ดีอี เตือน อย่าแชร์ ข่าวปลอมคิงเพาเวอร์ปิดทุกสาขา
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี ) กล่าวว่า ข่าวปลอมรายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “ลมพิษเกิดจากการบูดเน่าของอาหารในลำไส้ ในช่วงเวลาอากาศเปลี่ยน ทำให้ร่างกายเกิดความแปรปรวน”
รองลงมาคือเรื่อง “คิงเพาเวอร์ประกาศปิดทุกสาขาอย่างไม่มีกำหนด” โดยขอให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หวั่นสร้างความสับสน เข้าใจผิด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ กระทรวงดีอี ได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มที่ 1 : นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 103 เรื่อง
กลุ่มที่ 2 : ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายจำนวน 37 เรื่อง
กลุ่มที่ 3 : ภัยพิบัติ จำนวน 16 เรื่อง
กลุ่มที่ 4 : เศรษฐกิจ จำนวน 14 เรื่อง
กลุ่มที่ 5 : กลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ จำนวน 22 เรื่อง
สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “ลมพิษเกิดจากการบูดเน่าของอาหารในลำไส้ ในช่วงเวลาอากาศเปลี่ยน ทำให้ร่างกายเกิดความแปรปรวน” กระทรวงดีอี ได้ประสานงานร่วมกับโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า จากข้อมูลที่กล่าวมาไม่สอดคล้องกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ หรืองานวิจัยที่น่าเชื่อถือ และข้อมูลดังกล่าวยังพิสูจน์ไม่ได้ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ในปัจจุบัน
โรคลมพิษ (urticaria) เป็นโรคผิวหนังที่มีลักษณะผื่นนูนใหญ่ สาเหตุนั้นมีหลาย อย่างเช่น ภูมิแพ้ (อาหาร ยา ฝุ่นละอองต่างๆ) โรคภูมิแพ้ตัวเอง (autoimmune diseases) ภาวะติดเชื้อ เป็นต้น แต่มีกลุ่มผู้ป่วยลมพิษที่ไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด และตรวจหาไม่พบสาเหตุ ส่วนปัจจัยกระตุ้นนั้นมีมากมาย เช่น อุณหภูมิ สิ่งแวดล้อม อาหาร ยา ความเครียดทางอารมณ์ เป็นต้น จึงทำให้มีการกำเริบของอาการผื่นลมพิษได้เมื่อมีปัจจัยเกื้อหนุนดังกล่าว
ด้านข่าวปลอม อันดับ 2 “คิงเพาเวอร์ประกาศปิดทุกสาขาอย่างไม่มีกำหนด” กระทรวงดีอี ได้ตรวจสอบข้อมูลและขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอม ซึ่งบริษัท คิงเพาเวอร์ยังไม่มีการประกาศปิดสาขาแต่อย่างใด ดังนั้นขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.