“ภากร”แจงหุ้นไทยทิ้งดิ่งเผชิญปัจจัยภายนอกกด มั่นใจพื้นฐาน บจ.แกร่ง

ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวันนี้(26 ต.ค. 66) ปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,371.22 จุด ลดลง 30.48 จุด คิดเป็น -2.17% มูลค่าการซื้อขาย 45,690.17 ล้านบาท

     นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ตั้งโต๊ะแถลงข่าวด่วนหลังตลาดหุ้นไทยร่วงกว่า 30 จุดว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคโดยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกประเทศ ทั้งจากปัญหาความขัดแย้งของ "อิสราเอล-ปาเลสไตน์" และทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

     ทั้งนี้คาดว่าตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนต่อไปอีกระยะจนกว่าปัจจัยต่างๆ จะชัดเจน พร้อมยืนยันว่าปัจจัยพื้นฐานตลาดหุ้นไทยไร้ปัญหา แต่ดัชนีที่ปรับตัวลดลง มาจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก 

     ซึ่งปี 2566 นี้มี Fund Flow ไหลตั้งแต่ต้นปีออกกว่า 1.07 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุนระยะสั้น จากปีก่อนที่มีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามากกว่า 2 แสนล้านบาท พร้อมมองว่าจุดพลิกผันตลาดหุ้นไทยจะเกิดขึ้นได้หากปัจจัยลบภายนอกประเทศคลี่คลาย

     ส่วนตลาดหุ้นไทยวันนี้มีการทำช็อร์ตเซล (Short sell) อยู่ที่ระดับ 11.34% ซึ่งไม่แตกต่างจากช่วงปกติ ที่อยู่ที่ประมาณ12% ขณะที่การใช้โปรแกรมเทรดในวันนี้อยู่ที่ 36% ก็เป็นไปตามปกติที่จะมีการใช้โปรแกรมเทรดเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ประมาณ 30 ถึง 38%

     อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการทำช็อร์ต เซล หรือ การใช้โปรแกรมเทรด เป็นไปตามปกติไม่ได้ทำให้เกิดภาวะตลาดติดลบอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ โดยทางตลาดหลักทรัพย์ได้มีการติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด

     สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับลง 30 จุด ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นกันทั่วโลกไม่ใช่แค่ในตลาดหุ้นไทยเท่านั้นโดยเป็นผลจากปัจจัยภายนอก จึงอยากให้นักลงทุนดูข้อมูลจากความสามารถในการทำกำไรเป็นหลักของบริษัทจดทะเบียน เพราะบริษัทจดทะเบียนของไทยยังคงมีความแข็งแกร่ง

     ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นกระทบแค่บางอุตสาหกรรมที่อาจพึ่งพาการส่งออก และตลาดโลกเป็นหลัก แต่มีบริษัทจดทะเบียนในบางอุตสาหกรรมบางธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบ จึงอยากให้วิเคราะห์ในเรื่องนี้ประกอบด้วย

     รวมทั้งอยากให้มองภาพรวม และปัจจัยพื้นฐานของประเทศไทยเป็นหลัก เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศไทยไม่มีอะไรที่น่ากังวล สถาบันการเงินมีความแข็งแกร่ง หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPLs ไม่ได้อยู่ในระดับสูง หนี้ต่างประเทศอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งระดับหนี้สาธารณะไม่ได้อยู่ในระดับสูงเหมือนในหลายประเทศ

     นอกจากนี้ การลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยถือว่ามีความได้เปรียบกว่าหลายประเทศในภูมิภาคและยังสามารถรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจรวมไปถึงอุตสาหกรรม S curve

     ทั้งนี้มองว่าหากสถานการณ์ต่างๆคลี่คลาย และไม่มีเหตุการณ์รุนแรงจากภายนอกประเทศเพิ่มขึ้น หรือขยายวงกว้าง ก็เชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นไทยจะกลับมาพลิกฟื้นได้รวดเร็วกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค แม้ในวันนี้จะปรับตัวลดลงแรงกว่าตลาดอื่นก็ตาม

     ส่วนกรณีที่หุ้น IPO เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงนี้ราคาปรับตัวลงมาต่ำกว่าราคาจองนั้น เกิดจากภาวะตลาดหุ้นที่มีความไม่แน่นอนในระยะนี้ ซึ่งเกิดหลังการกำหนดราคาหุ้น IPO ไว้ก่อนหน้า ที่เป็นช่วงไม่มีปัจจัยเข้ามากระทบต่อตลาดหุ้น จึงทำให้มีราคาปรับลดลง

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.