“สุโขไทม์” เปิดมุมมองท่องเมืองมรดกโลก เชลียง เชียงชื่น ศรีสัชนาลัย สวรรคโลก
ใครมาสุโขทัย จะรู้ว่านอกจากอุทยานประวัติศาสตร์อันตระการตาทั้ง 3 แห่งที่อยู่ในลิสต์รายการมรดกโลกทางวัฒนธรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 คือ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ศรีสัชนาลัยและกำแพงเพชรแล้วก็ยังมีมุมงามๆ เล็กๆ ในเมืองแห่งสายน้ำและขุนเขาหลวงให้ได้ยลในแสงสว่างของวัฒนธรรมโบราณมาตั้งแต่สมัยเก่าก่อนที่ชุมชนโบราณครองตัวเป็นนครรัฐน้อยใหญ่ ก่อนที่จะมีประเทศไทยเสียอีก
ปัจจุบันประเทศไทยเรามีมรดกโลกอยู่ 6 แห่ง สุโขทัยเป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรม 3 แห่งของไทย ตั้งแต่ปีพ.ศ.2534 (มรดกโลกแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ทางวัฒนธรรม และทางธรรมชาติ) ก็คือเมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร สุโขทัยเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของชาวสยามในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 และ 14 สิ่งก่อสร้างจำนวนมากแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ของศิลปะยุคทองของชนชาติต่างๆ ที่ผสมผสานสั่งสมเรื่อยมาทุกยุค ตั้งแต่สมัยขอม ล้านนา พุกาม และที่รับมาจากศรีลังกา บ้างก็มีมีศิลปะแบบจีนแทรกซึมอยู่ในลวดลายปูนปั้น จนกลายเป็นนครหลวงของชาวสยาม (มรดกโลกอีกสองแห่งคือ นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา (พ.ศ. 2534) และแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง (พ.ศ.2535))
การเดินทางท่องเที่ยวสุโขทัยเวลา 2 วัน 1 คืน แบบสุโขไทย “สุโขไทม์” หรือ "วันเวลาแห่งความสุข" เริ่มขึ้นจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สํานักงานสุโขทัย ประสานงานการจัดทริปเส้นทางท่องเที่ยวสุโขทัย แบบ 2 วัน 1 คืน ให้กับคณะ Serenata Hotels & Resorts Group และ KTC – Bangkok Airways Mastercard เพื่อสัมผัสประสบการณ์มุมมองด้านการท่องเที่ยวมรดกโลก ในระหว่างวันที่ 21-22 สิงหาคม 2566
ทริปนี้ได้ความรู้อันมากมายมหาศาลจาก คุณวีรพงษ์ คำด้วง อาจารย์พิเศษวิชาโบราณคดีที่มาให้ความรู้ในเรื่องศิลปะวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์สุโขทัยแบบจัดเต็ม ด้วยความที่พื้นเพเป็นชาวสุโขทัยแต่เดิม ทำให้ความอินความฟินเกิดขึ้นตลอดการเดินทาง
เริ่มเขย่าความทรงจำด้านประวัติศาสตร์กันเบาๆ ที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เมืองอุปราชที่เล็กกว่าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยอยู่เกือบเท่าตัวบนพื้นที่กว่า 28,000 ไร่ แต่เดิมเคยมีชื่อเรียกขานนามถึง 4 ชื่อจาก 4 ยุค คือเมืองเชลียง (ออกเสียง ชะเลียง) เชียงชื่น ศรีสัชนาลัย และสวรรคโลก เริ่มจากยุคแรกก่อนประวัติศาสตร์คือเมืองเชลียง ที่เก่าแก่ยาวนานถึง 2,500 ปี หลังจากสุโขทัยเรืองอำนาจก็ย้ายเมืองจากเชลียงที่มีพื้นที่คับแคบมาทางทิศตะวันตกก็คือ ศรีสัชนาลัยในปัจจุบัน เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 19 คนสุโขทัยจะเรียกเมืองนี้ว่า "ศรีสัชนาลัย" แต่บางช่วงเมื่อเมืองถูกครอบครองโดยชาวล้านนา (คือเชียงใหม่) สมัยพระเจ้าติโลกราชได้เรียกเมืองนี้ว่า "เชียงชื่น" หนังสือโบราณล้านนาชาวโยนกก็จะเรียกเมืองนี้ว่า เชียงชื่น มาจนถึงสมัยอยุธยาก็ได้เรียกเมืองนี้ว่า "สวรรคโลก"
