นายกฯเศรษฐาย้ำสัมพันธ์2ชาติไทย-ญี่ปุ่นร่วมผลักดัน Soft Power
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2566 เวลา 11.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโตเกียว ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชม.) ณ โรงแรม Okura Tokyo กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในฐานะประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษฯ ช่วงที่ 2 การหารือระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน ภายใต้หัวข้อ “Heart to Heart Partners across Generations” โดยภายหลังเสร็จสิ้น นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนแบบใจถึงใจ (Heart-to-Heart Partnership) ผ่านการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชน ทั้งในด้านการศึกษาและวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งถือเป็นรากฐานที่สำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน ญี่ปุ่นถือเป็นพันธมิตรที่ไทยให้ความไว้วางใจอย่างมาก โดยเฉพาะการเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างประชาชน อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเห็นว่า การสร้างความร่วมมือระหว่างรุ่นสู่รุ่นที่แท้จริงในอนาคต จะต้องคำนึงถึงค่านิยมและทัศนคติที่แตกต่างกันของคนหนุ่มสาว รวมถึงต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชนด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึง โครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมมิตรภาพและสร้างความประทับใจในญี่ปุ่นให้กับทั้งเยาวชนไทยและอาเซียน รวมถึงแอนิเมชันญี่ปุ่น ซึ่งสามารถดึงดูดผู้ชมได้จากรุ่นสู่รุ่น สร้างแรงบันดาลใจ ส่งเสริมความเข้าใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่น และปลูกฝังค่านิยมเชิงบวก โดยนายกรัฐมนตรีเติบโตมาพร้อมกับตัวการ์ตูนหน้ากากเสือ (Tiger Mask) และกาโม่มนุษย์กายสิทธิ์ (Specter-man) ซึ่งถือเป็นซูเปอร์ฮีโร่กลุ่มแรก ๆ ของโลก ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่หลายคนในการมุ่งมั่นทำงานเพื่อโลกที่ดีขึ้นและสงบสุข
รัฐบาลไทยตระหนักถึงศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และ Soft Power ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยไทยมีอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่กำลังเติบโต ทั้งการออกแบบ แฟชั่น อาหาร ภาพยนตร์ ดนตรี ศิลปะการแสดง เกม และการสร้างเนื้อหาดิจิทัล ทั้งนี้ ไทยพร้อมมีความร่วมมือกับญี่ปุ่นและอาเซียนในการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม
ความร่วมมือด้านการศึกษาและการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน เช่น โครงการ Japan East-Asia Network of Exchange for Students and Youths (JENESYS) และโครงการที่ริเริ่มใหม่ Partnership to Co-create a Future with the Next Generation (WA Project 2.0) ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ความร่วมมือดังกล่าวควรได้รับการส่งเสริมให้เข้มแข็ง เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต และยินดีที่ญี่ปุ่นบริจาคเงิน 4 หมื่นล้านเยน เพื่อสนับสนุนความมุ่งมั่นนี้
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำการก้าวไปข้างหน้า พร้อมกับการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนแบบใจถึงใจต่อไป เพื่อเพิ่มความเข้าใจอันดีต่อกันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสนับสนุนให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับคนรุ่นต่อ ๆ ไป
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.