รู้จักฮอร์โมน “กลูคากอน” สำหรับคนอยากหุ่นดี
ในร่างกายของเรามีฮอร์โมนที่สำคัญต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายอยู่หลายชนิด แต่ฮอร์โมน “กลูคากอน” อาจไม่ค่อยเป็นที่คุ้นตาคุ้นหูมากนัก ทั้งที่จริงแล้วมีความสำคัญต่อร่างกายมากมายไม่แพ้ฮอร์โมนชนิดอื่นๆ
ฮอร์โมนกลูคากอน คืออะไร?
ฮอร์โมนกลูคากอน (Glucagon) เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้ โดยผลิตขึ้นมาจากเซลล์ชนิดหนึ่งในตับอ่อนที่ชื่อว่า Alpha cells ฮอร์โมนกลูคากอนมีหน้าที่เพิ่มระดับน้ำตาลกลูโคสเข้าไปในกระแสเลือด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนกลูคากอนออกมาเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ โดยจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของตับให้เปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตที่สะสมเอาไว้ในรูปแบบของ “ไกลโคเจน” ให้เป็น “กลูโคส” เพื่อนำมาไหลเวียนผ่านกระแสโลหิตในร่างกาย และฮอร์โมนกลูคากอนยังช่วยสังเคราะห์กรดอะมิโน และกรดไขมันเพื่อเปลี่ยนให้เป็นกลูโคสให้มากขึ้นในช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการกลูโคสเพิ่มอีกด้วย
ฮอร์โมนกลูคากอน VS ฮอร์โมนอินซูลิน
จากการทำงานของฮอร์โมนกลูคากอนที่เข้าไปเพิ่มระดับน้ำตาลกลูโคสในร่างกาย ทำให้สังเกตได้ว่าฮอร์โมนกลูคากอนทำงานตรงกันข้ามกับฮอร์โมนอินซูลินที่เข้าไปลดระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นทั้งฮอร์โมนกลูคากอน และฮอร์โมนอินซูลินจึงทำหน้าที่คอยเพิ่ม และลดระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในภาวะสมดุลนั่นเอง
อันตรายจากภาวะฮอร์โมนกลูคากอนต่ำ
หากในร่างกายอยู่ในภาวะฮอร์โมนกลูคากอนต่ำ อาจทำให้มีความเสี่ยงต่อการอยู่ในภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งปกติภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำอาจจะเกิดขึ้นได้ในตอนเช้าที่ลุกขึ้นจากเตียงเร็วๆ แล้วตาลาย หน้ามืด แต่เป็นอาการที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และจะมีอาการที่ดีขึ้นเมื่อระยะเวลาผ่านไป แต่หากอยู่ในภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำมากเกินไป อาจก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกาย ดังนี้
- หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน
- เหงื่อออกง่าย
- กระวะกระวายใจ มือสั่น อยู่ไม่สุข
- หัวใจเต้นแรง รู้สึกหวิวๆ เหมือนจะเป็นลม
- ตัวเย็น มือเย็น รู้สึกชาๆ ที่ปาก และใบหน้า
- ง่วงซึม อ่อนเพลีย ไม่ค่อยตอบสนอง ไม่ค่อยมีสติ พูดจาไม่รู้เรื่อง
- อาจชัก หรือหมดสติได้ หากถึงโรงพยาบาลช้า อาจเสี่ยงอัมพฤกษ์ อัมพาตได้
หากพบว่าร่างกายอยู่ในภาวะน้ำตาลต่ำ อาจได้รับการฉีดฮอร์โมนกลูคากอนเพิ่มในระหว่างการรักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแพทย์ผู้ให้การรักษา
ฮอร์โมนกลูคากอน กับการออกกำลังกาย
ที่บอกว่าอยากหุ่นดี ต้องรู้จักฮอร์โมนกลูคากอน เพราะหากเราออกกำลังกายในช่วงที่ฮอร์โมนกลูคากอนทำงานเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำตากลูโคสในร่างกายด้วยการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตที่สะสมเอาไว้ในรูปแบบของ “ไกลโคเจน” ให้เป็น “กลูโคส” การออกกำลังกายก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธาพในการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้มากขึ้นไปด้วยนั่นเอง แถมร่างกายยังไม่อ่อนเพลียเพราะอยู่ในระหว่างการเพิ่มระดับน้ำตาลกลูโคสในร่างกายด้วย
ฮอร์โมนกลูคากอนจากตับอ่อนจะหลั่งออกมาสูงสุดในช่วง 90 นาทีแรกของการออกกำลังกาย จากนั้นจะค่อยๆ ลดปริมานลง ดังนั้นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานได้สูงสุก จึงไม่ควรเกิน 90 นาที หรือ 1.30 ชั่วโมงนั่นเอง โดยการออกกำลังกายเพื่อการเผาผลาญพลังงานที่แนะนำ คือการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น วิ่ง ปั่นจักรวาน แอโรบิค ว่ายน้ำ และการเล่นกีฬาประเภทต่างๆ หรือจะเป็นการออกกำลังกายแบบ HIIT หรือ High Intensity Interval Training คือการออกกำลังกายแบบเข้มข้นสูง เพื่อให้ร่างกายดึงเอาคาร์โบไฮเดรตออกมาเป็นพลังงานระหว่างออกกำลังกาย และเริ่มดึงเอาไขมันมาใช้ทดแทน ซึ่งสามารถเกิดภาวะ After Burn หรือร่างกายเผาผลาญพลังงานในร่างกายอย่างต่อเนื่องแม้จะหยุดออกกำลังกายไปแล้ว แต่เป็นการออกกำลังที่มีความทรมานถึงขั้นไม่แนะนำให้ทำเกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และแพทย์ประจำตัวก่อนเริ่มออกกำลังกายในลักษณะนี้
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.