ราคาทองวันนี้ (9 ต.ค.) ที่เปิดตลาดราคาดีดแรง 400 บาท

รายงานราคาทองวันนี้ (9 ต.ค. 2566) โดยสมาคมค้าทองคำประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 9.26 น. ซึ่งราคาทะยาน 400 บาทเมื่อเทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวันก่อนหน้า (7 ต.ค. 2566) ที่ระหว่างวันมีการเปลี่ยนแปลงไปเพียง 1 ครั้ง ซึ่งรวมแล้วราคาปรับขึ้น 150 บาท

ราคาซื้อขายทองคําในประเทศชนิด 96.5% วันที่ 9 ตุลาคม 2566 (ประกาศครั้งที่ 1)

ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 32,450 บาท
รับซื้อบาทละ 32,350 บาท 

ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 32,950 บาท 
ฐานภาษีบาทละ 31,760.20 บาท

ฮั่วเซ่งเฮงมองแนวโน้มตลาดทองคำปรับขึ้นแรง โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้น +12.74 ดอลลาร์ คิดเป็น 0.70% และปิดตลาดที่ระดับ 1,832 ดอลลาร์

Gold spot

สูงสุด – 1,834 ดอลลาร์

ต่ำสุด – 1,810 ดอลลาร์

ราคาทองคำแท่ง

สูงสุด – 32,050 บาท

ต่ำสุด – 32,050 บาท

สำหรับภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาสัปดาห์ก่อนราคาทองลงแรงต่อ ทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จากแรงกดดันเงินดอลลาร์แข็งค่าสุดรอบเกือบ 1 ปี และ Bond yields สหรัฐพุ่งขึ้นสูงสุดรอบ 16 ปี หลังจากตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐแข็งแกร่งเกือบทุกตลาด โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 336,000 ตำแหน่ง ดีเกินคาด ส่วนกองทุน SPDR ถือทองต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2562

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ยนอกจากนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC

ทั้งนี้มองว่าราคาทองคำคาดจะปรับขึ้นแรง หลังจากราคาลงแรงทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และสงครามอิสราเอล-ฮามาสที่เกิดขึ้น ทำให้คาดมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แนวรับ 1,830 และ 1,820 ดอลลาร์ แนวต้าน 1,850 และ 1,860 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

แนวรับ 1,830 และ 1,820 ดอลลาร์

แนวต้าน 1,850 และ 1,860 ดอลลาร์

แนะนำเข้าซื้อราคาทองคำบริเวณ 1,820 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุน ที่ 1,810 บาท

ราคาทองคำแท่ง 96.5%

แนวรับ 32,100 และ 32,000 บาท

แนวต้าน 32300 และ 32,400 บาท

ราคาทองคำต่างประเทศมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น และค่าเงินบาทชะลอการอ่อนค่าลง แนะนำเข้าซื้อทองคำแท่งบริเวณ 32,000 บาท และ 31,900 บาท

สงครามอิสราเอล-ฮามาส หนุนทองขึ้นต่อ

Gold Bullish

• ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
• ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคาร
• ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส

Gold Bearish

• แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอยู่ระดับสูงที่ยาวนานขึ้น
• สงครามอิสราเอล-ฮามาส หนุนราคาทองคำปรับขึ้นต่อ

ราคาทองคำในวันศุกร์เริ่มฟื้นตัวขึ้นทางเทคนิคหลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ขณะที่ช่วงวันหยุดของสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาส (Hamas) หรือองค์กรการเมืองติดอาวุธของชาวปาเลสไตน์ได้ยิงจรวดถล่มพื้นที่อิสราเอลตอนใต้กว่า 5,000 ลูกในการโจมตีครั้งแรก พร้อมกับส่งกองกำลังปาเลสไตน์เข้ามาในอิสราเอลทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เกิดผลกระทบและความเสียหายต่ออิสราเอล เพราะการโจมตีครั้งนี้ได้ลึกเข้าไปสู่กรุงเยรูซาเลมและเมืองสำคัญต่าง ๆ ทำให้กองทัพอิสราเอลตอบโต้กลับในปฎิบัติการดาบเหล็ก จนนำไปสู่การประกาศภาวะสงคราม

