จับตาการสู้รบหวั่นรุนแรงต่อ หุ้นไทยเน้นตั้งรับเล่นรีบาวด์
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ร่วง 14 จุด (-0.97%) ปิดที่ระดับ 1,438 จุด จากแรงขายหุ้นกลุ่ม โรงไฟฟ้าหลังโบรกต่างชาติปรับลดคำแนะนำและราคาเป้าหมาย อีกทั้งยังมีแรงขายหุ้น DELTA หลังพบรายการ Big Lot ราคาต่ำกว่าในกระดาน
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,430 - 1,435 จุด ภาวะตลาดถูกกดดันจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสซึ่งจะทำให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเป็นลบต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
ซึ่งสถิติเมื่อเดือน พ.ค. ปี 2021 เหตุการณ์รุนแรงในอิสราเอลส่งผลกระทบต่อไทยจำกัด ทั้ง ภาคการค้าและการลงทุนในตลาดหุ้น (SET ลดลง 9 จุด ในวันแรก, ลดลง 7 จุด และ 23 จุดในวันที่ 2 และ 3 ตามลำดับ) แต่ประมาทไม่ได้เพราะหากสงคราม ขยายวงกว้างไปสู่ประเทศอาหรับอื่นๆ อาจจะส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งแรงกลายเป็นวิกฤตพลังงาน เงินเฟ้อ และ เศรษฐกิจโลกอย่างเลี่ยงไม่ได้
ขณะที่ ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นแรงจากความกังวลด้าน Supply รวมถึงแรงซื้อรีบาวด์ตามเทคนิคภาวะ Oversold จะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม กราฟ SET ไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญ 1,460 จุดส่งผลให้มีแรงขายกดดัชนีทรุดตัวลงอีกครั้ง อีกทั้งเครื่องมือ MACD กับ RSI ทิ้งตัวลงให้สัญญาณลบทั้งคู่ ดังนั้นประเมินว่า SET จะอ่อนตัวแนวรับ 1,430 - 1,435 จุด แต่มองเป็นจังหวะซื้อเล่นรีบาวด์จากภาวะ Oversold ของ RSI ทั้งนี้มีจุด Cut loss หากหลุด 1,430 จุด
กลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy
PTTEP BCP SPRC TOP ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น
TU ITC AAI ASIAN CFRESH MEGA KCE HANA อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า
ADVANC INTUCH BEM BTS BDMS BCH กลุ่ม Defensive ช่วงตลาดพักตัว
หุ้นแนะนำวันนี้
PTTEP (ปิด 162 ซื้อ/เป้า 196 บาท) ราคาหุ้นผ่านการปรับฐานตามราคา น้ำมันมาแล้ว สัปดาห์นี้คาดจะเห็นการฟื้นตัวทั้งราคาน้ำมันและราคาหุ้นของ PTTEP นอกจากนี้ยังมีประเด็นความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง
ช่วยหนุน Sentiment
CHG (ปิด 3.34 ซื้อ/เป้า 3.50 บาท) คาดมีกำไรสุทธิ 3Q23 ที่ 243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%qoq จากแรงหนุนของจำนวนผู้ป่วยในประเทศที่สูงขึ้นตามการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ อาทิ ไข้เลือดออก, ไข้หวัดใหญ และมือเท้าปากในเด็ก
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาฟื้นตัวคลายกังวลวิกฤติ ศก. หลัง Nonfarm payrolls สหรัฐดีเกินคาด: ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 288 จุด ตลาดมีมุมมองเชิงบวกจากตัวเลขในตลาดแรงงานของสหรัฐ หลังจากที่จำนวนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) เดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 336,000 ตำแหน่งมากกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 170,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานทรงตัวที่ 3.8% สวนทางกับที่ Consensus คาดว่าจะลดลงเป็น 3.7%
(+/-) ตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือน ก.ย. ของสหรัฐจะบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยของเฟด: สหรัฐจะประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือน ก.ย.ในวันที่ 12 ต.ค. โทนโดยรวมเป็นกลางเนื่องจาก Consensus คาด Headline CPI เดือน ก.ย. จะอยู่ที่ระดับ 3.6 ถึง 3.8% ใกล้เคียงกับเดือน ส.ค. ที่ 3.7% และ คาด Core CPI จะลดลงเป็น 4.1% จาก 4.3% ในเดือน ส.ค.
