PSP บิ๊กล็อตโผล่ 10 ล้านหุ้น หลังกลุ่มติงธนาธิกุล ขาย 81.9 ล้านหุ้น เทรดวันแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (8 ก.ย.) ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้รายงานการซื้อขายผ่านกระดานซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่ (Big Lot) หุ้น บริษัท พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP พบ 2 รายการ จำนวน 10 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 10.00 บาท/หุ้น รวมมูลค่า 100 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากระดาน 

โดยราคาหุ้น PSP เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2566 ปิดที่ 10.60 บาท ปรับตัวลดลง 2.10 บาท หรือลดลง 16.54% มูลค่าการซื้อขาย 1,461.79 ล้านบาท ระหว่างวันปรับลดลงต่ำสุดที่ 10.60 บาท และปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 13.10 บาท

นายเสกสรร ครองพาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PSP ระบุว่า กลุ่มครองพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 รายแรก ไม่ได้ขายหุ้นออกมา รวมทั้ง นายเพิ่มศักด์ โกศลพันธุ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 ไม่ได้ขายหุ้นออกมาเช่นกัน เนื่องจากติดไซเรนด์พีเรียด 1 ปี และยังไม่ทราบว่าเป็นเทขายออกมาจากกลุ่มใด

ทั้งนี้ PSP ประกอบธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ การออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิตผลิตภัณฑ์ การบรรจุผลิตภัณฑ์ การจัดเก็บและศูนย์กระจายสินค้า การให้บริการจัดการด้านโลจิสติกส์ และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 

โดย PSP เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2566 เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุตสาหกรรม หมวดธุรกิจวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร ด้วยราคาไอพีโอ 6.20 บาท ปิดเทรดวันแรกที่ 10.00 บาท เพิ่มขึ้น 61.29% จากราคาไอพีโอ ขณะที่ช่วง 7 วันทำการแรก ราคาขึ้นไปสูงสุด 13.90 บาท (5 ก.ย.2566) และราคาต่ำสุดที่ 9.30 บาท (30 ส.ค.2566)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มา/จำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) พบรายงานการจำหน่ายไป หุ้นของ PSP โดย นายพิริยะ ติงธนาธิกุล, นายพีรัชต์ ติงธนาธิกุล และนายสัมพันธ์ ติงธนาธิกุล เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2566 (วันเข้าเทรดวันแรก)

โดยเป็นการขายบิ๊กล็อต คนละ 27.30 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนคนละ 1.95% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ให้กับ นายเสกสรร ครองพาญิชย์, กองทุน บล.อินโนเวสท์เอกซ์, นายเพิ่มศักดิ์ โกศลพันธุ์, นายภัทวัฒน์ เสมอวงษ์, บริษัทเอ็นเตอร์ไพรส์ ทรานสปอร์ตอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นายสุเมธา ประสานเหลืองวิไล และ นายดิศพงศ์ เตชวัชรา 

จากจำนวนหลักทรัพย์ก่อนการจำหน่ายไป อยู่ที่คนละ 73.50 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนคนละ 5.25% ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่ายไป อยู่ที่คนละ 46.2 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนคนละ 3.30% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.