2มุมมองเสื้อแดง วรชัย ขังนอกคุก ไม่เอื้อ ทักษิณ แดงสกล แนะ เข้าเรือนจำ-ออกบวช

ยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ระเบียบกรมราชทัณฑ์ คุมขังนอกเรือนจำ เปิดช่องเอื้อกับ ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ ผู้คนในสังคม เริ่มวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา ขณะเดียวกัน มีมุมมองความคิด 2 แกนนำ แนวร่วมคนเสื้อแดงที่เคยผ่านการชุมนุมทางการเมืองด้วยกันมา ได้ร่วมสะท้อนมุมมองออกมาเช่นกัน

'วรชัย เหมะ' ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ระเบียบราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง 2560 ที่กำหนดสถานที่คุมขังอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำ จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ว่า 

"ระเบียบดังกล่าวเขาใช้กันทั่วโลกเป็นหลักสากลที่ต้องการให้นักโทษที่เหลือโทษจำคุกน้อย นักโทษที่เจ็บไข้ได้ป่วย ได้สิทธิในการย้ายที่คุมขังซึ่งไม่ใช่เรือนจำ เช่นบ้าน หรือสถานที่ราชการอื่นๆ และในประเทศไทยมีเหตุจำเป็นต้องใช้ระเบียบดังกล่าว เนื่องจากพื้นที่ในเรือนจำมีจำกัดแค่ 3.8 แสนตารางเมตร

แต่วันนี้มีนักโทษเกือบ 3 แสนคน หลักสากลนักโทษ 1 คนจะต้องมีพื้นที่ 1.6 ตารางเมตร วันนี้ในเรือนจำมีความแออัดอย่างมาก และในฐานะที่เคยอยู่ในเรือนจำมาก่อนได้เห็นความแออัดที่ว่า อีกทั้งยังไม่มีการแยกกลุ่มนักโทษ นักโทษยาเสพติด ลักเล็กขโมยน้อย หมิ่นประมาท หรือแม้แต่นักโทษการเมือง ไม่ว่าจะถูกจำคุก 1 ปี หรือ 10 ปี ก็ต้องมาอยู่รวมกัน 
 

คนแก่อายุ 70 ปีขึ้นไปมีโอกาสเจ็บป่วยได้สูง มีโรคติดต่อกันเยอะ ระเบียบที่กำลังจะออกมานี้เป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องขังชั้นดีที่กำลังจะได้ออกจากเรือนจำ และยังช่วยผู้ต้องขังคนอื่นๆที่ยังต้องอยู่ในเรือนจำจะได้ลดความแออัด เชื่อว่าระเบียบดังกล่าวมีผู้ได้ประโยชน์เกือบ2 หมื่นคน

แต่วันนี้มีคนที่เกลียดนายทักษิณ หยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็นโจมตีกรมราชทัณฑ์ โจมตีรัฐบาล โจมตีนายทักษิณว่าระเบียบที่ออกมาตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 60 และ 63 เป็นการเอื้อประโยชน์ ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่กล้าที่จะเดินหน้าเรื่องดังกล่าว จนกระทบสิทธิของคนอื่นจำนวนมาก 

จึงอยากขอให้คนที่ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้ดูข้อเท็จจริงและให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายที่ออกมา อย่าให้ความเกลียดชังนายทักษิณต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วยโดยไม่มีเหตุจำเป็น"

'สิระ พิมพ์กลาง' อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อนไทย และแกนนำคนเสื้อแดง สกลนคร กล่าวถึง ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 ที่ประกาศเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2566 ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ เป็นการเปิดช่องและเอื้อประโยชน์ให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ว่า

"คนในรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดถึงระเบียบกรมราชทัณฑ์ นายทักษิณ อาจเข้าเกณฑ์ด้วย นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม บอกว่า ไม่ห่วงว่าจะถูกนำไปขยาย กลายเป็นประเด็นทำให้คนออกมาชุมนุม และอีกหลายคนที่ออกมาให้สัมภาษณ์ ดูแล้ว ไม่ค่อยเป็นผลดีกับท่าน ในทุกวันนี้ ผู้คนในสังคมเริ่มวิตกต่อ กระบวนการยุติธรรม จากระเบียบกรมราชทัณฑ์ที่ออกมา จะทำให้นายทักษิณ ได้ประโยชน์ไปด้วยหรือไม่ ในฐานะที่เคยร่วมงานกับท่านมา เคยไปชุมนุมคนกับเสื้อแดงปี2552-2553 มีผู้คนออกมาชุมนุมเพราะเห็นด้วยกับแนวทางท่าน จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีพี่น้องเสื้อแดงบาดเจ็บ ล้มตาย เป็นร้อยคน
 
ก่อนหน้านี้ ท่านก็สู้กับความอยุติธรรม ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรมมาก่อน อยากให้ท่าน โดนคุมขังสักระยะเวลาหนึ่ง ให้เป็นที่ประจักษ์ได้เข้าเรือนจำ เพื่อทำให้เกิดความสงบสุขทั้งของประเทศ เพราะตอนนี้ขบวนการยุติธรรม ถูกผู้คนในสังคมบางฝ่ายตั้งคำถามเป็นอย่างมาก เป็นการช่วยเหลือคนๆเดียวหรือไม่ เช่นเดียวกับ ข้าราชการที่รับไปปฏิบัติ สุ่มเสี่ยงจะโดนโทษด้วย ส่วนปัญหาม็อบ ก็อย่าทำเป็นล้อเล่น เมื่อท่านทักษิณ อยากให้เกิดความสงบสุข สามัคคี แต่ถ้าไปทำอย่างนี้ อาจจะไปกระตุ้นความแตกแยกให้เกิดขึ้นมาอีกก็เป็นได้

ถ้าท่านอยากให้ประเทศสงบสุข อยากให้ท่านเสียสละ เข้าสู่เรือนจำ เพราะในวันนี้ คนจำนวนมาก ไม่ค่อยเชื่อ ป่วยได้นานขนาดนี้ ยิ่งมีการออกมาบอก กล้องวงจรปิดที่รพ.ตำรวจ เสียอีก ยิ่งทำให้คนคิดว่า ไม่น่าเป็นไปได้ ผมอยากให้ท่านโดนคุมขังสักระยะ ออกมาติดกำไลอีเอ็ม เมื่อออกมา ก็ใช้ธรรมมะกล่อมเกลาจิตใจ ออกบวช ให้กับผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์เสื้อแดงในอดีต บวชสักพรรษา ใช้ธรรมะเตือนสติตัวเอง สิ่งไหนดีต่อประเทศก็ทำต่อ หากอะไรไม่ดี จะได้ลดละเลิก ถ้าบวชได้จริงๆ ไปจังหวัดสกลนครก็ได้ มีพระเก่งๆสอนด้านวิปัสนา สอนธรรมะดีๆ อยู่หลายรูป หากผ่านตรงนี้ไป ด้วยมันสมองของท่าน ยังสามารถออกมาช่วยประเทศได้ คนที่ออกมาพูดล้วนรักท่านทักษิณ แต่ขณะเดียวกันต้องรักอย่างถูกต้อง มองชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่มองตัวบุคคลเป็นที่ตั้ง เมื่อรักแล้วต้องทำให้เกิดประโยชน์กับสังคมประเทศชาติด้วย ไม่ใช่หวังอย่างใดอย่างหนึ่ง"