หุ้นวันนี้เน้นซื้อเล่นรอบ 1425-1445 จุด กูรูชู 5หุ้นสตอรี่บวกเฉพาะตัว
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index เพิ่มขึ้น 3 จุด (+0.19%) ปิดที่ระดับ 1,434 จุด ได้แรงหนุนจากการ เพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่ม อิเล็กฯ, โรงกลั่น และไฟแนนช์ แต่มีแรงขายหุ้นกลุ่มค้าปลีกและอาหารคอยกดดัน
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้(11 ต.ค.66)ประเมิน SET แกว่งตัว 1,425 - 1,445 จุด ความกังวลการสู้รบระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาสยังคงเป็นแรงกดดัน ประกอบกับการชะลอการซื้อ/ขายเพื่อติดตามรายงานการประชุม FED และตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐเดือนก.ย.จะส่งผลให้ภาวะตลาดผันผวน อย่างไรก็ตามแรงซื้อหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวก รวมถึงภาวะ Oversold ทางเทคนิคจะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้
เล่นสั้นวนไป
กราฟ SET แม้จะรีบาวด์ขึ้นได้แต่ยังขาดความมั่นคงเนื่องจาก Volume ค่อนข้างบางประกอบกับดัชนียังคงปิดใต้เส้น EMA 10 วันต่อเนื่องและเครื่องมือ MACD กับ RSI ส่งสัญญาณขัดแย้งกันกดดันภาวะตลาด ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวกรอบ 1,425 -1,445 จุด
ทั้งนี้แนะนำซื้อเล่นรีบาวด์ในกรอบดังกล่าวโดย Cut loss หากหลุด 1,420 จุด ส่วนระยะกลาง – ยาว ซื้อสะสมบริเวณ 1,400 - 1,420 จุด
หุ้นแนะนำวันนี้
EGCO (ปิด 121.50 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 170 บาท) Valuation ถูก, Dividend yield สูง ประมาณ 5.5% - 6%, วันนี้ได้ Sentiment บวกจากค่าเงินบาทแข็งค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เริ่มลดลง
IVL (ปิด 25.5 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 37) ตลาดตกใจกับธุรกิจในอิสราเอลมากเกินไป โดยโรงงานดังกล่าวมีรายได้คิดเป็นเพียง 0.02% ของรายได้รวม เท่านั้น ประกอบกับวันนี้มี Sentiment บวกจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้น
ศก. ชุดใหม่เป็นบวกต่อกลุ่มปิโตรฯ
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงจากเหตุกราดยิงและหมด Gloden Week : กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวฯ รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรายสัปดาห์ (2 ต.ค. -8 ต.ค.) มีจำนวนทั้งสิ้น 497,966 คน ลดลง 9.86%wow เป็นผลจากการลดลงของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพียง 75,093 คน ลดลง 29.47% wow
(-) IMF คงคาดการณ์ GDP โลกในปีนี้แต่ลดคาดการณ์ในปีหน้า: IMF คง คาดการณ์ GDP โลกในปีนี้ที่ 3% แต่ลดคาดการณ์ GDP ในปีหน้าเป็น 2.9% (เดิม 3%) ส่วนมุมมองต่อเงินเฟ้อ IMF มองเงินเฟ้อทั่วโลกยังอยู่ในทิศทางลงแต่ช้ากว่าที่คาดไว้เดิม โดยปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อปีหน้าเป็น 5.8% (เดิม 5.2%) ลดลงจากคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2023 ที่ 6.9%
(+/-) พรุ่งนี้ติตตามตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือน ก.ย. ของสหรัฐหาสัญญาณ บ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยของเฟด: สหรัฐจะประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือน ก.ย. ในวันที่ 12 ต.ค. โทนโดยรวมเป็นกลางเนื่องจาก Consensus คาด Headline CPI เดือน ก.ย. จะอยู่ที่ระดับ 3.6 ถึง 3.8% ใกล้เคียงกับเดือน ส.ค. ที่ 3.7% และ คาด Core CPI จะลดลงเป็น 4.1% จาก 4.3% ในเดือน ส.ค.
