“เศรษฐา” ยันเรียก รมว.ยุติธรรม หารือไร้ปม “ทักษิณ” นอน รพ.ตำรวจ ครบ 120 วัน

เมื่อเวลา 10.26 น. วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมเดินทางลงพื้นที่จังหวัดน่าน ด้วย

โดยเวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามการเจรจาแก้หนี้นอกระบบในพื้นที่จังหวัดน่าน และร่วมรับฟังการแก้ปัญหาหนี้ระหว่างประชาชา (ลูกหนี้) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนเดินทางถึงกรุงเทพฯ ในเวลา 16.15 น.

นายเศรษฐา กล่าวถึงกรณีการเรียก พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าหารือเมื่อช่วงบ่ายวานี้ที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาลว่า ตนได้เชิญมาหารือเรื่อง คดีหมูเถื่อนและคดีหุ้น MORE และหุ้น STARK โดยไม่มีการหารือเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกคุมขังครบ 120 วัน ที่โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงไม่ได้สอบถามถึงการออกระเบียบของกรมราชทัณฑ์ในการคุมขังนักโทษนอกเรือนจำว่านายทักษิณ เข้าข่ายระเบียบดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่ากรมราชทัณฑ์มีกฎระเบียบอยู่ในการดูแลคนเจ็บ และตนก็มั่นใจว่ากรมราชทัณฑ์ทำตามกฎระเบียบสามารถตรวจสอบได้

ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าการออกระเบียบในรัฐบาลนี้ทั้งที่มีการเริ่มตั้นตั้งแต่ปี 2560 นั้น จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ย้อนผู้สื่อข่าวว่าเป็นคำถามที่ย้อนแย้ง เพราะกฎหมายเริ่มตั้งแต่ปี 2560 เมื่อถามย้ำว่าแต่ขณะนั้นเป็นเพียงแนวคิดแต่มาสำเร็จในรัฐบาลนี้ 

นายเศรษฐา ระบุว่า แนวคิดมีตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งขณะนั้นรัฐบาลนี้ก็ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล เป็นรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งตนเชื่อว่าโรงพยาบาลตำรวจ และกรมราชทัณฑ์ ทำถูกต้องตามกฎระเบียบ 

ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าคณะกรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎรจะไปตรวจสอบโรงพยาบาลตำรวจว่า นายทักษิณ เข้าพักรักษาตัวจริงหรือไม่ อาจมีปัญหาในเรื่องสิทธิของผู้ป่วยนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ก็ต้องว่าไปตามกฎที่ตั้งไว้ แต่ถ้าไปละเมิดสิทธิคงไม่ถูกต้อง

สำหรับกรณีการเดินทางไปชมมวย ONE ลุมพินี 46 ที่ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบกเวทีมวยไทยลุมพินี ถนนรามอินทรา กรุงเทพฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า สนุกมาก แต่อยู่ไม่ทันคู่สุดท้ายเพราะมีภารกิจในช่วงเช้าวันนี้ พร้อมยอมรับว่า เหนื่อยแต่สนุกเช่นเดียวกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่บอกว่าสนุกมาก แต่ว่าเหนื่อยก็กลับก่อน 

ซึ่งตนเคยชมการชกมวย ที่สนามมวยลุมพินี เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยังไม่เหมือนกับปัจจุบันนี้ เมื่อวานเข้าไปก็ตะลึงเหมือนกัน เพราะกองทัพบกที่เป็นเจ้าของสถานที่ทำในระดับเวิลด์คลาส สามารถที่จะจัดคอนเสิร์ตก็ได้ เพียงแต่สามารถจุคนได้เพียงแค่ 3,000 คน ซึ่งน้อยไปหน่อย 

ส่วนจะต้องมีการขยายพื้นที่ให้มากขึ้น เพื่อรองรับคนและการจัดงานอื่นให้มากขึ้นหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบต้องขอคุยกับผู้จัดและผู้บัญชาการทหารบกก่อน เพราะท่านก็มีความรู้และรู้จักนักมวยทุกคน ก่อนย้ำว่าสนุกสนานดีและบรรยากาศดีมาก น่าชื่นใจและเชื่อว่าจะมีการต่อยอดได้อีก

นายกรัฐมนตรี ยังได้หันมาถามผู้สื่อข่าวว่า “ใครไปดูชกมวยเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. บ้าง สนุกดีนะ แต่เสียดายที่น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย หรือ นายอภิเชษฐ์ โคตานน แพ้น็อคทั้งที่เตะจนคู่ชกเดินแทบไม่ไหว”

ส่วนการลาพักร้อน ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ตอบด้วยท่าทีอารมณ์ดี มีสีหน้ายิ้มแย้มว่า ไม่ได้ลาหลายวัน แค่ 2 วันเท่านั้นเอง ก็ได้พักผ่อนบ้าง ลูกชายกลับมาไม่ได้เจอกันนานแล้ว

ทั้งนี้ ช่วงที่เดินเข้าไปในอาคารผู้โดยสาร ก่อนเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดน่าน ระหว่างนั้นได้เล่าบรรยากาศการชมมวยเมื่อคืนวานนี้ ให้กับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า สนุก และสถานดีมาก  

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.