ด้วยประเด็นดังกล่าวจะเป็นปัจจัยส่งผลบวกต่อราคาทองคำได้ต่อในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ต้องติดตามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะขยายวงกว้างหรือไม่?  เนื่องจากอิสราเอลเป็นประเทศที่สหรัฐให้การสนับสนุน ขณะที่ฝรั่งเศส  สหภาพยุโรป (EU) และเนเธอร์แลนด์ก็ต่างแสดงการสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นกัน หากสถานการณ์ขยายวงกว้างก็จะกระทบต่อการค้าการลงทุน

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามท่าทีของอียิปต์ ตุรกี และประเทศอื่น ๆ ที่อาจเป็นประเทศที่ช่วยเจรจาเพื่อบรรเทาความรุนแรงได้ ซึ่งตุรกีก็เผยพร้อมช่วยลดความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสของปาเลสไตน์ โดยตุรกีเคยให้การสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในอดีต และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของทั้งสองรัฐ และกำลังพยายามกระชับความสัมพันธ์กับอิสราเอล ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้นายกรัฐมนตรีอิสราเอลอาจเดินทางเยือนตุรกีในเดือนต.ค.-พ.ย. เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงาน ส่วนตุรกีวางแผนจะเยือนอิสราเอลในเดือนพ.ย.นี้

สำหรับการโจมตีในครั้งนี้ ถือว่าเป็นสงครามอิสราเอล-ฮามาสที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ โดยสงครามครั้งล่าสุดระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลเกิดขึ้นเมื่อปี 2564 โดยครั้งนั้นการปะทะกินเวลา 11 วัน เกิดการสูญเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย ซึ่งความขัดแย้งดังกล่าวมาจากความเชื่อทางศาสนา ที่เกี่ยวข้องกับนครที่ชื่อว่า กรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งเคยเป็นข้อพิพาทของหลายศาสนาตั้งแต่อดีตในช่วงสงครามเมื่อปี 2510 ที่เกิดสงครามครั้งใหญ่ ชื่อ ‘สงคราม 6 วัน’ (Six Day War)

โดยอิสราเอลได้ยึดเยรูซาเลมตะวันออก เขตเวสต์แบงก์ ฉนวนกาซา ชัยชนะของอิสราเอลสร้างความไม่พอใจในดินแดนปาเลสไตน์ ชาวปาเลสติเนียนจึงก่อตั้ง “องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ หรือ Palestine Liberation Organization : PLO” ที่จะสู้รบแบบกองโจร ขณะที่มีบางกลุ่มมองว่า PLO อ่อนแอเกินไป จนเกิดการสร้างกลุ่มใหม่ขึ้นมาชื่อว่า “กลุ่มฮามาส (Hamas)” เป็นกองกำลังติดอาวุธ และปฎิเสธการเจรจาอย่างสันติทุกรูปแบบ

ส่วนความขัดแย้งและความตึงเครียดในครั้งนี้ คาดว่าอาจจะยืดเยื้อเป็นระยะเวลายาวนาน แต่สิ่งสำคัญสงครามครั้งนี้จะสามารถจำกัดในบริเวณพื้นที่นั้น หรือจะขยายวงกว้างได้มากน้อยขนาดไหน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า อิสราเอล เป็นพันธมิตรกับชาติตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกา ขณะที่ปาเลสไตน์ก็ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และรัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่าน จึงอาจกลายเป็นสงครามระหว่าง 2 ขั้วอำนาจ ซึ่งอาจส่งผลต่อแรงซื้อทองคำเข้ามาในช่วงแรกจากความกังวลดังกล่าว

ในขณะที่นักลงทุนก็ยังคงติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากโดยปกติแล้วราคาทองคำมักจะดีดตัวขึ้นจากความกังวลของภาวะสงคราม อย่างเช่นในช่วงต้นปี 2563 ราคาทองคำดีดตัวขึ้นจาก 1,550 ดอลลาร์ สู่ระดับ 1,600 ดอลลาร์ หลังจากมีการปะทะกันระหว่างสหรัฐและอิหร่าน และหลังจากนั้นราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อจากความกังวลว่าเหตุการณ์อาจรุนแรงจนขยายวงกว้างออกไปด้วยอิหร่านและสหรัฐเป็นประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์และอื่นๆ

ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways up สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. นอกจากนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ส่วนสัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่  1,830 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,860 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,880 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 31,800 บาท และ 31,600 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 32,100 บาท และ 32,300 บาท