ทำความเข้าใจ “ซึมเศร้า” คือโรค ต้องรักษากับหมอ หายเองไม่ได้
“เศร้า” กับ “ซึมเศร้า” แตกต่างกันตรงที่ อาการเศร้า เป็นเพียงอาการชั่วคราวที่สามารถหายไปได้เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ เมื่อสมอง และจิตใจยอมรับ และเข้าใจในสิ่งที่เกิดได้ ความรู้สึกเศร้าก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น แต่หากเป็น “โรคซึมเศร้า” มันไม่ใช่เพียงความเศร้าชั่วคราว นานวันเข้าอาจกระทบกระเทือนชีวิตการทำงานจนอาจต้องจากโลกก่อนวัยอันควรได้
สาเหตุของโรคซึมเศร้า
รศ.นพ.ศิริไชย หงส์สงวนศรี สาขาวิชาจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น ภาควิชาจิตเวชศาสตร์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่เกิดจากหลายปัจจัยมาก โดยภาพรวมก็เป็นปัจจัยทางด้านจิตใจ การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อมที่ทำให้ตัวเองมีแนวโน้มที่จะมองตัวเองในทางลบ วัยเด็กอาจจะถูกทอดทิ้ง หรือว่าใช้ความรุนแรง หรือว่ามีความห่างเหินทางด้านจิตใจระหว่างผู้ป่วยกับพ่อแม่ หรือมีการเลี้ยงดูที่ไม่ค่อยถูกต้องต่าง ๆ ไม่ค่อยได้เสริมให้เด็กมีกำลังใจหรือว่าเป็นคนที่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง หรือว่าอาจจะมีความเครียดต่อเนื่องกันมานาน ๆ สุดท้ายแล้ว ประสบการณ์ที่เขาเติบโตมา ไม่ว่าจะเป็นจากการเลี้ยงดู หรือว่าปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดความเครียดต่าง ๆ มันก็มีผลต่อการทำงานของสมองที่ควบคุมเรื่องของอารมณ์
โรคซึมเศร้า ต้องรีบพบแพทย์
มีหลายคนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังเป็นโรคซึมเศร้า กว่าจะถึงมือแพทย์ได้ก็ตอนที่พยายามจะทำร้ายตัวเอง คนที่โชคดีอาจจะทำร้ายตัวเองไม่สำเร็จแล้วรอดชีวิตมาได้ จนได้เข้ารับการรักษาโรคซึมเศร้ากับจิตแพทย์
แต่จะรอจนกว่าจะถึงวันที่ลงมือทำร้ายตัวเองก็ดูจะสายเกินไป ปัจจุบันมีแบบทดสอบที่จะคัดกรองประเมินตัวเอง (คลิกที่นี่) หากเราประเมินตัวเองแล้วรู้สึกว่าอารมณ์ของเราเปลี่ยนไปจากเดิม มันมีผลกระทบต่อชีวิตของเราเยอะ จากที่เราเคยมีความสุขในการที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือทำงานตามหน้าที่ได้ตามปกติ มันเริ่มท้อถอยไป แล้วก็รู้สึกจิตใจห่อเหี่ยว ซึมเศร้า ไม่มีความสุข อาจจะคิดลบต่าง ๆ หรือมีอาการนอนไม่หลับ ความคิดความจำลดลงนั้น ก็ควรจะมาพบแพทย์ได้แล้ว ไม่ต้องรอให้อาการเยอะจนกระทั่งความคิดด้านลบมันอยู่เป็นเวลานาน หรือจนกระทั่งคิดจะทำร้ายตัวเอง
รักษาโรคซึมเศร้าด้วยการกินยา และผลข้างเคียง
รศ.นพ.ศิริไชย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การรักษาด้วยยาทางจิตเวชที่รักษาโรคซึมเศร้า จะไม่ใช่ยาที่รับประทานแล้วจะดีขึ้นมาในวันสองวัน ส่วนใหญ่จะใช้เวลาเป็นสัปดาห์ 1-2 สัปดาห์ขึ้นไปถึงจะดีขึ้น
หากถามว่ามีผลข้างเคียงอย่างไร โดยทั่วไป ถ้าเป็นยารักษาโรคซึมเศร้ารุ่นเก่า ๆ ก็จะมีผลข้างเคียงเยอะตั้งแต่ปากแห้ง ท้องผูก ใจสั่น แต่ยารักษาโรคซึมเศร้ารุ่นหลัง ๆ ผลข้างเคียงต่าง ๆ จะน้อยกว่ายารุ่นก่อน แต่ก็จะยังมีอยู่ เช่น อาจจะมีความรู้สึกคลื่นไส้ พะอืดพะอม บางคนก็จะเวียนหัว อาจจะมีใจสั่นมือสั่นบ้าง แต่โดยทั่วไป ผลข้างเคียงมันก็จะค่อย ๆ ลดลงเหมือนเราทนกับยาได้มากขึ้น
ถ้าหมอไม่ได้อธิบายไว้ก่อน ผู้ป่วยก็จะไม่ค่อยอยากกินยาเพราะว่าการกินยาช่วงแรก ผลของมันจะยังไม่เห็น แต่ว่าผลข้างเคียงจะมาก่อน เพราะฉะนั้นผู้ป่วยก็จะต้องเข้าใจเหมือนกันว่า ช่วงแรกอาจจะต้องทนกับผลข้างเคียงนิดนึง แล้วมันก็จะลดลง ส่วนเรื่องอารมณ์มันจะใช้เวลาระยะหนึ่ง โดยทั่วไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ที่จะเริ่มเห็นผลได้ชัดเจน
การรักษาโรคซึมเศร้าด้วยการบำบัดจิตใจ
การรักษาโรคซึมเศร้าต้องมีการบำบัดทางด้านจิตใจร่วมด้วย และยารักษาโรคซึมเศร้าตัวหนึ่ง ไม่ใช่ได้ผลกับทุกคน บางคนก็อาจจะ ได้ผลดีกับตัวนี้ บางคนก็อาจจะได้ผลดีกับอีกตัว เพราะฉะนั้น เวลาเริ่ม รักษา ถ้ารักษาไประยะหนึ่ง เช่น 4 สัปดาห์ หรือ 6 สัปดาห์ แล้วดูอาการยังไม่ค่อยดีขึ้น หมอก็อาจจะพิจารณาการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วย แต่ละคน
ระหว่างรักษาโรคซึมเศร้า ต้องพยายามใช้ชีวิตให้ปกติ
ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าควรพยายามทำกิจวัตรประจำวันให้ใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด พบปะเจอะเจอผู้คน ทำกิจกรรมต่าง ๆ แล้วก็อาจจะต้องใช้วิธีอื่น ๆ เช่น การออกกำลังกาย การผ่อนคลายความเครียดด้วยวิธีทั่ว ๆ ไป เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูหนัง เป็นต้น ทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายใจให้ได้มากที่สุด หรืออาจเลือกทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ เช่น ลงเรียนคอร์สที่สนใจ ช่วยเหลือหมาแมวจรจัด ทำบุญเลี้ยงอาหารเด็ก ดูแลคนชรา ฯลฯ ได้ใช้ความรู้ความสามารถที่ตัวเองมีในทางที่เป็นประโยชน์ จะช่วยให้เห็นคุณค่าของตัวเองมากยิ่งขึ้น
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.