พลังงานต้นน้ำฟื้น
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับลดลงต่อ และยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ที่ชัดเจน ทำให้โมเมนตัมของ SETI ยังดูเป็นลบ เราจึงแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเหลือ 85% และให้เน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ เช่นกลุ่มพลังงานต้นน้ำและกลุ่มธนาคารที่ใกล้รายงานผลการดำเนินงาน 3Q66
ในเชิงกลยุทธ์ ในช่วงนี้คงแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว ได้แก่ 1) หุ้นอิงการท่องเที่ยว ได้ผลบวกจากภาคการท่องเที่ยวไทยที่กลับมาคึกคัก หลัง ครม. มีมติให้นักท่องเที่ยวจากจีนและคาซัคสถานสามารถเดินทางมาไทยได้โดยไม่ต้องขอ visa ถึงสิ้นเดือน ก.พ. 67 เป็ นบวกต่อ AAV, AOT, BA, CPALL, ERW
2) หุ้นกลุ่มที่คาดได้ประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่จากการปรับลดอัตราค่าไฟฟ้า และราคาน้ำมันดีเซล เราชอบ ADVANC, CPALL, SJWD
สำหรับวันนี้(9 ต.ค.66) ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยขับเคลื่อนราคาที่น่าสนใจติดตามหลายประเด็น ดังนี้ 1) การปะทะกันระหว่าง อิสราเอล-ฮามาส ทำให้ตลาดกลับมากังวลด้านอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว หนุนราคาน้ำมันดิบโลกเช้าวันนี้ดีดกลับแรงเกือบ 5%DoD บวกต่อพลังงานต้นน้ำ เช่น PTTEP และกลุ่มโรงกลั่นที่ค่าการกลั่นน่าจะฟื้นตัวในทิศทางเดียวกัน เช่น BCP, TOP, SPRC
2) ในช่วงนี้เรายังค่อนข้างชอบกลุ่มธนาคารที่นอกจากจะได้ sentiment เชิงบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทั้งไทยและสหรัฐฯ ทรงตัวในระดับสูงแล้ว ยังใกล้เข้าสู่การรายงานผลดำเนินงาน 3Q66 ที่คาดว่าจะออกมาดีอีกด้วย เราชอบ BBL ขณะ KBANK ที่ราคายัง laggard กลุ่ม
3) ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือน ก.ย.อยู่ที่ 3.36 แสนตำแหน่ง มากกว่าตลาดคาด 1.7 แสนตำแหน่ง และเดือนก่อนหน้าที่ 227 แสนตำแหน่งค่อนข้างมาก แต่ปัจจัยดังกล่าวถูกหักล้างด้วยอัตราการว่างงานที่ออกมาเท่ากับคาด และอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าแรงที่ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย
อย่างไรก็ดีหากสัปดาห์นี้หลุดต่ำกว่า 1,425 โมเมนตัมจะดูแย่ลงอีก
BBL (TP=194บ.) “ซื้อ” กำไร2Q66 โต +62%YoY และ +12%QoQ โดยหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เติบโตดี ตามอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ขณะคาด 2H66 สินเชื่อจะเติบโตดีกว่า 1H66 ช่วยหนุนให้สินเชื่อทั้งปี ขยายตัว 4-6% ตามเป้าได้ ล่าสุดประกาศปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย หลัง กนง. มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25%
PTTEP (TP=182 บ.) “ซื้อ” กำไร 2Q66 โต +9%QoQ, +2%YoY จากค่าใช้จ่ายที่ต่ำคาด ช่วยชดเชยรายได้ที่ลดลงจากปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง คาด 3Q66F เติบโตดีจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น QoQ และราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงได้รับ Sentiment เชิงบวกจากราคาน้ำมันดิบเช้านี้ดีดตัวขึ้นแรง
SPRC (TP=11 บ.) “ซื้อ” 2Q66 ขาดทุนตามที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตาม เราคาดผลประกอบการ 3Q66F จะพลิกกลับมามีกำไรอย่างโดดเด่น จาก Stock Gain ตามราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น และจากค่าการกลั่นเฉลี่ย 3Q66TD ที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 2Q66 เกินเท่าตัว มองเป็นจังหวะซื้อลงทุน
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.