เช็ค! ผลตอบแทน “BKGI” ไอพีโอน้องใหม่ ตัวเดียวในเดือน มี.ค.67

จากการสำรวจข้อมูลหุ้นเข้าใหม่ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-มี.ค.) พบว่า มีหุ้นเข้าใหม่รวมทั้งสิ้นจำนวน 7 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 4,289.87 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายอยู่ที่ 10,026.80 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 45,639.59 ล้านบาท 

โดยแบ่งเป็นหลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 4 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 3,026.07 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายอยู่ที่ 8,519.20 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 39,936.19 ล้านบาท

ขณะที่หลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 3 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 1,263.80 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายอยู่ที่ 1,507.60 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 5,703.40 ล้านบาท

ทั้งนี้ “โพสต์ทูเดย์” จะพามาดูหุ้นเข้าใหม่เฉพาะในเดือน มี.ค.2567 ซึ่งมีจำนวน 1 บริษัท ได้แก่ บริษัท แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BKGI คิดเป็นมูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 260.80 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายอยู่ที่ 260.80 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 978 ล้านบาท จะพามาดูว่า ราคาหุ้นปัจจุบัน (29 มี.ค.) เมื่อเทียบจากราคาไอพีโอ “ผลตอบแทน หรือ รีเทิร์น” เป็นอย่างไร

โดย BKGI ประกอบกิจการห้องปฏิบัติการ และให้บริการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ โดยบริการหลัก คือ การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ (NIPT) ภายใต้แบรนด์ NIFTY

BKGI จดทะเบียนในตลาด SET ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจการแพทย์ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2567 ปิดเทรดวันแรก 4.40 บาท ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.77 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 169.94% จากราคา IPO ที่ 1.63 บาท และราคาปิด ณ วันที่ 29 มี.ค.2567 อยู่ที่ 3.38 บาท สูงกว่าราคา IPO ถึง 107.36% หรือมีผลตอบแทนเป็นบวกเมื่อเทียบราคา IPO   

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่า กำไรสุทธิของ BKGI ในปี 2567 จะเติบโตแรง 81% จากปีก่อน เนื่องจากฐานต่ำ และคาดกำไร 3 ปีข้างหน้าจะเติบโตเฉลี่ย 21% โดยจุดแข็งของบริษัท คือ ผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นไบโอเทคระดับโลกสัญชาติจีนอย่างกลุ่ม BGI ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการแพทย์จีโนมิกส์ ถือเป็น Lift Science Corporation อันดับ 1 ในเอเชียแปซิฟิก และเป็นอันดับ 5 ของโลก

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลบวกต่อผลประกอบการของ BKGI เนื่องจากความต้องการใช้บริการตรวจคัดกรองและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม แม้ได้ผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ไปแล้ว คาดว่า BKGI จะมีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า 

โดยประเมิน BKGI จะมีกำไรสุทธิในปี 2567 อยู่ที่ 52 ล้านบาท หากพิจารณาผลการดำเนินงานที่ไม่มีส่วนของโควิด-19 ในช่วงปี 2563 จะพบว่ามีกำไรสุทธิ 10.7 ล้านบาท ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 35.2 ล้านบาท และปี 2565 มีกำไรสุทธิ 19.5 ล้านบาท ได้แรงหนุนจากความต้องการใช้บริการทางการแพทย์ทางด้าน genomics ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะยาว

บล.โกลเบล็ก คาดว่าผลประกอบการ BKGI ในช่วงปี 2567 จะเติบโตโดดเด่น โดยมีรายได้ 350.2 ล้านบาท เติบโต 45% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 51.7 ล้านบาท เติบโต 61.2% จากปีก่อน สาเหตุหลักจากพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น จนเป็น Mega Trend ของโลก การแพทย์จีโนมิกส์นับเป็น New S-Curve ที่สำคัญของวงการแพทย์ การให้บริการ IVF กลับมาขยายตัวอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ประกอบกับชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวเอเชีย ที่มีความเชื่อเรื่องของบุตรที่เกิดปีมังกรทอง