เบิกเนตร! 3 มาตรการบล็อคแรงเหวี่ยง"หุ้นร้อน-โรบอทเทรด" ใช้จริง 2ก.ย.นี้

     รู้เท่าทัน! 

     3 มาตรการสำคัญ ยกระดับการกำกับดูแลและเพิ่มความเชื่อมั่นผู้ลงทุน นั่นก็คือ มาตรการแรก กำหนดกรอบราคาซื้อขายแบบ Dynamic Price Band (DPB) บวกลบ 10% จากราคาซื้อขายล่าสุด และกลไกจะเริ่มทำงานเมื่อมีคำสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์ที่จะทำให้เกิดการจับคู่นอก DPB ระบบซื้อขายจะหยุดจับคู่หุ้นนั้นและเข้าสู่ Pre-Open 2 นาที เป็นกลไกที่ช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้นสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) 

"เราเชื่อว่า DPB จะช่วยให้โอกาสที่ราคาหุ้นจะเกิด 'ซิลลิ่ง หรือ ฟลอร์' ภายใน 5 นาทีไม่น่าเกิดขึ้นได้ น่าจะช่วยเบรกการขึ้นและลงของราคาได้ในทุก 2 นาที พร้อมกับช่วยให้นักลงทุนได้ฉุกคิดก่อนในทุกการซื้อหรือขาย ช่วยแตะเบรกให้ราคาไม่พุ่ง ไม่ผันผวนรุนแรงเกินไปเพราะจะมีการแตะเบรกเป็นระยะๆ ด้วยกลไกของ DPB จะทำให้ลดการเข้ามาแล้วซิลลิ่งหรือฟลอร์ ไม่ว่าจะเป็น HFT หรือนักลงทุนทั่วไปจะถูกครอบด้วยกรอบเดียวกัน ส่วนหุ้นไอพีโอที่เข้ามาเทรดวันแรกเรายังไม่ใช้มาตรการ DPB อาจต้องปล่อยผีไปก่อน เพื่อหาราคาที่เหมาะสม"รองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ ในฐานะโฆษกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) 

     มาตรการที่สอง คือ "การซื้อขายด้วยวิธี Auction" เป็นการเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายผิดปกติ โดยเปิดจับคู่ซื้อขายวันละ 3 รอบ คือ ช่วง Pre - Open 1 , Pre - Open 2 และ Pre - close มาตรการนี้จะใช้ก็ต่อเมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนดให้เข้ามาตรการฯตั้งแต่ระดับ 2 ขึ้นไป

     โดยมาตรการกำกับซื้อขายมี 3 ระดับ ซึ่งมาตรการระดับ 1 คือ ซื้อขายเงินสด 100% และห้ามนำหุ้นมาคำนวณวงเงินซื้อขาย 

     ระดับ 2 คือ ซื้อขายเงินสด 100% , ห้ามนำหุ้นมาคำนวณวงเงินซื้อขาย , ห้าม Net settlement และ ซื้อขายด้วย Auction

     ระดับ 3 คือ ซื้อขายเงินสด 100% , ห้ามนำหุ้นมาคำนวณวงเงินซื้อขาย , ห้าม Net settlement , ซื้อขายด้วย Auction และ Pause(P) 1 วัน

"เราเชื่อว่าด้วยกลไกลของ Auction จะช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้นได้ และด้วยคำกล่าวที่ว่าถึงมีมาตรการนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะมีเงินก็ซื้อหุ้นได้ คุณอาจจะคิดผิดเพราะถึงมีเงินหากหุ้นเข้ามาตรการระดับ 2 ก็อาจจะซื้อไม่ได้ ตราบใดที่ไม่มีคนที่เห็นตรงกัน คือ คุณต้องการซื้อและเขาต้องการขายแล้วสามารถแมชต์กันได้ ซึ่งมาตรการ Auction มีการใช้ในตลาดหุ้นอิโดนีเซีย และหวังว่าการซื้อขายผิดปกติจะสามารถชะลอลงได้"

     ขณะที่ มาตรการที่สาม คือ "Minimum Resting Time" กำหนดเวลาขั้นต่ำของคำสั่งซื้อขาย ก่อนที่จะสามารถแก้ไขหรือยกเลิกคำสั่งซื้อขาย โดยคำสั่งซื้อขายจะต้องคงอยู่ในระบบอย่างน้อย 250 มิลลิวินาที จึงจะสามารถแก้ไขหรือยกเลิกคำสั่งได้ เพื่อชะลอและป้องกันไม่ให้เกิดคำสั่งซื้อขายในลักษณะใส่-ถอนที่มีความถี่มากจนเกินไปจนอาจทำให้ผู้ลงทุนเข้าใจผิดว่ามีความต้องการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ในปริมาณมาก

     "มาตรการนี้ถือเป็นกลไกที่จะส่งผลกระทบกับโรบอทเทรดมากกว่า ไม่กระทบนักลงทุนทั่วไป"

     ถามว่า ทำไมต้อง 250 มิลลิวินาที หรือ 0.250 วินาที ? เชื่อหรือไม่ว่าจากการศึกษาพบว่าสามารถบล็อคเอไอเทรดแบบได้ผลจริง

"ทั้ง 3 มาตรการข้างต้นจะเปิดใช้เฟสแรกตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยจะไม่ใช้กับหุ้นที่มีราคาต่ำกว่า 1 บาท และ Single Stock Futures(SSF) จากนั้นจะเปิดใช้มาตรการเฟสสองในช่วงต้นปี 2568 ซึ่งจะใช้กับ SSF ด้วย ซึ่งหลังจากเปิดใช้เฟสแรกอาจต้องรอประเมินผลระยะหนึ่ง แต่เชื่อว่าน่าจะได้ผลออกมาค่อนข้างดี เหมือนการใช้มาตรการ Uptick ในช่วง 1 ก.ค.-9 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าตัวเลขชอร์ตเซล เหลือ 1,800 ล้านบาท ลดลงเหลือ 4.62% อย่างมีนัยยะสำคัญ"