หุ้นไทยครึ่งปีหลังฟื้น เชียร์ 15 หุ้นพื้นฐานแน่น-กำไรดี
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานสัมมนา หุ้นไทย 2024 with the Dragon Fire "Discover New Opportunities" จัดโดยฐานเศรษฐกิจ ว่า บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้คาดปรับตัวดีขึ้น และเชื่อว่าการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯมีการบังคับใช้มาตรการต่างๆ เพื่อรักษาความเป็นธรรมในตลาดทุนจะสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนได้
โดยธีมการลงทุน เน้นเรื่องของเทคโนโลยีและการมีนวัตกรรมใหม่เข้ามามีบาบาทในการดำเนินธุรกิจถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เลือก 5 หุ้น คือ หุ้น OSP ที่มีแผนพัฒนาเครื่องดื่มรูปแบบใหม่ที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มชูกำลัง และอีกความน่าสนใจคือการไปตั้งโรงงานผลิตในเมียนมาทำให้ OSP สามารถเข้าถึงตลาดได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับรายอื่นๆ และเป็นผู้ประกอบการที่มีส่วนแบ่งการตลาดที่สูง
นอกจากนี้ ชอบหุ้น SFLEX อยากให้มองหุ้นตัวนี้ไว้บ้าง หากบอกว่า TU กำไรดีขึ้น และ SCGP มีแนวโน้มเป็นบวกจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่า SFLEX จะได้รับอานิสงส์เช่นเดียวกัน เพราะมีธุรกิจที่เชื่อมโยงกับ TU และ SCGP หากการอุปโภค-บริโภคดี สบู่ ยาสระผมขายดี SFLEX ก็ได้รับอานิสงส์ เพราะเป็นผู้ผลิตซองบรรจุภัณฑ์ (Flexible Packaging)
หุ้น SAV น่าสนใจ ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับวิทยุการบิน ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีความจำเป็นเพื่อสร้างความปลอดภัย เป็นหุ้นอีกตัวที่มีนวัตกรรม มีอะไรที่จะทำร่วมกับ AOT ในอนาคต มองว่าเมื่อได้สัมปทานแล้วก็ทำงานกันได้ยาว
หุ้น MINT รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ห้องพักในเยอรมันฟื้นตัวได้ดีมาก ยอมรับว่าจากการแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 มีส่วนเข้ามากระตุ้นการท่องเที่ยว รวมถึงกระตุ้นยอดขายในส่วนของร้านอาหารให้ขยายตัวดีขึ้น
สุดท้ายคือหุ้น CPF ถึงรอบการกลับมาเทิร์นอะราวด์ แม้ก่อนหน้านี้เคยสบประมาทว่าอาจเป็นหุ้นที่ไม่แสวงหากำไร แต่เพราะราคาหมูในจีนเริ่มฟื้น เวียดนามมีกำไรมาก หมูไทยถึงจุดคุ้มทุน การปราบหมูเถื่อนได้ผล ธุรกิจในยุโรปที่ซึมตัวมานานเริ่มฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นหนุนให้ CPF ปีนี้มีกำไรที่สดใส
ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองในเชิงบวกต่อภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลังปี 67 เนื่องจากความว่าเศรษฐกิจในประเทศจะกลับมามีการเติบโตและมีสมดุลในหลายมิติมากขึ้น หากเทียบหลังจากที่มีช่วงเลือกตั้งในอดีตในปีนี้จะเหมือนต้องคำสาป เศรษฐกิจสะดุด แต่ในปีถัดไปรัฐบาลจะมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณค่อนข้างมาก ซึ่งในปีนี้เชื่อว่าจะวงกลับมาอยู่ในวัฏจักรเช่นนั้น
ทั้งในเรื่องการเร่งเบิกจ่ายงบรองรับการขับเคลื่อนแผนการลงทุนของภาครัฐ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และดิจิทัลวอลเล็ต นอกจากนี้ มองว่าการเกิดสภาพอากาศที่แปรปรวน ลานีญาอาจไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่หลายฝ่ายกังวล เชื่อว่าจะทำให้ปริมาณน้ำที่เคยแล้งมีเพิ่มมากขึ้น อากาศชุ่มชื้น ไม่ถึงขั้นรุนแรงจนเกิดน้ำท่วม ซึ่งมองว่าจะเป็นผลบวกต่อเกษตรกรทำให้ผลผลิตที่ออกมามีคุณภาพ และมีปริมาณที่มากขึ้นตามไปด้วย
