สงครามอิสราเอล-ฮามาสดันราคาทองคำพุ่ง YLG ชี้ปลายปีหากไม่สงบอาจเห็นนิวไฮ

     นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ปรับขึ้นมาล่าสุดเป็นผลมาจากเหตุไม่สงบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลว่าเหตุการณ์จะมีความยืดเยื้อหรือไม่ จึงโยกเงินเข้ามาพักไว้ในทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หากภายในสิ้นปีนี้ยังไม่คลี่คลายทองคำมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง 

     ทั้งนี้ หากมองภาพใหญ่จะเห็นว่าทองคำเป็นขาขึ้นมาแล้วอย่างต่อเนื่องถึง 3 ปี เริ่มจากจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ตามด้วยสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และล่าสุดเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลทั้งนี้แม้ว่าการปรับขึ้นของราคาทองรอบนี้จะเกิดจากความวิตกกังวลจากเหตุการณ์ไม่สงบ และในระยะสั้นอาจจะมีแรงเทขายทำกำไรออกมาตามรอบ อย่างไรก็ตามในระยะยาวทองคำรอบนี้จะเป็นขาขึ้นไปอีก 3 – 5 ปี โดยหากผ่านจุดสูงสุดของปีที่ 2,079 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ไปได้ จะปรับตัวขึ้นไปที่ 2,125 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และ 2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ 

     สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าซื้อสามารถใช้โซน 1,823-1,804 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เป็นจังหวะเข้าซื้อได้ ส่วนแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1,879 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ อย่างไรก็ดีแนะนำว่าไม่ควรไล่ราคา โดยใช้แนวรับ 1,804 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์เป็นจุดตัดขาดทุน และยังคงคำแนะนำการลงทุนในทองคำที่สัดส่วน 5-15% ของพอร์ตลงทุนรวม เพื่อลดความผันผวนของพอร์ต ไม่ควรลงทุนมากกว่านั้น

     “ระยะสั้นสามารถเก็งกำไรได้ ส่วนระยะยาว 3-5 ปี มองว่าเป็นขาขึ้น เพราะปัจจัยกดดันทองคือดอกเบี้ยและในช่วง 3-5 ปี ข้างหน้าอัตราดอกเบี้ยน่าจะเริ่มเป็นขาลง แต่ปัจจัยบวกสำหรับทองคำยังมาจากหลายปัจจัยทั้งความกังวลเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด” นางสาวฐิภา กล่าว

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.