ตลาดไม่มีปัจจัยใหม่ หุ้นไทยลุ้น Rebound ทดสอบ 1,310-1,320 จุด

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ไอร่า(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ “Rebound” มองแนวรับที่บริเวณ 1,300 / 1,290 และแนวต้านที่บริเวณ 1,313 / 1,320 จุด ฝ่ายวิเคราะห์มองตลาดไม่มีปัจจัยใหม่ ขณะที่เมื่อคืนนี้ตลาดสหรัฐปิดทำการเนื่องในวัน Juneteenth ซึ่งคาดว่าตลาดจะให้ความสนใจไปกับรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐคาดจะออกมาอยู่ที่ระดับ 2.35 แสนตำแหน่งต่ำกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าสะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐยังมีความแข็งแกร่ง 

     คาดการณ์ตัวเลขจำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้าง (Housing Starts) และใบขออนุญาตก่อสร้างใหม่ (Building Permits) เดือน พ.ค. คาดจะออกมา 1.37 ล้านหลังคา และ 1.45 ล้านหลังคาตามลำดับปรับตัวขึ้นจากเดือน เม.ย. คาดจะลดน้ำหนักต่อความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐ (FED) ซึ่งอาจกระตุ้นให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) มีจังหวะในการฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง กดดัน-จำกัด Upside ของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้

     ขณะที่เช้านี้ธนาคารกลางจีน (PBOC) ยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี และ 5 ปีที่ 3.45% และ 3.95% ตามลำดับ สะท้อนนโยบายทางการเงินของจีนที่ยังตึงตัวอยู่

     สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ฝ่ายวิเคราะห์มองประเด็นตลาดเริ่มมีการพูดถึงการเรียกร้องให้ ตลท. ยกเลิกการ Short Sell ชั่วคราวหลังตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ฝ่ายวิเคราะห์มองมีโอกาสที่จะเห็นแรงซื้อหุ้นกลับจากการ Cover Short หนุนทิศทางตลาดหุ้นไทย Technical Rebound ได้บ้างในระยะสั้น

     อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์มองตลาดหุ้นไทยไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุนการฟื้นตัวในระยะกลางยาว โดยยังมองเศรษฐกิจไทยยังเติบโตได้ต่ำ ขณะที่ประเด็นศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนกำหนดการพิจารณาคดีคุณสมบัตินายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและคดียุบพรรคก้าวไกลเป็นในช่วงเดือน ก.ค.67 ฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นปัจจัย Overhang ตลาดได้ต่อ

     โดยแนะนำติดตามการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงินราว 3.75 ล้านล้านบาทที่คาดจะเข้าสู่การพิจารณาในสัปดาห์นี้ คาดจะเห็นความชัดเจนเกี่ยวกับงบประมาณของภาครัฐได้ชัดเจนมากขึ้น แต่ต้องพิจารณาการใช้งบประมาณขาดดุลว่าจะต้องออก พรบ.กู้เงินมากน้อยเพียงใด ซึ่งเรามองเป็นความเสี่ยงที่ต่างชาติอาจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงได้จากระดับหนี้ที่อยู่ในระดับสูง เราคาดจะเป็นปัจจัย Overhang ต่อตลาดหุ้นไทยได้ต่อ ลดทอนความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติและสถาบันได้ต่อ

     ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์แนะนำระมัดระวังแรงขายหุ้นขนาดเล็กที่มีสัดส่วนในการวางหลักทรัพย์เป็นประกัน(Margin) อยู่ในระดับสูง หลังหุ้นขนาดเล็กหลายตัวเริ่มมีสัญญาณของการถูก Force Sell

     ธีมการลงทุน“Selective Play”หลักทรัพย์แนะนำวันนี้คือ “XIAOMI80” คาดผลประกอบการของ XIAOMI (1810HK) มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามคาดการณ์ผลประกอบการปี67 แม้มีโอกาสชะลอตัวลงบ้างจากฐานที่สูงในปีที่แล้ว แต่คาดยอดขายจากธุรกิจ Smart Phone และ IoT ของ Xiaomi เติบโตได้ดีทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่การรุกเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้ามองเป็นโอกาสในการเติบโตในระยะกลาง-ยาวเพิ่มเติม โดย Bloomberg Consensus คาดผลประกอบการปี67 อยู่ที่ 17.84 Bill. CNY กลยุทธ์“ย่อซื้อสะสม” แนวรับ 8.55 / 8.35 บาท Target 9.05 / 9.65 บาท Stop <8.25 บาท

กรอบ 1286-1315 จุด

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า วานนี้(19 มิ.ย.67) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,693 ล้านบาท ขณะที่ 21 พ.ค.-19 มิ.ย.67 ขายติดต่อกัน 20 วันทำการ 39,325 ล้านบาท สังเกตเงินบาทกรณีแข็งค่ามากกกว่า 36.50 บาท จะเป็นสัญญาณบวกต่อการชะลอขายของ Fund Flow ได้ดีขึ้น แม้ว่ายังไม่มีสัญญาณการไหลกลับ