สำหรับ 5 หุ้นเด่น แนะนำ CPALL ได้ประโยชน์เต็มที่จากดิจิทัลวอลเล็ต มองว่ามีหุ้นไม่กี่ตัวที่ใช้ได้ในมุมของรัฐบาลเองก็เข้าใจว่าต้องหาที่ใช้เงินก้อนนี้ให้กับประชาชนได้ ซึ่งปลอดภัยที่สุดคือร้านที่มีในพื้นที่ มีขนาดไม่ใหญ่ เพื่อให้คนสามารถใช้สิทธิ์ได้
หุ้น KBANK แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่วัฏจักรห่างจากขาขึ้น การลดดอกเบี้ยเองมองว่าธนาคาร NIM ไม่ได้ลงเร็วขนาดนั้น เชื่อว่าบรรยากาศจากนี้คุณภาพลูกหนี้เริ่มดีขึ้น แบงก์จะมีคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้น
หุ้น OSP คนใช้สิทธิ์ดิจิทัล รับอานิสงส์เข้ามาบ้างทางอ้อม ซึ่งสัดส่วนธุรกิจกว่า 70% มียอดขายอยู่ในประเทศ แบ่งเป็น30% ร้านค้าขนาดเล็ก ที่เหลืออีกประมาณ 60-70% มาจากโมเดิร์นเทรด
หุ้น SCGP มองว่าการเติบโตของธุรกิจนั้น อิงเศรษฐกิจประเทศจีนไม่เกิน 10% และเวลาฟื้นตัวก็จะฟื้นจากการบริโภคที่ดีขึ้น เพราะสะท้อนต่อความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
และ หุ้น TU แม้ว่าในปีก่อนมีการตั้งสำรองไปค่อนข้างเยอะ แต่เชื่อว่าในปีนี้เริ่มดีขึ้นเพราะไม่มีผลขาดทุนจากเรดล็อบสเตอร์
ศก.ฟื้นครึ่งปีหลัง
นายสุทธิชัย คุ้มวรชัย หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวเช่นกันว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลังปี 67 มองเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างพร้อมเพียงกัน ทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป รวมถึงการผลิตและส่งออกในตลาดเอเชียเริ่มกลับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้เศรษฐกิจในประเทศไทยฟื้นตัวขึ้นตามมาก
อีกทั้งคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงปลายปีนี้ หลังจากที่ ECB , BOC ปรับลดดอกเบี้ยไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้ตลาดเอเชียมีความน่าสนใจได้มากขึ้น ส่วนปัจจัยในประเทศนั้น มองว่าการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลจะหนุนให้การลงทุนและการบริโภคดีขึ้น รวมถึงมองว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้ตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
สำหรับ 5 หุ้นเด่น แนะนำ ADVANC ผลประกอบการมั่นคง ไตรมาส 1/67ผลงานค่อนข้างดี Synergy ลดต้นทุนได้ค่อนข้างดี และจะดีต่อในช่วงที่เหลือของปีนี้ อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้
หุ้น KCE มองว่าได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า รายได้สูงขึ้น มาร์จิ้นมากขึ้น แม้ต้นทุนทองแดงปรับตัวเพิ่มขึ้นอาจทำให้มีความกังวลอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าบริษัทมีการบริหารจัดการที่ดี และมีการสั่งซื้อและล็อกราคาวัตถุดิบไว้ล่วงหน้าแล้ว
หุ้น OSP ผลประกอบการมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นตามส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นและมาร์จิ้นที่มากขึ้น ขณะที่มีต้นทุนลดลง อีกทั้งในช่วงไตรมาส 2/67 อากาศร้อน คนต้องการเครื่องดื่มทำให้ยอดขายปรับตัวสูง
หุ้น PTTGC ตั้งแต่ปีก่อนได้รับแรงกระทบมาค่อนข้างมาก ต่อเนื่องมาจนถึงครึ่งแรกปีนี้ จากซัพพลายที่เข้ามาเยอะจนถูกกระแทกมาพอสมควร ปีนี้มองว่าซัพพลายยังมีเข้ามาอยู่แต่เบาบางลงมาก ส่วนต่างจะเริ่มกว้างมากขึ้น ต้นทุนในช่วงที่ผ่านมาก๊าซอ่าวไทยน้อย ตรงนี้จะเพิ่มมากขึ้น จะมาหนุนมาร์จิ้น ภาพเศรษฐกิจโลก จีนฟื้น PTTCG ก็น่าจะฟื้นตัวด้วย
และ หุ้น TU ที่ได้รับอานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่า ไทยส่งออกมากขึ้น มาร์จิ้นดีขึ้น สินค้าอาหารเริ่มเทิร์นอะราวด์มากขึ้น ขณะเดียวกันจากราคาปลาทูน่าที่ลดลงช่วยหนุนมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.