6 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับภาวะ “ไขมันพอกตับ”

ไขมันพอกตับ คืออะไร?

ไขมันพอกตับคือภาวะสะสมไขมันซึ่งส่วนมากอยู่ในรูปแบบของไตรกลีเซอไรด์ในเซลล์ตับ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนโดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น 

  • ดื่มสุราเป็นประจำ 
  • มีรูปร่างอ้วน 
  • ขาดการออกกำลังกายเป็นประจำ
  • อายุ 45-50 ปีที่ขาดการออกกำลังกาย หรือมีกิจกรรมประจำวันน้อยลง
  • เป็นโรคเบาหวาน 
  • มีไขมันในเลือดสูง
  • กินยาบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน เช่น ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ และยาในกลุ่มที่เป็นฮอร์โมนทดแทน
  • ความดันโลหิตสูง

เนื่องจากภาวะไขมันพอกตับ เป็นภาวะที่คนอาจไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก และอาจไม่ทราบถึงภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้หากไม่ดูแลร่างกายให้ดี Sanook Health จึงรวบรวม 6 ข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาวะ “ไขมันพอกตับ” ที่หลายคนอาจไม่เคยทราบ

  • "ไขมันพอกตับ" ภัยเงียบของทุกเพศทุกวัย เสี่ยงเป็นมะเร็งตับ-เสียชีวิต

 

เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับภาวะไขมันพอกตับ

  1. ไขมันพอกตับ พบได้ค่อนข้างบ่อยในไทย

แม้จะว่าภาวะไขมันพอกตับจะยังไม่คุ้นหูของใครหลายคน แต่ที่จริงแล้วภาวะไขมันพอกตับสามารถพบได้ค่อนข้างบ่อยในกลุ่มผู้ป่วยในประเทศไทย จากสถิติพบว่าคนไทย 4 ใน 10 คน มีภาวะไขมันพอกตับเลยทีเดียว

  1. ไขมันพอกตับ ไม่มีอาการในระยะแรก

เรื่องที่น่าหนักใจสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันพอกตับ คือ ในระยะแรกจะไม่ปรากฏอาการใดๆ ให้พอจะสังเกตได้อย่างชัดเจน ดังนั้นผู้ป่วยหลายคนจึงอาจไม่ทราบว่าตัวเองกำลังเป็นโรคนี้ และอาจยังคงไม่ระมัดระวังในการกินอาหาร และการดำเนินชีวิตต่างๆ จนกระทั่งตรวจพบในภายหลัง หรืออยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วงแล้ว

  1. พบบ่อยในคนอ้วน แต่ผอมลงพุงก็เป็นได้

แม้ว่าภาวะไขมันพอกตับจะพบได้บ่อยๆ ในคนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน และคนที่เป็นโรคอ้วน รวมถึงคนที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคเบาหวาน แต่ในคนที่มีรูปร่างผอม แต่อ้วนลงพุง ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะไขมันพอกตับได้เช่นกัน

  1. น้ำตาลคือสาเหตุสำคัญของไขมันพอกตับ

อาจจะคิดว่าไขมันพอกตับ มาจากการกินอาหารไขมันสูงเพียงอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วอีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง ทั้งน้ำตาลฟรุคโตสที่อยู่ในน้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้สำเร็จรูป และน้ำตาลในขนมหวานต่างๆ ล้วนเป็นสาเหตุที่อันตรายต่อการเกิดภาวะไขมันพอกตับได้ทั้งสิ้น

  1. ตรวจภาวะไขมันพอกตับได้จากการตรวจสุขภาพทั่วไป

แม้ว่าจะเป็นภาวะที่ไม่มีอาการเริ่มต้น แต่ก็สามารถตรวจหาเจอภาวะไขมันพอกตับได้ง่ายๆ จากการตรวจสุขภาพทั่วไป และการตรวจสุขภาพประจำปี เช่น การตรวจจากผลเลือด การทำอัลตร้าซาวนด์ และการทำไฟโบรสแกน โดยเป็นเทคโนโลยีใช้ในการประเมินพังผืดในเนื้อตับ เพื่อดูแลสภาวะตับแข็งและปริมาณไขมันสะสมในตับ ลดอัตราความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการเจาะตับ ไม่ต้องเจาะตับ และผู้ป่วยจะไม่เจ็บ

  1. รักษาได้แค่ลดน้ำหนัก และลดของหวาน

หากผู้ป่วยตรวจพบอาการของภาวะไขมันพอกตับได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น ยังไม่มีอาการหนักมาก สามารถรักษาได้ง่ายๆ แค่เพียงลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ลดการบริโภคอาหารไขมันสูง อาหารหวาน และออกกำลังกายเป็นประจำ

  • ไขมันพอกตับ ต้องลดไขมันหรือคาร์โบไฮเดรต?

อย่างไรก็ตาม หากไม่แน่ใจว่าตัวเองเสี่ยง หรือกำลังอยู่ในภาวะไขมันพอกตับหรือไม่ สามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน

  • อาหารลดไขมันพอกตับ ยิ่งทานยิ่งดีต่อสุขภาพ

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.