"ณัฐชา" ยันก้าวไกลไม่มีทางหนุน”บิ๊กป้อม” และยังคงยืนหยัดที่จะต่อสู้ต่อไป

ที่รัฐสภานายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่จะมาทำงานให้ประชาชน 4 ปีข้างหน้า ควรให้ สส. ที่เป็นตัวแทนประชาชนได้สอบถามถึงทิศทางการบริหารประเทศ เพราะที่ผ่านเมื่อครั้งโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ก็ได้เปิดกว้างให้ สส. สอบถามถึงแนวปฏิบัติ ซึ่งการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เห็นว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน ขึ้นมา ถ้าหาก สส. มีอะไรจะสอบถามก็สามารถเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ และชี้แจงได้ แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกล อาจจะไม่อภิปรายคุณสมบัติ เพราะที่ผ่านมาผ่านการเลือกตั้ง และประชาชนได้ตัดสินใจไปแล้ว

 

ส่วนทิศทางการโหวตนั้น ที่ประชุมมีมติไปแล้วว่าจะไม่โหวตสนับสนุนนายเศรษฐา เนื่องจากยังมีความคลุมเครือในการจัดตั้งรัฐบาล ยังไม่เห็นหน้าตาของรัฐบาลใหม่ว่าเป็นอย่างไร โดยพรรคก้าวไกลจะให้โอกาสถึงวันที่ 21 สิงหาคมนี้ จะสรุปอีกครั้งว่าจะโหวตไม่เห็นชอบ หรือ งดออกเสียง แต่ถ้ายังไม่ชัดเจนก็จะโหวตไม่เห็นชอบ และต้องรอที่ประชุมว่าจะเสนอให้มีแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่ พรรคก้าวไกลถึงจะมีมติลงคะแนนเสียงให้อย่างไร

 

พร้อมกันนี้ นายณัฐชา กล่าวถึงความเหมาะสมระหว่างแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ ว่า ไม่มีแนวทางหรือความเป็นไปได้ที่พรรคก้าวไกลจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกจากพรรคพลังประชารัฐ หรือเห็นว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ  เพราะที่ผ่านมาได้บอกกับประชาชนไปแล้วถึงเหตุผลที่ไม่เห็นด้วย และเห็นต่างกับพรรคพลังประชารัฐ หรือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และประชาชนได้ตัดสินใจแล้ว

นายณัฐชา ยังกล่าวถึงการที่พรรคก้าวไกล ไม่โหวตให้พรรคเพื่อไทยนั้นสวนทางกับการจะช่วยปิดสวิตซ์ สว. ว่า วาทกรรมการบอกว่า ก้าวไกลต้องโหวตให้เพื่อไทย เพื่อปิดสวิตซ์ สว. นั้นไม่ใช่ เพราะตอนนี้ สว. กำลังใช้อำนาจของตนเองในการไม่โหวตให้พรรคที่ได้อันดับ 1 การปิดสวิตซ์ สว. คือ สว. ต้องไม่มีความหมายในการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ต้องให้เสียงของ สส. มีอำนาจมากกว่า ขณะนี้ สว. ได้ประสบผลสำเร็จแล้วที่ไม่โหวตให้พรรคอันดับ 1 และใช้กลไกบีบ ว่า จะไม่เลือกพรรคนั้นพรรคนี้ และให้กลัว สว. ถือเป็นการบีบทางอ้อม และเป็นการร่วมกันปิดสวิตซ์ก้าวไกลมากกว่า

 

พร้อมมองว่า การจับมือ 312 เสียง คือ ความชอบธรรมที่สุด และเป็นความต้องการของประชาชนมากที่สุด  เสียงที่ประชาชนเลือก 312 เสียง แต่ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะต้องมีเสียงอื่นเข้ามาแทรกแซง และพยายามกดดันให้ 312 เสียงต้องแตกจากกัน และเมื่อวันนี้ทำสำเร็จแล้วในขั้นแรก การจะรวบรวมเสียงใหม่ก็ขึ้นอยู่กับพรรคแกนนำจะตัดสินใจ จะรวบรวมเสียงเพิ่มจาก 312 เสียงก็สามารถทำได้ หรือ จะไปรวบรวมใหม่ก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งเป็นแนวความคิดของเขา และไม่ตรงกับแนวคิดของพรรคก้าวไกล จึงไม่สามารถโหวตให้ได้

ทั้งนี้หากมีช่องทางที่จะเสนอให้นายพิธากลับมาได้อีกครั้งพรรคก้าวไกลก็จะดำเนินการ เพราะได้รับความมอบหมายจากประชาชนแล้ว ไม่สามารถล้มเลิกได้อย่างง่าย วันนี้ 150 เสียงของพรรคก้าวไกลยังคงยืนยันที่จะต่อสู้ เพื่อความต้องการของประชาชน แต่เราไม่สามารถทำได้ เพราะเรามีเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอ   

 

“ประชาชนออกมากดดัน สส.ทุกพรรคการเมือง อยากให้เป็นเรื่องปกติของระบอบประชาธิปไตยที่พรรคอันดับ 1 ควรได้เป็นนายกรัฐมนตรี เราต้องพูดเรื่องนี้กันซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายครั้ง เพราะเกิดความไม่ปกติในสังคม มีคนพยายามบิดเบือน พยายามพูดว่า รวมเสียงกันฟากฝ่ายหนึ่งชนะก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งความจริงแล้วเป็นเรื่องผิดปกติในระบอบประชาธิปไตย”

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.