“ชัยชนะ” ไม่กลัว หลังถูกขู่ฟ้องปมตรวจสอบ “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ
นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า กรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากคณะกรรมาธิการฯ จะไปศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจ ในเรื่องวิธีการ ขั้นตอนและมาตราการดูแลผู้ต้องขังเข้ากรณีเข้ารับรักษาตัว รวมถึงเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามีอาการป่วยจริงอย่างไร ก็ต้องระวังว่าจะถูกฟ้อง
รวมทั้ง กรณีที่ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ ประกาศว่า จะดำเนินการฟ้องร้องคนที่ต้องการให้เปิดเผยข้อเท็จจริงถึงอาการป่วยของนายทักษิณ โดยอ้างว่า เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิของผู้ป่วยและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงนั้น ตนเห็นว่าทั้ง 2 กรณี มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ต้องการปกป้องสุดชีวิต และปกปิดไม่ให้สาธารณชนรับรู้ โดยให้เข้าใจเอาเองว่า นายทักษิณ ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล และกลายเป็นชุดความคิดที่จะสะกดจิตคนไทยทั้งประเทศ
ดังนั้น การที่ทางคณะกรรมาธิการฯ จะเดินทางไปดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสอบถามถึงมาตรฐานการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขัง และสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้กับคนไทย ในวันที่ 12 ม.ค.2567 นั้น ถือว่าเป็นการทำหน้าที่แทนปวงชนชาวไทย ที่ได้รับเลือกมาตามระบอบประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญฯมาตรา 129 ก็ได้รับรองการกระทำของคณะกรรมาธิการแต่ละชุด ในการสอบหาข้อเท็จจริง
โดยยืนยันว่า ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจ มีอำนาจหน้าที่อย่างถูกต้องในการดำเนินการดังกล่าว เพราะฉะนั้นตนก็ต้องขอบคุณ นายสมศักดิ์ และนายวิญญัติ ในความปรารถนาดีที่เป็นห่วงกลัวว่า คณะกรรมาธิการฯ และประชาชนที่ต้องการทราบข้อเท็จจริง จะกระทำผิดกฎหมาย เพราะเชื่อว่าหากกระทำการโดยอาศัยอำนาจที่มีตามกฎหมายอย่างซื่อสัตย์สุจริตและตรงไปตรงมาแล้ว ก็จะมีกฎหมายและข้อเท็จจริงคอยคุ้มครองบุคคลเหล่านั้น ให้รอดจากภยันตรายและโทษทางกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่า รู้ทั้งรู้ว่าข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเป็นอย่างไร แต่ยังดันทุรังเพื่อช่วยเหลือให้บุคคลคนหนึ่งมีสิทธิมากกว่าคนอื่นๆ จนกลายเป็นคนไม่เท่ากันแล้ว นอกจากจะทำให้เกิดความไม่สบายใจกับตนเองแล้ว ยังจะทำให้ส่วนรวมขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทยด้วย
“ผมก็ไม่ได้แปลกใจที่ทั้งรองนายกฯ สมศักดิ์ และนายวิญญัติ จะใช้วิธีการฟ้องปิดปากกับทางคณะกรรมาธิการฯ และประชาชนที่ต้องการทราบว่า นายทักษิณ อยู่ที่ไหนและทำไมยังรักษาตัวไม่หาย และผมคิดว่าบุคคลทั้งสอง ควรจะคำนึงประเด็นสงสัยของประชาชนขณะนี้ มีหลายข้อสงสัยที่ทางคณะกรรมาธิการฯ จะต้องหาคำตอบให้ได้ เช่น ตกลงแล้วนายทักษิณป่วยหนักจริงหรือไม่ ทำไมได้เอกสิทธิ์และอภิสิทธิ์เหนือนักโทษคนอื่น ตกลงแล้วนายทักษิณจะได้กลับเข้าไปเรือนจำเพื่อชดใช้ความผิดหรือไม่ เป็นต้น” นายชัยชนะ กล่าว
นายชัยชนะ กล่าวอีกว่า การที่ผมและคณะกรรมาธิการฯ จะมีกำหนดการดูงานและสอบหาข้อเท็จจริงที่โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 12 ม.ค.2567 นั้น ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทำหนังสือถึงกรมราชฑัณฑ์และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายให้อำนาจไว้ ไม่ได้กระทำการเกินเลยแต่อย่างใด
ซึ่งเป็นหน้าที่ของทางโรงพยาบาลตำรวจและกรมราชฑัณธ์เองว่า จะตอบรับให้ทางคณะกรรมาธิการฯ เข้าไปดูงานและตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ เพราะถ้าไม่อนุญาต ทางโรงพยาบาลตำรวจ กรมราชฑัณฑ์ และผู้เกี่ยวข้องก็ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ โดยเฉพาะข้อสงสัยของประชาชน
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.