SINO เคาะราคาไอพีโอ 1.40 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อ 13-15 ก.ย.นี้
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยว่า SINO ได้เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 292 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 240 ล้านหุ้น คิดเป็น 23.08% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย นาย เถิ่งฟ้งเหยิ่ง จำนวน 52 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.00% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้
โดยกำหนดราคาเสนอขายที่ 1.40 บาท/หุ้น พร้อมกำหนดให้นักลงทุนจองซื้อระหว่างวันที่ 13-15 ก.ย.2566 โดยคาดว่าจะนำหลักทรัพย์ของ SINO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 20 ก.ย.2566 โดยใช้ชื่อย่อว่า “SINO” ในหมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์
ทั้งนี้ SINO ถือเป็นหุ้นขนส่งและโลจิสติกส์ที่น่าสนใจ ซึ่งการกำหนดราคา IPO เป็นราคาที่เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์อุตสาหกรรมขนส่งทางเรือ และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท จากการเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร ที่มีความชำนาญในเส้นทางขนส่งทางทะเลในเส้นทางไทย-สหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของประเทศไทย รวมถึงมีศักยภาพการเติบโตในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นแผนการขยายการให้บริการรับฝากตู้สินค้าคอนเทนนเนอร์
รวมทั้งแผนการลงทุนกับพันธมิตร และการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในทุกมิติ พร้อมทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ ประกอบกับภาวะอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ที่กำลังกลับมาสดใส ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ทั้งค่าระวางเรือที่ขยับตัวสูงขึ้น รวมทั้งเป็นช่วง High Season ของธุรกิจส่งออก จึงมั่นใจว่า SINO จะเป็นหลักทรัพย์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
พร้อมกันนี้ มีผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 7 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
นางสาวจิรยง อนุมานราชธน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมว่า SINO เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง เนื่องจากมี OTI License และได้วางหลักประกัน FMC Bond ทำให้สามารถบริหารจัดการขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีแผนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านการให้บริการเพื่อรองรับแผนขยายฐานลูกค้าในภูมิภาคอาเซียน และการขยายพื้นที่ตู้รับฝากตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มเติมในจังหวัดระยอง ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยว่า การเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นของ SINO บนเส้นทางการดำเนินธุรกิจกว่า 10 ปี บริษัทเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร จากการให้บริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) ทั้งทางทะเล ทางอากาศ และทางบก
รวมถึงการให้บริการให้เช่าคลังสินค้า การให้บริการด้านพิธีการศุลกากร และการให้บริการสนับสนุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในการให้บริการขนส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางทั่วโลก ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์มายาวนาน ด้วยความชำนาญการให้บริการบนเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเลมากกว่า 100 ประเทศ ครอบคลุมเส้นทางไทย-โซนอเมริกาเหนือ เส้นทางไทย-เอเชีย และเส้นทางไทย-ยุโรป ซึ่งถือเป็นเส้นทางหลักในการส่งออกและนำเข้าสินค้าหลักของการค้าโลก ทั้งรูปแบบการขนส่งแบบเต็มตู้และแบบไม่เต็มตู้คอนเทนเนอร์ ด้วยมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพและตรงต่อเวลา
“บริษัทมีเป้าหมายเป็นหนึ่งในผู้นำการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรและขยายความครอบคลุมไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากแผนกลยุทธ์ต่อยอดความชำนาญการให้บริการขนส่งทางทะเลในเส้นทางสหรัฐ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศเวียดนาม มาเลเซีย กัมพูชาและอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลให้มากขึ้น รวมถึงแผนเข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่ประกอบธุรกิจ Freight Forwarding ทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศอาเซียน และลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ควบคู่กับการลงทุนขยายพื้นที่ให้บริการรับฝากตู้สินค้าคอนเทนเนอร์เพิ่มเติม ซึ่งจะส่งเสริมขีดความสามารถการแข่งขันการให้บริการโลจิสติกส์ในระยะยาวให้ดียิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสในการเติบโต และสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้นอย่างมั่นคงในระยะยาว” นายนันท์มนัส กล่าว
นอกจากนี้ SINO พร้อมนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการตลอดห่วงโซ่อุปทานด้านอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เช่น ระบบ WMS เพื่อบริหารจัดการคลังสินค้า การพัฒนางานขนส่ง ISO Tank หรือตู้คอนเทนเนอร์บรรจุของเหลว การนำระบบ GPS มาใช้เพื่อติดตามตำแหน่งรถในขณะปฏิบัติงาน รวมถึงบันทึกและควบคุมความเร็วในการขับขี่ให้มีความเหมาะสม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
สำหรับนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองต่างๆ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.