     ส่วนประเด็นในวันนี้(20 มิ.ย.67)ทางเทคนิครายชั่วโมงอาจติดแนวต้าน 1,308 จุดได้บ้าง กรอบวันนี้ 1,290-1,312 จุด ถัดไปรอเด้งผ่าน 1,315 จุด ระยะหลุด Low จันทร์ที่ผ่านมา ที่ 1,288 จุด แตะ Low 1,282 จุด แต่งัดกลับมาปิดเหนือ 1,300 จุดได้ ถือว่าดี ถัดไปรอข้ามเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 14 วันช่วง 1,315-1,320 จุด เพื่อยืนยันจบ Falling Wedge และเริ่มทยอยฟื้นกลับมาที่ Fibonacci 50% ที่ 1340 จุด ตาม Directional+ และ Directional ที่มี Gap ห่าง ณ ระดับ Oversold ยกเว้นหลุด 1,272 จุด ถอยเจอฐานถัดมา 1,250-1,255 จุด

     อย่างไรก็ดี กรณีซื้อกลับได้ใน 2 จังหวะคือ ข้อแรก 1,288 จุด และ ข้อสอง ใกล้ 1,278 จุด ถือรอดีดกลับ รอบเปลี่ยนเป็นบวกเมื่อยืน 1,330 จุด กรณีหลุด 1,270 จุดจากสถานการณ์ภายในประเทศ ออกมารอดูทิศทาง

รีบาวด์กรอบ 1,310-1,315 

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า คาด SET วันนี้ “Rebound” ต้าน 1,310 / 1,315 จุด รับ 1,295 / 1,290 จุด วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการ ขณะที่เงินเฟ้อ CPI พ.ค. 24 ของอังกฤษ ปรับลงสู่เป้าหมาย BOE ที่ 2% แล้ว ทำให้ตลาดคาด BOE จะลดดอกเบี้ย ส.ค. 24 และจะเป็นชาติที่ 3 ต่อจากแคนาดา และ กลุ่ม Euro บ่งชี้วงจรดอกเบี้ย G7 เข้าสู่ขาลงปี 2H24 เป็นแรงขับเคลื่อนสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อ 

     ส่วนภายใน แม้ต่างชาติขายหุ้นต่อเป็นวันที่ 20 แต่เริ่มเห็นการกลับมาซื้อพันธบัตรหลักพันล้านบาทครั้งแรกใน 11 วันทำการ ถ่วง TH Bond Yield 10ปี ปรับตัวลงสู่ 2.74% (จุดสูงสุดปลาย พ.ค. 2.86%) หนุน Current และ Forward Equity Risk Premium (ERP) ปัจจุบันสูง 3.6% และ 4.2% vs จุดกลับตัวส่วนใหญ่กรณีไม่มีวิกฤติเศรษฐกิจ ERP + 1 S.D. ที่ 4.09% ทำให้แรงขายนักลงทุนต่างชาติมีโอกาสชะลอลง ผสาน จิตวิทยาบวกงบประมาณปี 2025 งบลงทุนสูงสุดใน 17ปี เริ่มเดินหน้ากระบวนการพิจารณา วันนี้มอง Rebound ต่อ 

     หุ้นนำ คือ กลุ่ม Yield Peak หนุนกลุ่มที่ยังปรับฐานลึกกว่าตลาดและยังมียอด Short Sales สูง คาดเห็นการเร่ง Cover Short วันนี้แนะนำ  CPALL, MINT, TRUE

     Technical Focus แท่งเทียนเกิดสัญญาณกลับตัวในลักษณะของ HAMMER โดยกลับมาปิดเหนือระดับ VWAP (1,293) แม้ยังปิดต่ำกว่า EMA 5, 10, 50 วัน แต่ MACD เริ่มชะลอการแกว่งตัวลง และเป็นวันแรกในรอบ 18 วันทำการที่ไม่มี NEW LOW เกิดขึ้น ประกอบกับภาวะ OVERSOLD อย่างมากของ SET INDEX ฉะนั้นให้น้ำหนักดัชนีมีภาพของการ REBOUND ตามแนวต้าน 1,310 / 1,315 โดยมีแนวรับขยับขึ้น 1,295 / 1,290 สำหรับ SET50 ให้น้ำหนัก REBOUND ตามแนวต้าน 1,310 / 1,315 โดยมีแนวรับขยับขึ้น 1,295 / 1,290

     สำหรับนักลงทุนระยะสั้นอยู่ในด้านซื้อเก็งกำไร หลังแท่งเทียนเกิดรูปแบบ HAMMER และมีลุ้น BREAKOUT EMA(5 วัน) แนะนำซื้อเก็งกำไร หุ้น TOP เป้าหมาย 53.5 / 55.00 บาท แนวรับ 52.00 บาท จุดตัดขาดทุน 51.00 บาท

     ITC เป้าหมาย 24.10 / 24.50 บาท แนวรับ 23.50 บาท จุดตัดขาดทุน 23.20 บาท

     NEO เป้าหมาย 58.50 / 60.00 บาท แนวรับ 56.75 บาท จุดตัดขาดทุน 56.00 บาท

     SMT เป้าหมาย 3.00 / 3.10 บาท แนวรับ 2.84 บาท จุดตัดขาดทุน 2.76 บาท