คลัง ไม่ถอยแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น ชี้ชัดแหล่งที่มาของเงินสิ้นเดือนต.ค.นี้

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้า โครงการแจกเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หลังนักเศรษฐศาสตร์ และนักวิชาการลงชื่อออกมาคัดค้านโครงการว่า กระทรวงการคลังยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการ เพื่อให้เงินถึงมือประชาชนในวันที่ 1 ก.พ.2566 ตามที่ได้ประกาศไว้ เนื่องจากเป็นนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภาฯ และประชาชนไว้แล้ว จึงต้องเดินหน้าต่อไป และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ จากตัวเลขทางเศรษฐกิจไทยที่ชัดว่า  เศรษฐกิจไทยยังมีความเปราะบาง ภาคเกษตรกรมีรายได้ลดลง ระดับหนี้ครัวเรือนสูง เป็นต้น ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าภูมิภาค ขยายตัวต่ำที่ควรเป็นมานาน 

 

ดังนั้นเราต้องจุดชนวน หรือรีสตาร์ทชีวิตเศรษฐกิจให้ขยายตัวอีกครั้ง โดยตั้งเป้าว่าโครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 5% ต่อปี ในระยะเวลา 3-4 ปีข้างหน้า ภายใต้การเติบโตอย่างอย่างมีศักยภาพ และควบคู่ไปกับเสถียรภาพ

 

“วันนี้เราสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชนว่า  รัฐบาลจะเดินหน้าโครงการเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ต จะทำโครงการนี้ให้สำเร็จ เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนร้อยทั้งร้อย และภาคเอกชนรอคอย โครงการนี้ไม่เพียงกระตุ้นการใช้จ่ายยัง เกิดการลงทุน ขยายกิจการ เกิดการจ้างงาน สร้างคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น จากการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะคำนึงถึงความคุ้มค่า วินัยการเงินและการคลัง” นายจุลพันธ์ กล่าว

 

นอกจากนี้ เงินที่ใช้ไปกับโครงการจะได้คืนกลับมาในรูปแบบตัวคูณทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น อาทิ รายได้จากภาษี VAT และยังเป็นสร้างรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล และ GOVERNMENT ในอนาคต ส่วนที่มีการพูดว่า เงินดังกล่าวเป็นเงินคริปโตเคอเรนซี่มีการซื้อกักตุนไว้ก่อนแล้ว ขอยืนยัยว่าไม่ใช่การเสกเงินมาใหม่ ไม่มีการปรับมูลค่า แบ็คอัพบาทต่อบาท แต่ในบาทดิจิทัล ที่มีการกำหนดเงื่อนไขการใช้ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลา และนำไปใช้จ่ายหนี้สิน

 

นายจุลพันธ์ ยังกล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชน และทุกฝ่ายมั่นใจว่า รัฐบาลจะทำโครงการนี้ให้สำเร็จ ส่วนกระแสคัดค้านของบรรดานักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์นั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่สังคมได้มีการแสดงความเห็นอย่างเปิดกว้าง หลังจากที่ไม่ได้เห็นมานาน ซึ่งทางรัฐบาลยืนยันว่า จะเปิดกว้าง และไม่ปิดกั้นทุกความคิดเห็น จะปรับแก้ให้เกิความสมดุล ซึ่งคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet  จะรวบรวมนำข้อมูลนำไปเสนอไปเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีนายกฯเป็นประธาน เพื่อพิจารณาต่อไป

 

สำหรับที่มาของเงินที่มาทำโครงการ ที่หลายคนสงสัย ขณะนี้คณะกรรมการฯอยู่ระหว่างพิจารณาแหล่งที่มา เนื่องจากมีหลายทางเลือก ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากงบประมาณ 2567 ส่วนจะมาจากมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 ด้วยหรือไม่นั่น จะสามารถสรุปความชัดเจนได้ภายในสิ้นเดือนต.ค.นี้  ส่วนเงื่อนไขรัศมี 4 กม.นั้น เป็นอำนาจของอนุกรรมกร ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการขยายกรอบให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น อาจเป็นตำบล อำเภอ หรือจังหวัด โดยจะได้ข้อสรูปในสิ้นเดือนนี้เช่นกัน
 

 

ทั้งนี้ จะมีการประชุมของคณะอนุกรรมการฯนัดแรกในวันที่ 12 ต.ค.นี้ และในวันที่ 19 ต.ค.นี้จะเป็นการประชุมนัดที่ 2 เพื่อหาข้อสรุปของโครงการ และที่มาของเงิน และนำเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ต่อไป 


ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  กล่าวว่า หากดูตัวเลขทางเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะภาคส่งออก ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยนอกประเทศจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก จึงคิดว่า เครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพียงเครื่องเดียวจึงไม่พอที่จะประคับประครองเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ยากลำบากมากขึ้น ขณะที่การบริโภค การเก็บภาษี VAT ยังไม่โต จะไปเติบโตในกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม หรือร้านอาหารเท่านั้นจึงมีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐฏิจโดยเร็ว

 

นายลวรณ แสงสนิท  ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า นโยการเงิน กับนโยบายการคลังควรดำเนินการสอดประสานกัน โดยต้องมีการพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าเราจะดูแลเสถียรภาพ แต่ไมต้องไม่ละเลยหากเห็นจีดีพีขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพที่ควรเป็น ซึ่งเป้าหมายที่ต้องการคือ จีดีพีขยายตัวได้ 5% ทุกปี 


“อยากให้เชื่อมั่นว่า เราเป็นมืออาชีพของกระทรวงคลัง จะรักษาเสถียรภาพการคลังอย่างเหมาะสม เราพร้อมรับฟัง เพื่อให้นโยบายออกมาสมบูรณ์แบบ เหมาะสมกับประเทศให้มากที่สุด” นายลวรณ กล่าว 


อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าว จะต้องเปิดให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย อายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 56 ล้านคน ลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัว ซึ่งสุดท้ายแล้วคนที่ได้ประโยชน์จะอยู่ที่เท่าไรนั้น จะต้องติดตามอีกครั้ง
 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.