ธุรกิจไทย ติดท็อป 4 ถูกโจมตีทางเว็บมากที่สุดในอาเซียน

ธุรกิจต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผชิญกับภัยคุกคามทางเว็บ (web threat) หรือภัยคุกคามที่เกิดจากอินเทอร์เน็ต (internet-born threat) เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นทั้งศูนย์กลางการเติบโตและเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 โซลูชันความปลอดภัยสำหรับธุรกิจของแคสเปอร์สกี้ตรวจพบและบล็อกภัยคุกคามทางเว็บในภูมิภาคมากกว่า 26 ล้านรายการ โดยเฉลี่ยแล้วนับเป็นความพยายามโจมตีทางเว็บ 146,944 รายการต่อวัน ประเทศไทยพบความพยายามโจมตีทางเว็บทั้งหมด 1,057,732 รายการ คิดเป็นจำนวนเฉลี่ย 5,811 รายการต่อวัน

ภัยคุกคามทางเว็บหรือภัยคุกคามออนไลน์เป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่อาจทำให้เกิดเหตุการณ์หรือการกระทำที่ไม่พึงประสงค์ผ่านอินเทอร์เน็ต ภัยคุกคามทางเว็บเกิดจากช่องโหว่ของผู้ใช้ ผู้พัฒนา ผู้ดำเนินการบริการเว็บ รวมถึงตัวบริการเว็บเอง ไม่ว่าจะมีเจตนาหรือสาเหตุใด ภัยคุกคามทางเว็บอาจสร้างความเสียหายให้กับทั้งบุคคลและองค์กร

จำนวนภัยคุกคามที่องค์กรธุรกิจในอาเซียนถูกโจมตี ม.ค.-มิ.ย.67

บริษัทและองค์กรธุรกิจในมาเลเซียอยู่ในอันดับสูงสุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผชิญกับภัยคุกคามทางเว็บ 19,615,255 รายการ โดยอินโดนีเซียอยู่อันดับสองด้วยจำนวน 3,204,294 รายการ เวียดนาม 1,445,452 รายการ และไทย 1,057,732 รายการ ฟิลิปปินส์ 846,837 รายการ และสิงคโปร์ 574,292 รายการ

นายเซียง เทียง โยว ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า เนื่องจากองค์กรธุรกิจและรัฐบาลประเทศต่างๆ ในภูมิภาค นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้พื้นที่การโจมตีขยายกว้างขึ้น ผู้ก่ออาชญากรรมไซเบอร์มีโอกาสมากขึ้นที่จะใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในระบบที่ไม่ได้รับการป้องกัน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักของซัพพลายเชน สถาบันการเงิน และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น สุขภาพและพลังงาน เหตุการณ์ดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายต่อผลผลิต นำไปสู่การสูญเสียทางการเงิน และทำลายความไว้วางใจเรื่องความปลอดภัยของระบบดิจิทัล

รัฐบาลประเทศต่างๆ ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบและกฎหมายที่บังคับใช้มากขึ้น เพื่อปกป้องข้อมูลและบังคับให้ทุกภาคส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยไซเบอร์ที่เกิดขึ้น สิ่งสำคัญคือธุรกิจในแต่ละประเทศก็ต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา ให้ความสำคัญและเสริมสร้างมาตรการด้านความปลอดภัยไซเบอร์ด้วยเช่นกัน

นายโยว กล่าวเสริมว่า อาชญากรไซเบอร์ในภูมิภาคนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยใช้การโจมตีที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมเครื่องมือและเทคนิคอื่นๆ องค์กรธุรกิจต้องลงทุนเรื่องเครื่องมือรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพ เช่น การป้องกันเอ็นด์พ้อยต์ ไฟร์วอลล์ การตรวจสอบและจัดการเหตุการณ์แบบเรียลไทม์ อีกทั้งต้องมีการประเมินและการตรวจสอบความปลอดภัยเป็นประจำเพื่อระบุจุดอ่อนและแก้ไขช่องโหว่

แคสเปอร์สกี้ขอแนะนำการป้องกันองค์กรธุรกิจโดยรวม ดังนี้

1.    อัปเดตซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ทั้งหมดอยู่เสมอเพื่อป้องกันจากการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่และแทรกซึมเข้าสู่เครือข่ายขององค์กร

2.    สำรองข้อมูลเป็นประจำและตรวจสอบว่าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วเมื่อจำเป็นหรือในกรณีฉุกเฉิน

3.    หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดและติดตั้งซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์หรือซอฟต์แวร์จากแหล่งที่ไม่รู้จัก

4.    ประเมินและตรวจสอบการเข้าถึงซัพพลายเชนและบริการที่จัดการในสภาพแวดล้อม โดยแคสเปอร์สกี้มีบริการประเมินการบุกรุก

5.    ตรวจสอบการเข้าถึงและกิจกรรมต่างๆ โดยค้นหากิจกรรมที่ผิดปกติในเครือข่าย และควบคุมการเข้าถึงของผู้ใช้ตามความจำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงของการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตและการรั่วไหลของข้อมูล

6.    จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัย (security operation centre - SOC) โดยใช้เครื่องมือ SIEM (การจัดการข้อมูลและเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย) สำหรับการตรวจสอบและวิเคราะห์เหตุการณ์ด้านความปลอดภัยของข้อมูล สามารถป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ที่ซับซ้อนได้

7.    ให้ผู้เชี่ยวชาญด้าน InfoSec ใช้ข้อมูลภัยคุกคามเชิงลึก เพื่อจับตาดูภัยคุกคามไซเบอร์ที่มุ่งเป้าไปที่องค์กร และแสดงข้อมูลที่ครอบคลุมและอัปเดตเป็นปัจจุบันที่สุดเกี่ยวกับผู้ประสงค์ร้ายและ TTP

8.    ให้ความรู้แก่พนักงานและปรับปรุงความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ด้วยเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้พนักงานตระหนักถึงความเสี่ยงจากภัยคุกคามไซเบอร์ และวิธีการป้องกันตนเองและองค์กร

9.    หากบริษัทไม่มีฟังก์ชันความปลอดภัยไอทีโดยเฉพาะ และมีเฉพาะผู้ดูแลระบบไอทีทั่วไปที่อาจขาดทักษะเฉพาะทางที่จำเป็นในการตรวจจับและการตอบสนองระดับผู้เชี่ยวชาญ ให้พิจารณาใช้บริการที่มีผู้เชียวชาญจัดการให้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านความปลอดภัยได้ทันทีในระดับที่สูงขึ้น และช่วยให้องค์กรธุรกิจมุ่งเน้นการสร้างความเชี่ยวชาญภายในองค์กรได้

10.    สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก แนะนำให้ใช้โซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อช่วยจัดการความปลอดภัยไซเบอร์แม้ว่าจะไม่มีผู้ดูแลระบบไอทีก็ตาม อีกทั้งยังช่วยองค์กรธุรกิจประหยัดงบประมาณ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาธุรกิจ

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.