นครประวัติศาสต์ศรีสัชนาลัยอันเก่าแก่นี้ มีสถานที่ไม่ควรพลาดมากนัก แต่ในที่นี้มีมาสเตอร์พีชพลาดไม่ได้ก็คือ "วัดช้างล้อม" ที่น่าจะสร้างขึ้นตั้งแต่กลางพุทธศตวรรษที่ 19-20 ในช่วงที่พุทธศาสนาจากศรีลังกาเข้ามาที่สุโขทัยอย่างมาก และมีพระสงฆ์จากไทยเดินทางไปศึกษาพุทธศาสนาแบบเถรวาทที่ศรีลังกา นำเอาคติต่างๆ เช่น เรื่องช้าง และพระพุทธรูป 4 อิริยาบทคือ นั่ง นอน ยืน เดิน มาจากศรีลังกาด้วย เรียกว่า นี่คือส่วนหนึ่งของศิลปะจากศรีลังกาที่พบที่สุโขทัยนอกจากเจดีย์ทรงระฆัง
วัดช้างล้อม ในอุทยานฯศรีสัชนาลัยนั้นเรียกว่า ได้รับอิทธิพลจากศรีลังกามาเต็มๆ ตั้งแต่สมัยอนุราธปุระ แต่โครงสร้างเป็นศิลปะในแบบสุโขทัยที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ สุโขทัยไม่นิยมผนัง อาคารต่างๆ จะเปิดโล่งโถงหมด ให้ความสำคัญและนิยมการสร้างวิหาร (ไม่มีใบเสมา) มากกว่าพระอุโบสถ (มีใบเสมา) จึงมีขนาดใหญ่กว่า วิหารจะเปิดโล่งไม่มีผนัง แต่มีเสา เราจึงได้เห็นสถาปัตยกรรมแบบเปิดโล่งและเต็มไปด้วยเสามากมายที่นี่ ส่วนตัวอาคารและพื้นก่อสร้างด้วยศิลาแลงแทบทั้งสิ้น เพราะเป็นวัสดุที่หาได้มากในแถบนี้ จุดเด่นของวัดนี้คือ ฐานเจดีย์ที่ล้อมรอบด้วยช้างแบบเต็มตัวและยังสมบูรณ์อยู่มากถึง 39 ตัว จำนวนนี้ยังไม่ทราบข้อสรุปจากนักโบราณคดีว่าหมายถึงอะไร แต่ที่แน่ๆ ช้างหรือสิงห์มีความหมายในเชิงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในตำนานป่าหิมพานต์ที่คอยปกป้องคุ้มครองพระพุทธเจ้านั่นเอง (ว่ากันว่าวัดทางอยุธยาจะนิยมสิงห์) เรียกว่าช้างนั้นได้มาจากศรีลังกา ส่วนเสาประทีป (สำหรับวางดวงประทีปเพื่อให้แสงสว่างและเป็นพุทธบูชา) ของวัดอิทธิพลมาจากพุกาม และยังมีรูปสลักพระพุทธรูปรายล้อมเจดีย์ทุกด้าน ไม่ธรรมดาเลย
รู้ไหมว่า พระพุทธรูปแบบสุโขทัย เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้สุโขทัยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เพราะว่าสุโขทัยถือเป็นต้นกำเนิดของปฏิมากรรมพระพุทธรูปที่จัดเป็น ยุคทอง หรือว่า Golden age หรือ Classic age ของศิลปกรรมไทยเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 19-20 ถ้าเทียบกับยุโรปก็คือ ยุคเรเนซองส์ เพราะพระพุทธรูปของสุโขทัยได้รับการโหวตจากพระมหากษัตริย์ในสมัยรัตนโกสินทร์คือ รัชกาลที่ 4 5 และ 6 ที่ชอบพระพุทธรูปสุโขทัยมากจนถึงกับย้ายพระพุทธรูปจากสุโขทัยมาหลายองค์ เช่น พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และยังจำลองพระพุทธชินราชไปไว้ที่วัดเบญจมบพิตรด้วย
จุดเด่นของพระพุทธรูปสุโขทัย ที่เห็นได้ชัดจากพระพักต์ก็คือ ความสงบสุขจากรอยยิ้ม พระพุทธรูปศิลปะแบบสุโขทัยจะยิ้มทุกองค์ ต่างจากอยุธยาที่จะดูขรึมตามแบบเทวราชาแบบเขมรหรือขอม
วัดเจดีย์เจ็ดแถว มีการสันนิษฐานว่า ที่นี่คือสุสานหลวง และอาจเคยเป็นที่อยู่ของชนชั้นสูง มีการขุดค้นเจอเครื่องปั้นดินเผา และเซรามิกคุณภาพดีในสมัยราชวงศ์หยวน ราชวงศ์หมิงเป็นจำนวนมาก มีอัฐิธาตุของบุคคลที่ไม่สามารถระบุนามได้เพราะไม่พบจารึกบรรจุไว้ในเจดีย์ที่ตั้งอยู่รายรอบ รูปแบบของเจดีย์ในวัดนี้มีรูปแบบศิลปะที่ผสมผสานกันชัดเจนทั้ง 33 องค์ เช่น เจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนา เจดีย์ทรงดอกบัวตูมแบบสุโขทัย มีช่างหลายสกุลมาสร้างไว้ตามเชื้อสายของเจ้านาย วัดนี้ถ้าใครชอบศิลปะมาก็จะได้เห็นรูปแบบของศิลปะมากมาย และจะได้รู้ถึงที่มาของแรงบันดาลใจจากชนชาติต่างๆ
จุดเด่นห้ามพลาดวัดนี้คือ พระพุทธรูปนาคปรกที่สมบูรณ์และงดงามสุดๆ ด้านหลังของเจดีย์องค์หนึ่งใน 33 องค์นี้
