจนเป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินกราฟฟิตี้ในเวลาต่อมา คลุกคลีในวงการนี้มามากกว่า 20 ปี เพราะสิ่งนี้คือความฝันและภาพที่วาดไว้ตั้งแต่วัยเด็ก
เราตั้งคำถาม ก่อนอายุ 25 ภาพในหัวเป็นอย่างไร พออายุ 25 มาถึงเป็นอย่างที่คิดไหม? โก๋เอ็ม ตอบแบบไม่ต้องคิดมากเลยว่า ภาพการทำงานด้านศิลปะ ภาพทำงานจิตอาสา หรือแม้แต่ภาพที่ได้วาดเขียนบนผืดผ้า เป็นสิ่งที่คิดว่าในขณะนั้น "จริงๆ ภาพตอนอายุ 25 คือ ภาพแบบนี้เลย ผมรู้ตัวเร็วด้วยว่าผมชอบทำศิลปะตั้งแต่เด็ก พยายามจะทำให้เป็นอาชีพตั้งแต่เด็ก หาเงินจากการทำงานศิลปะ คิดว่าวันหนึ่งโตขึ้น จะได้ทำงานศิลปะร่วมกับแกลอรี่ เห็นตัวอย่างในทีวีที่เขาเป็นอาร์ตติส ดีไซเนอร์ทำนู้นทำนี่ ไปทำงานเมืองนอกอะไรอย่างนี้ ครับ แต่ในความเป็นจริงมันก็ยังไม่เป็นอย่างนั้น เราก็ดำเนิดรอยตามความฝัน เริ่มสร้างงาน เริ่มสร้างตัวเอง หาลายเซ็นต์ มันเกิดขึ้นช่วงอายุ 25 ตอนนั้น มันอาจจะดูงงๆ ชีวิตบ้าง จับฉ่าย วาดรูปอยู่ จู่ๆ ผมก็ไปร้องเพลง ร้องเพลงอยู่ ก็ไปแสดง ช่วงนั้นอาจจะงงชีวิต แต่มันเป็นเหมือนการหาตัวเอง สิ่งสำคัญคือมันอยู่กับศิลปะตลอด"
สำหรับ ความสุขของวัย 25 ที่ผ่านมา โก๋เอ็ม บอกว่า คือการได้ทำหลายสิ่งที่ตัวเองรักและสิ่งที่เขารักก็ล้วนเป็นงานศิลปะแทบทั้งสิ้น "การได้หาความเป็นตัวเองได้อย่างชัดเจน ในความเป็นตัวเอง ในการทำงานศิลปะ ในการทำเพลง ในการทำอะไรก็แล้วแต่ ที่เป็นงานสร้างสรรค์ดีไซน์ของผม ก็เลยสนุกกับการได้ดูสื่อต่างประเทศ ได้ดูศิลปินคนนี้แสดงงาน ได้ดูดีไซเนอร์คนนั้นคนนี้สนุกกับการดูนู้นดูนี้"
ส่วนคำถามที่ว่า ถ้าย้อนกลับไปในวัย 25 อยากบอกอะไรกับตัวเอง หนุ่มจิตอาสาตอบว่า อยากบอกตัวเองในเรื่องการใช้จ่าย เพราะตอนนั้นอยากได้อะไรซื้อหมด ไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง "เบาๆ บ้าง เพราะว่าตอนนั้นเรื่องเงินก็ใช้จ่ายเยอะ หาเงินได้เร็ว พอหาได้เร็วเราก็ใช้หมดเลย ใช้เที่ยว ไปเจอเพื่อนก็ไปเต้นๆ แต่วันหนึ่งก็หาเงินจากการเต้นได้ ซื้อเสื้อผ้าใส่ เพราะว่าบางทีก็ชอบอาร์ตบนเสื้อผ้า วันหนึ่งก็ได้มาคอลแลปส์กับแบรนด์ชั้นนำที่เป็นเสื้อผ้า ก็บอกให้ตัวเองทำอะไรให้มันสุดเลย"
มองเห็นตัวเองในอีก 25 ปี เป็นอย่างไร เจ้าตัวบอกว่า อยากถูกหวยบ้าง เพราะจะได้นำเงินมาสร้างสตูดิโอ จะได้หาเงินได้เยอะกว่านี้ เพราะมีภาระเป็นน้องแมวน้องหมาจรจัดที่ช่วยเหลือไว้มากมาย "อันนี้ผมอยากถูกหวยมากเลย ผมอยากทำสตูดิโอใหญ่ๆ กว่านี้ และผมก็มีภาระเป็นน้องหมาน้องแมวเยอะ (เดือนหนึ่งต้องใช้เงินราว 4-5 หมื่นบาท ไม่รวมค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย) ผมดูข่าวคนถูกห่วย ผมนึกภาพเลย อีก 25 ปี นึกภาพตัวเองถูกหวยได้ไหม แต่เพื่อนก็บอกมึงไม่ซื้อจะถูกได้ไง ผมไม่เห็นภาพอะไรในอีก 25 ปี อันนี้ตอบยากจริงๆ มันไม่รู้สึกเลย คิดว่าน่าจะต้องเขียนรูป ทำงานศิลปะอย่างแน่นอน"
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.