10 อาหารที่กินแล้วทำให้ "แก่วัย"
เรื่องของอาหารการกินยังไงก็เป็นเรื่องที่สำคัญต่อร่างกาย เนื่องจากสารอาหารสำคัญและวิตามินต่าง ๆ จะช่วยทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังทำให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย แต่การกินอาหารนั้นก็ควรที่จะเลือกสักหน่อยเพราะ อาหารที่ทำให้แก่ก่อนวัย ก็มีอยู่เช่นกัน แต่จะเป็นอาหารอะไรบ้างที่คุณควรหลีกเลี่ยง ทาง Hello คุณหมอ มีเรื่องนี้มาฝากกัน
อาหารที่ทำให้แก่ก่อนวัย
สำหรับสาเหตุหลักๆ ที่ส่งผลทำให้เกิดการเร่งกระบวนการชราของผิวนั้น มีอยู่ 2 ประการ ซึ่งได้แก่
- การออกแดด
- การเกิดปฏิกิริยาในร่างกายของเราจากน้ำตาลส่วนเกินและโปรตีนในร่างกายเกิดปฏิกิริยาและรวมตัวกันทำให้เกิดสาร AGEs ขึ้นมา (Advanced glycation end products หรือ AGEs)
ถึงแม้สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้จะไม่สามารถควบคุมได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่การใช้ครีมกันแดดและการคำนึงถึงอาหารโดยรวมที่กินเข้าไป ก็สามารถช่วยทำให้ร่างกายของเราปกป้องและรักษาผิวได้
อย่างไรก็ดีคุณควรเตือนความจำตัวเองเอาไว้ด้วยว่า อาหารบางชนิดนั้นมีผลต่อสุขภาพผิวของคุณ บางครั้ง อาหารที่ทำให้แก่ก่อนวัย ก็อาจส่งผลทำให้คอลลาเจนน้อยลงและทำลายผิวของคุณได้ การหลีกเลี่ยงการกินอาหารเหล่านี้ อาจจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า ซึ่งอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะอาจทำให้คุณแก่ก่อนวัยอันควรนั้น มีดังนี้
-
เฟรนช์ฟรายส์ที่ทอดด้วยมันฝรั่ง
เฟรนช์ฟรายส์เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งยังสามารถเกิดปฏิกิริยาในร่างกายของเราจากน้ำตาลส่วนเกินและโปรตีนในร่างกายเกิดปฏิกิริยาและรวมตัวกันทำให้เกิดสาร AGEs ขึ้นมา เพราะต้องผ่านการทอดและมีรสชาติที่เค็ม ซึ่งอาหารที่ทอดในน้ำมันที่อุณหภูมิสูง จะปล่อยอนุมูลอิสระที่ทำให้เซลล์ทำลายผิวหนังได้
การสัมผัสกับอนุมูลอิสระจะช่วยเร่งกระบวนการชรา เนื่องจากการกระทำที่เรียกว่า “การเชื่อมโยงระหว่างสายโซ่โมเลกุล (Cross-linking)” โดยการเชื่อมโยงที่เกิดขึ้นนี้มีผลต่อโมเลกุลของดีเอ็นเอ และอาจทำให้ความยืดหยุ่นของผิวหนังลดลง
ยิ่งไปกว่านั้นการกินเกลือมากเกินไป สามารถดึงน้ำออกจากผิวหนังและนำไปสู่ภาวะขาดน้ำได้ นั่นอาจทำให้ผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอยขึ้นได้ เพราะฉะนั้น ลองเปลี่ยนเฟรนช์ฟรายส์ที่ทอดจากมันฝรั่ง มาเป็นเฟรนส์ฟรายที่ทอดจากมันเทศ เนื่องจากมันเทศนั้นอุดมไปด้วยทองแดง ซึ่งช่วยในการต่อต้านริ้วรอบแห่งวัย และช่วยในการผลิตคอลลาเจนด้วย
-
ขนมปังขาว
เมื่อคาร์โบไฮเดรตกลั่นรวมกับโปรตีนจะทำให้เกิดการก่อตัวของ AGEs ซึ่งมีผลโดยตรงต่ออายุ โรคเรื้อรัง และกระบวนการชรา อาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง เช่น ขนมปังขาว อาจทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเชื่อมโยงกับกระบวนการชรา ดังนั้น ลองหาทางเลือกอื่นแทนขนมปังขาว เช่น ขนมปังธัญพืชที่ไม่ใส่น้ำตาล เพราะมันมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิว
-
น้ำตาลทรายขาว
น้ำตาลถือเป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้เกิดปัญหาผิวที่ไม่พึงประสงค์ เช่น สิว เนื่องจากน้ำตาลมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนที่ทำลาย AGEs เมื่อระดับน้ำตาลของเราสูงขึ้น กระบวนการ AGEs จะถูกกระตุ้น และมันจะเกิดปฏิกิริยาเร็วขึ้นหากมีแสงแดดเข้ามาเกี่ยวข้อง