ว่ากันว่า ช่างสุโขทัยได้รับแรงบันดาลใจมาจากหลายที่มา ทั้งจากปราสาทแบบเขมรและดอกบัวตูมที่มาจากเจดีย์ทรงระฆังแบบพุกาม จนกลายเป็นเจดีย์รูปทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หรือดอกบัวตูมในแบบสุโขทัยเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 20
วัดนางพญา สร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น (ช่วงที่สุโขทัยอยู่ในอำนาจของอยุธยา) ราวปีพ.ศ. 2025 ในสมัยพระบรมไตรโลกนาถที่เสด็จมาประทับอยู่ที่พิษณุโลกที่วังจันทน์ ตรงข้ามกับวัดพระพุทธชินราช ช่วงที่มีศึกสงครามกับเชียงใหม่ สมัยพระเจ้าติโลกราชในเวลานั้น มีลักษณะแบบอยุธยาคือมีผนังที่มีช่องหน้าต่างยาวๆ และอีกรูปแบบในสมัยอยุธยาตอนต้นที่เห็นได้ชัดก็คือ อิทธิพลของศิลปะจีน จากลวดลายวิจิตรบนผนังที่เรียกรวมกันว่า "ลายพรรณพฤกษา" หรือ ลายดอกไม้ใบไม้ เช่น ลายดอกโบตั๋น หรูอี้ (ลายขดรูปสามเหลี่ยมมนด้านมุมบนสุดที่ดูอ่อนช้อยเหมือนรูปหัวใจต่อกันขึ้นไป) และยังมีลวดลายแบบล้านนาผสมอยู่ด้วย ว่ากันว่ารูปแบบศิลปะแบบอยุธยาตอนต้นที่วัดนี้เป็น political meaning อีกอย่างหนึ่งที่แสดงถึง การครอบครองนครเก่าแก่แห่งนี้ด้วยศิลปะในแบบของตนนั่นเอง
ยังไม่จบแค่นี้กับ “ประวัติศาสตร์สุโขทัยใน 3 วัดที่ศรีสัชนาลัย” ยังมีต่อกันอีกที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยในอำเภอเมือง ก่อนเข้าสู่วันเวลาของการเผาเทียนเล่นไฟในช่วงวันลอยกระทงที่จะมีการจัดงานด้วยแสง สี เสียงอย่างยิ่งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายนที่จะมาถึง
ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของจุดหมายในเมืองสุโขทัยที่ ททท.ได้คัดสรรมาจากแคมเปญ “สุโขไทม์” ที่ผนวกรวมกันในเส้นทาง ทั้งกิจกรรมงานคราฟท์และงาน DIY กิจกรรมพิมพ์พระที่บ้านพระพิมพ์ชุมชนเมืองเก่าจังหวัดสุโขทัย ทําพวงกุญแจจากเศษผ้าทอ ณ ร้านสุนทรีผ้าไทย เขียนลายสังคโลก ที่ร้านโมทนาเซรามิค และนั่งหามุมพักหลบร้อนที่ ร้านชมปรางค์ คาเฟ่สไตล์ไทยพร้อมชม วิววัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรมหาวิหาร (วัดพระปรางค์) อําเภอศรีสัชนาลัยนอกจากอิ่มกายแล้วยังอิ่มใจกับการได้ร่วมใส่บาตรสะพานบุญรับรุ่งอรุณแห่งความสุข แบบชาวสุโขทัย ณ วัดตระพังทอง ต.เมืองเก่า จ.สุโขทัยด้วย
สิทธิพิเศษ: เคทีซียังได้ร่วมกับบางกอกแอร์เวย์ส เซเรนนาต้า โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทกรุ๊ป และด้วยการสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย (ททท.) และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) จัดแพ็คเกจพิเศษสำหรับคนที่ชอบการท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์เพื่อความยั่งยืน "บิน เที่ยวสุโข โลว์คาร์บอนฯ 3 วัน 2 คืนกับ KTC World " ในราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 6,550 บาท ต่อท่านประกอบด้วยตั๋วเครื่องบินไป-กลับเส้นทางสุโขทัย กับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ห้องพัก 2 คืน รวมอาหารเช้าที่โรงแรมเลอเจนด้าสุโขทัยในเครือเซเรนนาต้า เข้าร่วมกิจกรรมชุมชนทริปปั่นจักรยานเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย พร้อมเลือกรับประสบการณ์กับกิจกรรมชุมชน ได้แก่ กิจกรรมพิมพ์พระดินเผา บ้านลักษมณศิลป์ หรือกิจกรรมเขียนลายผ้าสุโขทัย พิเศษ สมาชิกบัตรเครดิต KTC – BANGKOK AIRWAYS รับส่วนลดเพิ่ม 550 บาท ต่อท่าน จองและเดินทางตั้งแต่ 1 กันยายน 2566 - 25 ธันวาคม 2566 โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ KTC World Travel Service โทร 02 123 5050 หรือ @LINE : KTCWORLD”
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.