1425 ห้ามหลุด
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า เมื่อวานตลาดหุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อย หลังปรับลงมามากติดต่อกันหลายวัน อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ มองจุดเฝ้าระวังของ SETI/SET50I ที่ 1,425/865 จุด หากต่ำกว่าระดับดังกล่าว แนะให้ลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเหลือ 70% และให้เน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ในเชิงกลยุทธ์ ในช่วงนี้เรายังคงแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว ได้แก่ 1) หุ้นอิงการท่องเที่ยว ได้ผลบวกจากภาคการท่องเที่ยวไทยที่กลับมาคึกคัก หลัง ครม.มีมติให้ นทท.จากจีนและคาซัคสถานสามารถเดินทางมาไทยได้โดยไม่ต้องขอ visa ถึงสิ้นเดือน ก.พ. 67 เป็นบวกต่อ AAV, AOT, BA, CPALL, ERW 2) หุ้นกลุ่มที่คาดได้ประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ จากการปรับลดอัตราค่าไฟฟ้า และราคาน้ำมันดีเซล เราชอบ ADVANC, CPALL, SJWD
สำหรับวันนี้ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยขับเคลื่อนราคาที่น่าสนใจติดตามหลายประเด็น ดังนี้คือ 1)วันนี้มีการประชุม กนง. ร่วมกับนักวิเคราะห์ เราคาดว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับผลการประชุมที่ออกมา คืออัตราดอกเบี้ยไทยขณะนี้มีโอกาสจะเป็นจุดสูงสุดของแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น แต่อาจคงในระดับสูงเป็นระยะเวลานาน เรายังชอบกลุ่มธนาคารที่ได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว เช่น BBL, KTB, KBANK
2)เราประเมินหุ้นหลายตัวได้ลงมาอยู่ในระดับต่ำ ตาม SETI ที่ปรับลงมามาก โดยเรามองเป็นจังหวะสะสมหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น AOT, CPALL, CPN
3)เราคาดราคาน้ำมันดิบทรงตัวในระดับสูงต่อไปอีกสักระยะ จากประเด็นสงครามระหว่าง อิสราเอล-ฮามาส หากสงครามยืดเยื้อจะยิ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำมันดิบ เรามองเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานต้นน้ำ เช่น PTTEP ขณะ BANPU เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่น่าสนใจ จากการเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว คาดหนุนราคาถ่านหินปรับสูงขึ้น ประกอบกับราคาปัจจุบันค่อนข้างน่าสนใจหลังรับรู้การแปลงสิทธิ์ BANPU-W5 ไปทั้งหมดแล้ว
4)ติดตามการรายงาน Fed Minutes ของสหรัฐฯ เราคาดจะมีทิศทางคล้ายเดิม คืออัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอาจจะเป็นจุดสูงสุดของแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นรอบนี้แล้ว แต่คาดจะยังทรงตัวในระดับสูงนี้นานกว่าคาดการณ์เดิม
STOCK THEMATICS
BANPU (TP = 9.2 บ.) “ซื้อ” คาดกำไร 3Q66F ฟื้นตัว QoQ ตามปริมาณการผลิตถ่านหินที่เพิ่มขึ้น ขณะต้นทุนการผลิตลดลง และคาด 4Q66F ฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามปัจจัยฤดูกาล หลังเข้าสู่ฤดูหนาวหนุนความต้องการเพิ่มขึ้น ประกอบกับปัจจุบันราคาหุ้นได้ลงมาตอบรับการแปลงสิทธิ์ BANPU-W5 ไปมากแล้ว จนมี valuation ที่น่าสนใจ มองเป็นจังหวะซื้อลงทุน
BBL (TP = 194 บ.) “ซื้อ” กำไร 2Q66 โต +62%YoY และ +12%QoQ โดยหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เติบโตดี ตามอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ขณะคาด 2H66 สินเชื่อจะเติบโตดีกว่า 1H66 ช่วยหนุนให้สินเชื่อทั้งปีขยายตัว 4-6% ตามเป้าได้ ล่าสุดประกาศปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย หลัง กนง. มีมติให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25%
CPALL (TP = 76 บ.) “ซื้อ” กำไร 2Q66 เติบโต +8%QoQ, +48%YoY โดดเด่นสุดในกลุ่มค้าปลีก จากกำไรของธุรกิจ 7-11 ที่เติบโตโดดเด่นราว 59% YoY มาช่วยหักล้างกำไรของ CPAXT ซึ่งเป็น บ.ย่อย ที่ลดลง 3.6% YoY เป็นผลให้นักวิเคราะห์ของเราปรับประมาณการกำไรปี 66-67 ขึ้น ทั้งนี้เรามองว่า CPAXT ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และจะกลับมาเติบโตใน 2H66 หลังออกหุ้นกู้สกุลเงินบาท มาชำระเงินกู้สกุลเงินดอลลาร์แล้ว จะช่วยให้ CPAXT ประหยัดดอกเบี้ยจ่ายไตรมาสละ 300 ล้านบาท
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.