ดังนั้น แทนที่จะกินไอศกรีมปกติ ให้เลือกกินผลไม้แช่แข็ง เพื่อความสดชื่น หรือไอศกรีมที่ไม่เติมน้ำตาลแทน นอกจากนั้นลองหยิบผลไม้หรือดาร์กช็อกโกแลต มากินแทนเมื่อเกิดความรู้สึกว่าอยากกินอะไรหวานๆ โดยเฉพาะบลูเบอร์รี่ เพราะผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อย่างสามารถป้องกันการสูญเสียคอลลาเจนได้
-
เนยเทียม
จากการศึกษาที่เก่าแก่แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ไม่กินเนยหรือเนยเทียมเลย จะมีความเสียหายต่อผิวหนังและมีริ้วรอยน้อยกว่าผู้ที่กิน ทั้งยังมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ตรวจสอบแล้วว่า เนยเทียมนั้นไม่ดีถ้าเทียบกับเนยแท้ เนื่องจากมีน้ำมันที่เติมไฮโดรเจนบางส่วนสูง นอกจากนั้นกรดไขมันทรานส์จากเนยเทียมยังทำให้ผิวมีความเสี่ยงต่อรังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่งอาจทำลายคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิวหนังได้
ดังนั้น ลองเปลี่ยนจากการใช้เนยทาลงบนขนมปังเป็นการใช้น้ำมันมะกอกหรือทาอะโวคาโดที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระต่อต้านริ้วรอยลงบนขนมปังแทนจะเป็นการดีกว่า
-
เนื้อสัตว์แปรรูป
ฮอทดอก เบคอน และไส้กรอก ล้วนทำมาจากเนื้อสัตว์แปรรูปที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวหนัง เนื่องจากเนื้อสัตว์เหล่านี้มักมีโซเดียม ไขมันอิ่มตัว และซัลไฟต์สูง ซึ่งทั้งหมดสามารททำให้ผิวขาดน้ำ และทำให้คอลลาเจนอ่อนแอลงได้ จนทำให้เกิดการอักเสบ
หากต้องการโปรตีนลองเปลี่ยนจากเนื้อสัตว์แปรรูปมาเป็นไข่หรือถั่วดูจะเป็นการดีกว่า หรือไม่เช่นนั้น ลองเลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน เช่น เนื้อไก่ เนื้อสัตว์เหล่านี้อุดมไปด้วยโปรตีน และกรดอะมิโนจำเป็นในการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ
-
ผลิตภัณฑ์นม
บางคนอาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังตัวเองในเชิงบวกจากการดื่มนม แต่ในขณะเดียวกันคนอื่นๆ อาจจะไม่เห็นถึงความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวของแต่ละบุคคล สำหรับบางคน เมื่อดื่มนมเข้าไปแล้วมันอาจจะไปเพิ่มการอักเสบในร่างกาย ซึ่งนำไปสู่ภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร
อาการที่มีผลิตภัณฑ์จากนมต่ำ อาจช่วยป้องกันผิวที่โดนแดดจากการเหี่ยวย่น แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์นมนั้นเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพผิวโดยรวม แต่หากคุณไม่สามารถดื่มนม หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมได้ คุณก็สามารถหาแคลเซียมจากแหล่งอื่นๆ กินได้ เช่น เมล็ดพืช ถั่ว อัลมอนด์ ผักใบเขียว และมะเดื่อ
-
โซดาและกาแฟ
โซดากับกาแฟนั้นสามารถส่งผลต่อผิวและการนอนหลับได้ เนื่องจากเครื่องดื่มทั้ง 2 ชนิดนี้มีคาเฟอีนที่สูง ซึ่งถ้าดื่มบ่อยๆ ตลอดทั้งวันก็อาจจะส่งผลต่อการนอนหลับได้ การนอนหลับที่ไม่ดีนั้นเชื่อมโยงกับสัญญาณแห่งวัยที่เพิ่มขึ้น รอยคล้ำรอบดวงตาที่มากขึ้น และริ้วรอย
ถ้าหากคุณกังวลเกี่ยวกับปริมาณคาเฟอีนที่ดื่มเข้าไป ลองสังเกตตัวเองดูว่าดื่มมากขนาดไหน แล้วลองดูว่าสามารถลดปริมาณหรือเปลี่ยนไปดื่มอย่างอื่นแทนได้หรือไม่ เช่น ดื่มนมสีทอง (Golden Milk) เพราะขมิ้นที่เป็นส่วนประกอบหลักในนมสีทองนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และเป็นหนึ่งในสารต่อต้านริ้วรอยที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
-
แอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์สามารถก่อให้เกิดปัญหาผิวมากมายได้ เช่น รอยแดง อาการบวม สูญเสียคอลลาเจน และริ้วรอย เพราะมันสามารถทำให้ระดับสารอาหาร ความชุ่มชื้นและวิตามินลดลง ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลโดยตรงต่อการเกิดริ้วรอย ซึ่งวิตามินเอนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ใหม่ และการสร้างคอลลาเจน จึงทำให้มั่นใจได้ว่าผิวจะยืดหยุ่นและปราศจากริ้วรอย
หากคุณต้องการดื่มแอลกอฮอล์ ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ นั่นคือ 1 แก้วต่อวันสำหรับผู้หญิง และ 2 แก้วต่อวันสำหรับผู้ชาย และพยายามตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวเองนั้นได้รับน้ำที่เพียงพอ
-
อาหารที่ปรุงด้วยความร้อนสูง
น้ำมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนบางชนิดที่มีกรดไขมันโอเมก้า 6 สูง เช่น น้ำมันข้าวโพด หรือน้ำมันดอกทานตะวัน อาจทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายและสามารถเพิ่มระดับการอักเสบได้ หากคุณทอดหรือใช้ความร้อนสูงทุกวันสิ่งนี้อาจจะเพิ่มขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าน้ำมันทั้งหมดจะอันตรายเสมอไป
หากคุณเลือกใช้น้ำมันที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นได้ ดังนั้น ลองเปลี่ยนมาใช้น้ำมันมะกอกแทนน้ำมันพืชดู จะเป็นการดีกว่า เพราะน้ำมันมะกอกนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินอี ไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) และยังช่วยลดการอักเสบได้ด้วย
-
เค้กข้าว (Rice Cakes)
แม้เค้กข้าวมักถูกขนานนามว่าเป็นของว่างที่ดี แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นสำหรับผิว อ้างอิงจากแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้ เค้กข้าวนั้นสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น มันก็จะทำหน้าที่เป็นตัวเร่งอายุ ซึ่งอาจทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้
ดังนั้น ถ้าหากคุณอยากกินขนมหวาน แต่อยากให้มันช่วยต่อต้านริ้วรอยด้วย ลองเอาพริกหยวกแดง พริกหวานแดง มาจิ้มกับฮัมมูส (Hummus) ดูก็ได้ เนื่องจากพริกทั้ง 2 ชนิดนี้ มีวิตามินซีสูง ให้ผลิตคอลลาเจนได้ดี หรือไม่อยากนั้นลองกินถั่วชิกพี (Chickpeas) ซึ่งเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพผิวก็ได้เช่นกัน
-
ฟรุกโตส
หลายคนอาจจะไม่เคนรู้ว่า ว่านหางจระเข้นั้นมีฟรุกโตสมากกว่าน้ำเชื่อม และข้าวโพดก็มีฟรุกโตสสูงเช่นกัน ซึ่งฟรุกโตสสามารถสลายคอลลาเจนได้เร็วกว่าน้ำตาลทั่วไป นั่นจึงทำให้เกิดกระบวนการเร่งการเกิดริ้วรอยได้ แต่กรดไลโปอิค (Lipoic Acid) อาจป้องกันผลกระทบที่ทำลายคอลลาเจนจากฟรุกโตสได้ แม้ว่านหางจระเข้จะเป็นสารให้ความหวานเพียงชนิดเดียวที่คุณมี ก็อย่าลืมใส่กะหล่ำดาว (Brussels Sprouts) ลงไปในอาหารด้วย เพราะกะหล่ำดาวมีกรดไลโปอิคสูง
การกินอาหารให้สมดุลถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของการดูแลผิว แต่ความจริงแล้วยังมีวิธีอีกมากมายที่สามารถยับยั้งนิ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ เช่น การเสริม การฉีด การรักษาเฉพาะที่ด้วย เรตินอล วิตามินซี การฟื้นฟูผิวหน้าและการรักษาหลุมสิว (Microneedling) และการใช้กรดสำหรับผลัดเซลล์ผิว ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยป้องกันและทำให้ริ้วรอยเรียบเนียนขึ้นได้ นอกจากนั้นยังมีเทคนิคอื่น อย่างเช่น การฝังเข็มบนใบหน้า หรือออกกำลังกายบนใบหน้า คุณสามารถเลือกวิธีเหล่านี้ได้ตามความต้องการของคุณ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.