ฮั่วเซ่งเฮงมองทองสัปดาห์นี้ติดเส้น2,431ดอลลาร์จับตาแรงเทขายระยะสั้น
ทิศทางราคาทองสัปดาห์นี้ให้ระวังเกิดแรงเทขายทองคำ หากเกิดปัจจัยดังต่อไปนี้ หลังจากที่ราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรงทั้งทองคำโลกและทองคำไทย โดยปีนี้ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นกว่า 15.95% และทองคำแท่งในประเทศปรับตัวขึ้นกว่า 23.92% ขณะที่ราคาทองคำในปีนี้ยังคงมีโอกาสที่ปรับตัวขึ้นได้ต่ออีกหรือไม่? และยังคงน่าสนใจที่จะเข้าซื้อทองคำอีกหรือไม่? ซึ่งหากมองในเชิงระยะยาว ราคาทองคำยังน่าสนใจและมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่ในระยะสั้นเราเริ่มให้มองถึงความเสี่ยงที่ทองคำจะเกิดแรงเทขายออกมา จากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้
ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ หรือสงครามในตะวันออกกลางเริ่มผ่อนคลายลง
แม้ว่าความขัดแย้งที่อาจก่อให้เกิดสงครามที่กำลังร้อนระอุเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรง ซึ่งนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลว่าสงครามจะบานปลายแล้วลุกลามกลายเป็นสงครามภูมิภาค หลังจากที่มีข่าวว่าอิสราเอลโจมตีอิหร่าน ซึ่งความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์อาจจะยังไม่ยุติในเร็ววันนี้
แต่หากเริ่มผ่อนคลายลงไปบ้าง อาจจะส่งผลทำให้เกิดแรงเทขายทองคำออกมาบ้าง เนื่องจากหลังจากการโจมตีของอิสราเอลนั้น อิหร่านไม่ได้ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ดังกล่าว และระบุว่าอิหร่านไม่มีแผนการที่จะตอบโต้แต่อย่างใด และการที่อิสราเอลส่งโดรนเพียง 3 ลำโจมตีอิหร่านก็เป็นการแสดงออกว่า อิสราเอลพร้อมที่จะลดระดับความขัดแย้งกับอิหร่านเช่นกัน ซึ่งเป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์มากกว่าที่มีจุดประสงค์เพื่อทำลายล้างอิหร่าน ดังนั้นระยะสั้นนั้นความตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจผ่อนคลายลงไปบ้าง เนื่องจากสงครามยังอยู่ในวงจำกัด และอาจยังไม่ลุกลามบานปลายไปสู่สงครามระดับภูมิภาค
เฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยที่นานขึ้น
ด้วยเงินเฟ้อสหรัฐที่ยังคงอยู่ระดับสูง ทำให้เฟดอาจตัดสินใจที่จะเลื่อนการปรับลดดอกเบี้ยออกไปในปีนี้ ทั้งนี้ล่าสุดนักลงทุนได้มีการปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 1 หรือ 2 ครั้งในปีนี้ จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. จากเดิมที่เคยคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ซึ่งมุมมองของนักลงทุนมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ขึ้นกับตัวเลขเงินเฟ้อและตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่เปิดเผยออกมาในแต่ละสัปดาห์ การที่เฟดมีแนวโน้มที่จะตรึงดอกเบี้ยที่สูงนานขึ้น อาจเป็นหนึ่งปัจจัยที่กดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงมาในระยะสั้นได้
แนวโน้มดอลลาร์แข็งค่า
แม้ว่าที่ผ่านมาดอลลาร์แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้กระทบต่อราคาทองคำมากเท่าไหร่นัก เนื่องด้วยยังมีแรงซื้อทองคำในฐานสินทรัพย์ปลอดภัยเข้ามา หากปัจจัยด้านสงครามเริ่มผ่อนคลายลงไปบ้าง ดอลลาร์ที่มีแนวโน้มแข็งค่าอาจกลับมากลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงในระยะสั้นได้
สัญญาณทางเทคนิคเริ่มเห็นสัญญาณการปรับตัวลง
ถ้าดู indicator หลายตัวของราคาทองคำ จะเห็นว่า indicator ก็เริ่มส่งสัญญาณถึงการปรับตัวลงของราคาทองคำในระยะสั้น ไม่ว่าจะเป็น MACD ซึ่งเป็นสัญญาณที่ช้าแต่แน่นอน โดยสัญญาณจาก MACD อยู่ต่ำกว่า Signal line ขณะที่สัญญาณจาก Modified Stochastic เกิด %K ตัด %D ลงมา ซึ่งเป็นสัญญาณการปรับตัวลงระยะสั้น อย่างไรก็ตามยังคงต้องพิจารณาอีกหลายปัจจัย หากว่าประเด็นสงครามเริ่มผ่อนคลายลง สัญญาณจากเทคนิคของราคาทองคำก็อาจกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามระยะกลางและระยะยาว ทองคำยังคงน่าสนใจ และมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ไปสู่ All-Time High ใหม่ หากมีการย่อตัวหรือปรับฐานของราคาทองคำ ก็เป็นสัญญาณที่ดีในการเข้าซื้อทองคำได้
สัปดาห์นี้หากราคาทองคำหลุดบริเวณแนวรับ 2,368-2,372 ดอลลาร์ อาจทำให้เกิดสัญญาณขาย แนะนำรอเข้าซื้อทองคำบริเวณราคา 2,320-2,325 ดอลลาร์ และบริเวณแนวรับ 2,300 ดอลลาร์ หากเป็นการเปิดสถานะขายยังคงแนะนำให้เน้นการเข้าเร็วและออกเร็ว สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 2,320 ดอลลาร์ และ 2,300 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,400 ดอลลาร์ และ 2,431 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 41,300 บาท และ 41,000 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 41,800 บาท และ 42,000 บาท
ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 22-26 เม.ย.67 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ โดยระบุว่า14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 6 ราย หรือเทียบเป็น 43% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 5 ราย หรือเทียบเป็น 36% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 355 ราย ในจำนวนนี้มี 270 ราย หรือเทียบเป็น 76% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 56 ราย หรือเทียบเป็น 16% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 29 ราย หรือเทียบเป็น 8% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สถานการณ์ราคาทองคำ
ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 41,000 – 42,000 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 41,700 บาท ต่อบาททองคำ เพิ่มขึ้น 950 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 40,750 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1. สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากความวิตกเกี่ยวกับการโจมตีตอบโต้ระหว่างอิหร่าน และอิสราเอล ได้กระตุ้นแรงซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
2. การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดการณ์ว่า BOJ จะเดินหน้าปรับลดการกระตุ้นด้านการเงิน หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่นเคลื่อนตัวใกล้ระดับ 2% ตามที่ BOJ คาดการณ์ไว้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นการส่งสัญญาณว่า BOJ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้
3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่, ยอดขายบ้านที่รอปิดการขายของเดือน มีนาคม 2567, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และ ภาคการบริการขั้นต้น เดือน เมษายน 2567 จากเอสแอนด์พี โกลบอล, รายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์, การประมาณการเบื้องต้น GDP ไตรมาส 1/2567 รวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) โดยดัชนีดังกล่าวเป็นข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญตัวสุดท้ายก่อนที่ FED จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.