โฆษกรัฐบาล ชี้ R&I เชื่อมั่นการทำงานรัฐบาล คงอันดับน่าเชื่อถือของไทยที่ A-
นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บริษัท Rating and Investment Information, Inc. (R&I) คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ A- และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ (Stable Outlook)
นายสัตวแพทย์ชัย กล่าวว่า บริษัท Rating and Investment Information, Inc. (R&I) ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น จัดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ และผู้ออกตราสารหนี้ทั้งในประเทศญี่ปุ่น และต่างประเทศ โดยได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ A- และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ (https://www.r-i.co.jp/en/news_release_cfp/2023/12/news_release_cfp_20231221_21207_eng.pdf)
โดยบริษัทให้เหตุผลว่า “เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวด้วยการขับเคลื่อนจากการบริโภคภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ นอกจากนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคอุตสาหกรรม การผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์ เป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยรัฐบาลมีมาตรการเชิงรุกต่างๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมหลักในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) และสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ตลอดจนสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะปานกลางถึงระยะยาว ขณะที่ภาคการส่งออกชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก
ประกอบกับ แม้ว่าการขาดดุลทางการคลังจะยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงกว่าก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ R&I เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะยังคงสามารถบริหารจัดการภาระหนี้สาธารณะให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และยังมีพื้นที่ทางการคลังคงเหลือเพื่อใช้สนับสนุนการดำเนินนโยบายการคลัง ภาคการเงินต่างประเทศมีความแข็งแกร่ง โดยดุลบัญชีเดินสะพัดปี 2566 คาดว่าจะกลับมาเกินดุล และทุนสำรองระหว่างประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง
“รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหา ดำเนินนโยบายการเงินการคลังอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ และเป็นไปภายใต้กฎระเบียบ รวมทั้งได้เตรียมมาตการรองรับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจในด้านต่างๆ โดยนายกรัฐมนตรีพัฒนาส่งเสริมปัจจัยในประเทศให้เหมาะสมรองรับการลงทุน และเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่น พบปะพูดคุย เชิญชวนนักลงทุนรายสำคัญของโลกเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งเชื่อมั่นว่าการทำงานอย่างเป็นรูปแบบ มีขั้นตอนนี้ ทำให้ยังคงความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสามารถดำเนินการ จัดการบริหารปัจจัยต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม” นายสัตวแพทย์ชัย กล่าว
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.