ปัจจัยนอกดี แต่ภายในกดดัน SET วันนี้ Sideways กรอบ 1,280-1,310 จุด

     นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังค่อนข้างผสมผสาน โดยพบว่าตัวเลขยอดค้าปลีก เดือน พ.ค. ขยายตัวที่ +0.1%m-m แต่ต่ำกว่าตลาดคาดที่ +0.3%m-m

     ขณะที่ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ค. ขยายตัว +0.9%m-m สูงกว่าตลาดคาดที่ +0.3%m-m ซึ่งทั้งคู่อาจบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังเด่นท่ามกลางเงินเฟ้อที่อาจไม่รุนแรงช่วยสนับสนุนโอกาสการลดดอกเบี้ยในช่วงถัดไป สอดคล้องกับผลประมูลพันธบัตร 20 ปีเมื่อคืนที่ Bid-to-Cover ratio อยู่ในระดับสูงกว่าคาด

     ส่วนคืนนี้ แนะติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้ออังกฤษ โดยคาด UK Core CPI จะลดลงสู่ +3.5%y-y จาก +3.9%y-y ซึ่งอาจมีผลต่อการประชุม BOE พรุ่งนี้ 

     ส่วนปัจจัยในประเทศ ยังโดนแรงกดดันจากการ เมืองไทยที่ยืดเยื้อ ซึ่งยังต้องติดตามต่อในเดือน ก.ค. -ส.ค. นี้ คาดยังกดดัน SET ยังซึมตัว โดยทั้ง 3 คดี วานนี้มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

     1) คดียุบพรรคก้าวไกล ศาลกําาหนดให้พิจารณาคดีต่อ ในวันที่ 3 ก.ค. ให้พยานทําบันทึกข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน และกําหนดให้คู่กรณีตรวจพยานหลักฐาน 9 ก.ค.

     2) คดีคุณเศรษฐา ศาลให้พิจารณาคดีวันที่ 10 ก.ค.

     3) คดีคุณทักษิณ มาตรา 112 ศาลอาญารับคําฟ้อง 19 มิ.ย. จากสํานักอัยการสูงสุด โดยให้มีการประกันตัวชั่วคราว และนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 19 ส.ค.

     "คาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1,280 - 1,310 จุด รายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯผสมผสาน ขณะที่ความต้องการพันธบัตรยังสูงสะท้อนตลาดมองโอกาสลดดอกเบี้ยสหรัฐฯมากกว่า FED คาด ขณะที่การเมืองในประเทศยังยืดเยื้อ ดังนั้นกลยุทธ์เน้นย่อตั้งรับหุ้นที่คาดแนวโน้มกําไรยังเติบโตดี 

     วันนี้แนะนํา “WICE” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 7.40 บาท สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และการขัดแย้งระหว่างจีน&สหรัฐฯในประเด็นการขึ้นภาษีสินค้านําเข้าจากจีนกระตุ้นความต้องการการเร่งส่งสินค้าระยะสั้นมากขึ้น ถือเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจโลจิสติกส์ โดย WICE บีจีนเป็นเส้นทางหลัก คาดจะได้แรง หนุนบวก ผสานกําไร 1Q24 ที่เห็นโมเมนต้มฟื้นตัว q-q ทั้ง Sea & Air freight เพิ่มความน่าสนใจ"

หุ้นไทยแกว่ง 1288-1310

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า คาด SET วันนี้ “ฟื้นตัว” ต้าน  1,305 / 1,310 จุด รับ 1,293 / 1,288 จุด ดัชนี S&P500 ขึ้นสูงสุดใหม่เป็นวันที่ 6 กลุ่มเทคฯ ยังนำตลาด ทิศทาง US Bond Yield 10ปี ลดลงอีก -6 bps สู่  4.22% ยอดค้าปลีก พ.ค.67 ลดลงเหลือ +2.3%y-y จาก prev. +2.7% ขณะที่สัญญาณชี้นำระยะถัดไปCCI (U of Michigan) มิ.ย.ต่ำสุดใน 7 เดือน บ่งชี้ภาคการบริโภคน่าจะลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ 

     อย่างไรก็ดี ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม +0.9%m-m จากทรงตัวในครั้งก่อน สะท้อนภาพรวม “US Soft Landing” ในช่วงที่เหลือของปี 2024F หนุนโอกาสที่ FED จะลดดอกเบี้ยใกล้เข้ามา บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงระยะกลาง 

     ราคาน้ำมันดิบโลกแกว่งขึ้นรับวงจรภาคการผลิตโลกฟื้น และ Dollar Index อ่อนลง หนุนน้ำมัน +1.3-1.5% ทำให้หุ้นน้ำมัน+โรงกลั่น SET(10-11% ของ market cap) น่าจะประคองตลาด 

     ส่วนภายในบรรยากาศการเมืองคลายลงชั่วคราว จากบทสรุปบางกรณี อาทิ คุณทักษิณที่ได้ประกันตัว, การเลือกตั้ง ส.ว. เดินหน้าได้ต่อ ผสาน มาตรการยกระดับความเชื่อมั่นตลาดสำคัญ Uptick Rule ใกล้มีผล 1 ก.ค. น่าจะหนุน SET ฟื้นตัว หุ้นนำ คือ กลุ่มอิงภาคบริการ+ท่องเที่ยว (ผ่านจุดต่ำของปี) กลุ่มน้ำมัน+โรงกลั่น กลุ่มชิ้นส่วน วันนี้แนะนำ  AOT, CPALL, HANA

     ด้านสัญญาณเทคนิค แท่งเทียนปิดลบในลักษณะของ INVERTED HAMMER โดยปิดต่ำกว่าระดับ VWAP (1,299) และ EMA 5, 10, 50 วัน รวมถึง MACD ที่ยังคงแกว่งตัวทำ NEW LOW ต่อเนื่องเป็นวันที่ 17 ท่ามกลางภาวะ OVERSOLD อย่างมาก สะท้อนถึงภาวะของ SET INDEX ที่ยังเผชิญกับแรงขายตามแนวต้าน ดัชนีจึงมีภาพของการฟื้นตัวที่ค่อนข้างจำกัด ฉะนั้นเน้นพิจารณาแนวรับ 1,293 / 1,288 โดยยังขยับแนวต้านลงที่ 1,305 / 1,310 สำหรับ SET50 ให้น้ำหนักฟื้นตัวจำกัด จึงเน้นพิจารณาแนวรับ 797 / 793 โดยคงแนวต้านไว้ 809 - 811 จุด เช่นกัน

     คำแนะนำ 1. สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้นที่รับความเสี่ยงได้ เน้นย่อซื้อเป็นหลัก และ 2. สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้นที่รับความเสี่ยงไม่ได้ เน้นรอสัญญาณกลับตัวของแท่งเทียน บวก BREAKOUT EMA (5 วัน)

     แนะนำเก็งกำไร หุ้น AOT เป้าหมาย 62 / 63.25 บาท แนวรับ 60.25 บาท จุดตัดขาดทุน 59.50 บาท , หุ้น BSRC เป้าหมาย 9.50 / 9.70 บาท แนวรับ 9.15 บาท จุดตัดขาดทุน 9.00 บาท ,

     หุ้น SINO เป้าหมาย 1.55 / 1.60 บาท แนวรับ 1.46 บาท จุดตัดขาดทุน 1.42 บาท และ หุ้น CCET เป้าหมาย 4.10 / 4.28 บาท แนวรับ 3.90 บาท จุดตัดขาดทุน 3.82 บาท