คลัง แจงปมตั้งงบประมาณเพิ่มเติม เดินหน้า Digital Wallet
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณเพิ่มเติมในครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะที่ผ่านมามีการจัดทำงบประมาณเพิ่มเติมมาแล้วหลายครั้ง โดยภาพรวมการดำเนินงานทั้งหมดจะอยู่ภายใต้กรอบงบประมาณ มีเพดานกำหนด โดยเฉพาะประเด็นเรื่องหนี้สาธารณะ ซึ่งอยู่การดำเนินการอยู่ภายใต้กรอบงบประมาณ และกรอบหนี้สาธารณะ ที่กำหนด
ซึ่งจากนี้ ส่วนงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปเร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เช่น การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลัง การประชุมร่วม 4 ฝ่าย คลัง-สำนักงบประมาณ-ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศค.) หรือสภาพัฒน์ ต้องไปพิจารณากระบวนการในกาทำงบประมาณเพิ่มเติมว่ายอดจะเป็นเท่าไหร่ กลไก และแหล่งเงินจะเป็นอย่างไร โดยต้องเป็นไปตามข้อสังการของ ครม. ที่เน้นย้ำว่าจะต้องปฏิยัติให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลัง พ.ร.บ. บริหารจัดการหนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1- 2 สัปดาห์จากนี้ เพื่อเสนอให้ ครม. พิจารณาต่อไป
“วันนี้ครม.เห็นด้วยในหลักการในการให้ทำงบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเรื่องของกรอบปฎิทิน ส่วนเรื่องตัวเลขยังไม่ได้นำเสนอ โดยจะมีการนำเสนอตัวเลขกรอบงบประมาณเพิ่มเติมเร็วๆนี้ เพราะยังมีขั้นตอนที่จะต้องทำต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการประชุมคณะกรรมนโยบายการเงิน การคลัง สุดท้ายก็นำเข้าที่ประชุมครม.อีกทีว่ากระบวนการจัดทำงบประมาณเพิ่มเติม กลไกลเป็นอย่างไร แหล่งเงินเป็นอย่างไรต้องมีรายละเอียดครบถ้วน ” นายจุลพันธ์ กล่าว
นอกจากนี้ในที่ประชุมครม.ได้เน้นย้ำด้วยว่า ต้องการจัดทำงบประมาณต้องปฎิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมาย ทั้งพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง และพ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ ทั้งเรื่องกลไกทำพ.ร.บ.ตามรัฐธรรมนูญ
สำหรับหลักการของการจัดทำงบประมาณเพิ่มเติมอยู่ที่ว่า มีแหล่งรายได้ใหม่หรือไม่ คือมีรายได้ใหม่ที่ยังไม่ได้บรรจุในงบประมาณที่ผ่านมาแล้ว และขาดดุลงบประมาณได้เท่าไร ซึ่งกรอบขาดดุลงบประมาณปี 2567 อยู่ที่ 6.9 แสนล้านบาท ซึ่งยังไม่เต็มกรอบวงเงิน ซึ่งต้องยึดตามกรอบกฎหมาย ทั้งกรอบหนี้สาธารณะและกรอบงบประมาณ
อย่างไรก็ตาม ยังยืนวันว่า เงินจากโครงการ Digital Wallet จะยังเป็นไปตามกรอบเดิม คือ ไตรมาส 3 ปี 2567 เปิดให้ลงทะเบียนร้านค้า และประชาชน และเงินถึงมือประชาชนในไตรมาส 4 ปี 2567 แน่นอน โดยยืนยันฐานะการคลังยังดี ซึ่งการทำงบประมาณเพิ่มเติมในครั้งนี้ ไม่ได้หมาย กระทรวงการคลังมีความเสี่ยงถังแตกใดๆ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกรอบงบประมาณ ยึดตามกฎหมาย
ส่วนกรณี สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงาน ตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ของปี 2567 ขยายตัวที่ 1.5 % ต่อปี ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดว่าจะขยายตัว 2 – 3% ต่อปี โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.5% ต่อปี ลดลงจากการประมาณการเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ที่คาดว่าจะขยายตัว 2.2 – 3.2% ต่อปี นั้น มองว่า เป็นการสะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในทิศทางชะลอตัวลง เห็นได้ชัดว่าการชะลอตัวอยู่ในภาคการผลิต ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งรมว.คลัง ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ จึงมีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนทราบดี ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีการนัดประชุมครม.เศรษฐกิจ เพื่อหารือแนวทางในการเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจในวันที่ 27 พ.ค.2567 ซึ่งถือเป็นนัดแรกของครม.เศรษฐกิจของรัฐบาลเศรษฐา
นอกจากนี้ ในวันที่ 27 พ.ค. 2567 คาดว่าจะมีการประชุม ครม.เศรษฐกิจ นัดแรก หลังจากที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้รายงานการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ระดับ 1.5% ซึ่งถือเป็นระดับที่ชะลอตัว โดยในที่ประชุม ครม. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง เล็งเห็นถึงความสำคัญของเศรษฐกิจที่เติบโตได้ต่ำ โดยเฉพาะการชะตัวในภาคการผลิต และภาคอุตสาหกรรม และมองว่าจำเป็นจะต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน รมช.การคลัง ระบุว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายหน่วยงานที่กำกับดูแล โดยเฉพาะกรมภาษี ได้แก่ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากล โดยจะมีการหารือเกี่ยวกับกลไกในการปรับปรุงโครงสร้างภาษีและแนวนโยบายในการขยายฐานภาษี เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้รัฐ ส่วนภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2567 นั้น ยอมรับว่าขณะนี้ชะลอตัวนิดหน่อย แต่ไม่ได้อยู่ในจุดที่น่าเป็นห่วงมากนัก และเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วจะกลับมาอยู่ตามกรอบเป้าหมายที่วางไว้แน่นอน
อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าปัจจุบันสถานะและเสถียรภาพทางการคลังของประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีทางและยังไม่ใกล้เคียงกับคำว่า “ถังแตก” ทุกอย่างยังอยู่ภายใต้กรอบการบริหารจัดการและคาดการณ์งบประมาณ ไม่มีความเสี่ยงใดๆ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.