อาการแบบไหนที่ควร "ตรวจภายใน"

เรื่องของอาการผิดปกติต่ออวัยวะภายในร่างกาย เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าภายนอก ดังนั้นในหลายๆ ครั้งกว่าจะรู้ตัวว่าเป็นโรคร้ายอันตราย ก็อาจจะมีอยู่ในขั้นรุนแรงจนทำให้การรักษาเป็นไปด้วยความยากลำบากได้ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงกับการ “ตรวจภายใน” ที่หลายคนไม่กล้าเข้ารับการตรวจเพราะเขินอาย แต่จริงๆ แล้วการตรวจภายในมีประโยชน์มาก เพราะสามารถตรวจพบความผิดปกติในการทำงานของระบบสืบพันธุ์เพศหญิงได้

ทำไมต้องตรวจภายใน?

จากข้อมูลของโรงพยาบาลสมิติเวช ระบุว่า อวัยวะภายในของผู้หญิงมีความซับซ้อนและเป็นระบบปิด ซึ่งอาจถูกรบกวนจากปัจจัยภายนอก และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์และการคลอด และยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคและความผิดปกติต่างๆ ภายในอวัยวะสืบพันธุ์ได้อีกด้วย 

อาการแบบไหนที่ควรตรวจภายใน

ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร หากมีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ ควรเข้ารับการตรวจภายในทันที

  • มีประจำเดือนมามากหรือน้อยผิดปกติ รอบเดือนนานกว่า 35 วันหรือสั้นกว่า 21 วัน ประจำเดือนมากะปริดกะปรอย มีลิ่มเลือดปน มีกลิ่นเหม็น
  • ตกขาวผิดปกติ มีปริมาณมาก มีสี กลิ่นที่ผิดปกติ มีตกขาวเป็นมูกข้นคล้ายแป้ง มีสีเขียวหรือเหลือง และเริ่มส่งกลิ่นแรงขึ้น
  • มีเลือดออกจากช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือน
  • ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย ทั้งในช่วงที่มีประจำเดือนและไม่มีประจำเดือน
  • รู้สึกแสบขัดในช่องคลอด
  • สงสัยว่ามีก้อนหรือคลำพบก้อนที่ท้องน้อย

นอกจากนี้ หากไม่มีอาการผิดปกติ บุคคลเหล่านี้ควรเข้ารับการตรวจภายในเช่นกัน ได้แก่

  • ผู้หญิงที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป
  • ผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดเอามดลูกออก
  • ผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV  ยังคงต้องเข้ารับการตรวจภายในและคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสม่ำเสมอ  หรือตามแพทย์นัด  
  • ผู้ที่ตรวจพบโรคติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ หรือความผิดปกติอื่นๆ 
  • ผู้หญิงที่มีบุตรยาก และผู้หญิงที่เริ่มตั้งครรภ์ รวมถึงผู้ที่จะเริ่มคุมกำเนิด

เตรียมตัวอย่างไร ก่อนตรวจภายใน

  • งดมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงการใช้ยาเหน็บในช่องคลอด หรือสวนล้างช่องคลอด ก่อนเข้ารับการตรวจประมาณ 24-48 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการตรวจในช่วงที่มีประจำเดือน และควรรอให้ประจำเดือนหมดสนิท 2-3 วัน หรือก่อนที่จะมีประจำเดือนในรอบถัดไปประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะมาตรวจ เพราะการตรวจในช่วงที่มีประจำเดือนจะทำได้ยาก และอาจทำให้ผลคลาดเคลื่อนได้ แต่หากมีเลือดออกทางช่องคลอดทุกวัน สามารถพบแพทย์เพื่อตรวจภายได้เลย ไม่ต้องรอเลือดหยุด 
  • ควรปัสสาวะออกให้หมด แพทย์จะได้คลำขนาดมดลูกและปีกมดลูกได้
  • ไม่ปิดปังข้อมูลกับแพทย์ เช่น เป็นโสดแต่อาจมีเพศสัมพันธ์ วิธีการที่ใช้ในการคุมกำเนิด การทำแท้ง หรืออาการผิดปกติที่อาจเกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ รวมถึงประวัติการแพ้ยา 

ขั้นตอนการตรวจภายใน

  • เปลี่ยนไปใส่ชุดคลุมที่โรงพยาบาลเตรียมไว้ให้
  • ขึ้นนอนบนขาหยั่ง และแยกขาออกให้กว้าง เพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับการตรวจ 
  • แพทย์จะเริ่มตรวจดูอวัยวะเพศภายนอก เพื่อตรวจหาความผิดปกติต่างๆ
  • จากนั้นแพทย์จะใช้เครื่องมือแพทย์ที่มีลักษณะคล้ายปากเป็ดแบนๆ ขนาดเล็ก 2 อันสอดเข้าไปในช่องคลอด เพื่อขยายออกให้เห็นปากมดลูก และอาจสอดลึกเข้าไปเพื่อเก็บเซลล์ที่ปากมดลูก เพื่อส่งตรวจหาความผิดปกติต่อไป
  • สำหรับผู้ที่แต่งงานแล้ว แพทย์อาจใช้นิ้วสอดเข้าไปในช่องคลอด และใช้อีกมือหนึ่งคลำที่บริเวณหน้าท้อง เพื่อตรวจว่ามดลูกโตหรือมีก้อนเนื้อที่ผิดปกติหรือไม่
  • เมื่อตรวจเสร็จ แพทย์จะสามารถแจ้งผลได้ทันที ยกเว้นการเก็บเซลล์ปากมดลูกเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูก อาจจะต้องรอผลจากห้องแล็บประมาณ 1 สัปดาห์

ประโยชน์ของการตรวจภายใน

หากเข้ารับการตรวจภายใน จะสามารถพบความเสี่ยงของการเป็นโรคเหล่านี้ได้ (ซึ่งหากไม่เข้ารับการตรวจภายใน จะไม่ทราบว่าเป็นโรคเหล่านี้)

  • มะเร็งปากมดลูก
  • มะเร็งรังไข่
  • ช็อกโกแลตซีสต์
  • เนื้องอกในมดลูก
  • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ทำให้มีปัญหามดลูกโต เกิดพังผืดในอุ้งเชิงกราน หรือบางคนก็ประจำเดือนมามากจนซีด ส่งผลให้ปวดท้องประจำเดือน รวมถึงปวดท้องน้อยเรื้อรัง

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.