'จีน-อินเดีย'เที่ยวไทยพุ่งหนุน SETได้ไปต่อ แต่วอลุ่มบางเน้นเล่นสั้น
ท่องเที่ยวยังฟื้นดี
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า สหรัฐฯรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 3.165 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดจะลดลง - 7.03 แสนบาร์เรล ทิศทางเดียวกับ สต๊อกนํามันเบนชินที่ปรับเพิ่มขึ้น 1.299 ล้านบาร์เรล สวนคาดที่จะลดลง -1.684 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้วานนี้ราคา น้ำมันดิบ และราคาน้ำมันสําเร็จรูปลดลงเล็กน้อย
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ตลาดค่อยๆมีสัญญาณเชิง บวกจากฟันเฟืองเศรษฐกิจไทยที่สําคัญเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น เช่น ภาคการท่องเที่ยวพบว่าจํานวนนักท่องเที่ยวสะสมในช่วง 1 มกราคม – 24 มีนาคม 2024 อยู่ที่ 8,725,969 คน เพิ่มขึ้น +44%y-y ซึ่งเทียบเคียงระดับ 87% จากนักท่องเที่ยวช่วงปี 2019 (ก่อน COVID) ส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาสูงสุดเป็น อันดับ 1 คือ ชาวจีน อยู่ที่ 1.62 ล้านคน คาดจะเป็นแรงผลักดันให้นักท่องเที่ยวรวมปีนี้สามารถเดินหน้าสู่ เป้าหมายของภาครัฐฯได้ไม่ยากนัก ซึ่งคาดจะเป็นแรงหนุนสําคัญต่อการฟื้นของเศรษฐกิจไทย และเพิ่มแรงเก็งกําไรมากยิ่งขึ้นต่อ SET ยังมีลุ้นในการแกว่งขึ้น
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสําคัญวันนี้ที่น่าติดตาม แนะติดตามการรายงาน 4Q23US GDP (ครั้งที่ 3) คาดที่ +3.2%q-q, ดัชนีผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย สัปดาห์ คาดเพิ่มขึ้น +2.12 แสนราย สูงกว่าสัปดาห์ ก่อนหน้าที่ +2.1 แสนราย และคาดการณ์เงินเฟ้อ สหรัฐฯ จาก ม.มิชิแกนในช่วง 1 ปีข้างหน้า คาดที่ +3.1%y-y สูงกว่าเดิมเล็กน้อยที่ระดับ 3.0%
คาด SET วันนี้ “ฟื้นตัว” ในกรอบ 1375- 1390 จุด สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดเล็กน้อยกดดันราคาน้ำมันย่อ แต่ภาพโดยรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯยังได้แรงหนุนจากการย่อตัวของ Bond Yield ส่วนปัจจัยในประเทศมีแรงส่งจากภาคท่องเที่ยวไทยที่ยังเติบโตดี ดังนั้นยังประเมินเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นแนวโน้มกําไรเติบโตเด่น
โดยวันนี้แนะนํา “AAV” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3 บาท คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานช่วง 1Q24 จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทั้ง q-q และ y-y จากจำนวนผู้โดยสารที่มากขึ้น ตามภาคท่องเที่ยวฟื้นตัว ผสานกับมาตรการฟรีวีซ่า ไทย-จีน เป็นตัวหนุนและค่าโดยสารเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการเพิ่มเส้นทางการบินมากขึ้น ถือเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการ
เลือกลงทุน
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นวานนี้(27 มี.ค.67) SET Index เพิ่มขึ้น 3.60 จุด (+0.26%) ปิดที่ระดับ 1,381 จุด แต่มูลค่าซื้อขายเบาบาง 3.18 หมื่นล้านบาท ตลาดยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ทำให้ขาดหุ้นนำดัชนี
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้(28 มี.ค.67)ประเมิน SET แกว่งตัว 1,370 - 1,390 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้ sentiment เชิงบวกจาก US bond yield อ่อนตัวลง ,ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์โดยเฉพาะจีนและอินเดีย อย่างไรก็ตามความผันผวนของการเปลี่ยนซีรี่ย์ TFEX วันนี้และการชะลอการซื้อขายเพื่อรอติดตามตัวเลข PCE Price Index สหรัฐ ในวันพรุ่งนี้จะกดดันให้ภาวะตลาดผันผวน
"กราฟ SET แม้จะดีดตัวขึ้น 2 วันต่อเนื่องมาปิดที่แนวเส้น EMA 10 วันได้แต่ Volume ซื้อขายค่อนบางส่งผลให้การดีดตัวไม่มั่นคง ประกอบกับเครื่องมือ RSI บวก MACD ที่อ่อนแรงลงจะกดดันให้ภาวะตลาดผันผวน ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัว 1,370 - 1,390 จุด จึงแนะนำซื้อเก็งกำไรในกรอบดังกล่าวโดย Cut loss หากหลุด 1,360 จุด"
หุ้นแนะนำวันนี้ คือ BJC (ปิด 24.70 ซื้อ/เป้า 32 บาท) หุ้นโซนต่ำ, ราคา Laggard จากกลุ่ม กำไร ผ่านสุดต่ำสุดมาแล้ว ครึ่งปีหลังมี Story นำ Big C เข้าตลาดฯ และวันนี้มี Sentiment บวกจากข่าวสภาฯ เห็นชอบแก้ไขร่าง พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์เพื่อผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ
PLANB (ปิด 8.60 ซื้อ/เป้า 10.20 บาท) ได้ Sentiment เชิงบวก หลังสภาฯเห็นชอบแก้ไขร่าง พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่อนคลายมาตรการควบคุม อาทิ โฆษณา และช่วงเวลาในการซื้อขาย หากประกาศใช้เป็นกฏหมายจะเป็นผลดีต่อกลุ่มโฆษณาโดยเฉพาะ PLANB ที่ผูกขาดสื่อป้ายโฆษณานอกบ้าน
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) กลุ่มท่องเที่ยว - นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ : กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวฯ รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้นเป็น 651,318 คนเพิ่มขึ้น 0.97%wow เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ หลักๆ เป็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนและอินเดีย โดยจีน มีจำนวนนักท่องเที่ยว 135,572 คนเพิ่มขึ้น 3.37%wow และมีนักท่องเที่ยวอินเดีย 39,672 คนเพิ่มขึ้น 12.51%wow
(+) ค้าปลีก, เครื่องดื่มและ โฆษณา-สภาฯเห็นชอบแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ : วานนี้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติ 388 ต่อ 9 เสียง เห็นชอบรับร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวาระ 1 ทั้ง 5 เพื่อผ่อนคลายมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิ ข้อจำกัดของ ฉลาก, โฆษณา และช่วงเวลาในการซื้อขาย เรามองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก BCJ, CPALL, CPAXT และ หุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม CBG และสื่อโฆษณา PLANB, VGI
(+/-) พรุ่งนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ (PCE) เดือน ก.พ. ของสหรัฐ : ผลประชุมเฟ ดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ยังไม่ระบุช่วงเวลาที่ชัดเจนทำให้ข้อมูล ศก. ที่จะ ประกาศต่อจากนี้จะมีความสำคัญต่อการบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยของเฟด โดยเฉพาะตัวเลขเงินเฟ้อ(PCE Price Index) เดือน ก.พ. เบื้องต้น Consensus คาด Headline PCE เดือน ก.พ.จะทรงตัวที่ 2.4% แต่ Core PCE คาดจะลดลงสู่ระดับ 2.7% จาก 2.8% ในเดือน ม.ค. (ให้น้ำหนักเป็นกลางสะท้อนเงินเฟ้อลงช้า)
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.