หุ้นไทยสัปดาห์หน้าแกว่งไซด์เวย์ 1,300-1,400 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(26 เม.ย. 2567) อยู่ที่ 1,359.94 จุด ลดลง 4.33 จุด คิดเป็น -0.32% มูลค่าการซื้อขาย 40,183.94 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,366.24 จุด และลดลงต่ำสุด 1,358.26 จุด
10 หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด ดังนี้
ต่างชาติ-รายย่อยขาย
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า SET Index พลิกลง -4.3 จุด คิดเป็น -0.32% ปิดที่ 1359.9 จุดโดย Sector ปรับขึ้นหนุนดัชนีหลักๆคือ กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, KTB กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ DELTA กลุ่มโรงพยาบาล BDMS ฯลฯ Sector ที่กดดัชนีคือ กลุ่มพลังงาน (GPSC, GULF), กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT) ฯลฯ
โดยหุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่นคือ DELTA เพิ่มขึ้น 1% ปรับขึ้นรับตลาดรอรายงานกำไรเติบโต โดยตลาดคาดเพิ่มขึ้น 31.9%y-y, +1.2%q-q รวมทั้งมีจิตวิทยาบวกหลังกลุ่ม Semiconductor สหรัฐปรับตัวขึ้น มองเป็นปัจจัยหนุนทางจิตวิทยาต่อกลุ่ม ไทย แนะนำ Trading Buy DELTA ราคาเป้าหมาย 86 บาท โดยราคา Break out กรอบของ flat base ขึ้นมา พร้อมเปิดเหนือ ema 10 วัน
BTG เพิ่มขึ้น +2.2% , CPF +1.64% , TFG +2.2% ปรับตัวขึ้นตอบรับราคาสุกรในเวียดนามและไทยเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหม่ จาก Supply ที่ลดลง โดยล่าสุด ราคาหมูใน กทม. ปรับขึ้นต่อเนื่องมาเป็น 72.0 บาท เทียบกับ ก่อนสงกรานต์ 9 เม.ย.อยู่ที่ 65.5 บาท ผสาน ราคาวัตถุดิบที่มีแนวโน้มลดลง คงคำแนะนำ CPF Trading Buy ราคาเป้าหมาย 19.5 บาท
BABA80 ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.1% ปรับขึ้นตามหุ้นแม่ BABA +0.64% โดยมีจิตวิทยาบวกหนุนจากภาพของมุมมองเชิงบวกจากเศรษฐกิจจีนและฮ่องกงฟื้นตัวต่อ ล่าสุด ฮ่องกงรายงานราคาบ้านในฮ่องกง เดือน มี.ค. +1.1% (เป็นการเพิ่มครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี)
BJC ราคาลดลง -3.7% ปรับลงรับแนวโน้มกำไรปกติ 1Q24F คาดเหลือ 1.11 พันล้านบาท (-8%y-y , -34%q-q) อ่อนแอกว่าเราและตลาดคาดเดิม ทั้งนี้ เทียบ y-y เกิดจากเสียดอกเบี้ยและภาษีในอัตราที่สูงขึ้น ขณะที่การดำเนินงานหลักกระทบจากกำลังซื้อทำให้ยอดขายจะยังโต +3%y-y ต่ำกว่าเป้า +6-9% ส่วน q-q กดดันเพิ่มจากปัจจัยฤดูกาล ทั้งนี้ แม้ทั้งปีเสี่ยงมี downside ในส่วนยอดขาย อย่างไรก็ดี ด้วยราคาหุ้นที่ซื้อขายถูกต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี(BV) ที่ 30 บาท) ราว 5 บาท และมองโมเมนตั้มกำไรในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสฟื้นเด่นตามผลบวกการใช้จ่ายงบประมาณรัฐและมาตรการ Digital wallet ที่ร้านมินิบิ๊กซี มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการ เราจึงแนะนำทยอยซื้อหลังประกาศงบไตรมาส 1/67 (14 พ.ค.67)
หุ้นไทยสัปดาห์หน้าแกว่งไซด์เวย์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยทางเทคนิค บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้(26 เม.ย. 2567)เห็นการแกว่งตัวออกด้านข้างของดัชนี ระวังการจบรอบการฟื้นตัว โดยให้จุดตัดสินใจที่บริเวณ 1355 จุด หากยืนได้ ยังรักษาทิศทางเชิงบวกในรอบสั้น แต่หากหลุดจะดึงสัญญาณลบกลับเข้ามาทันที ดังนั้นแนะนำชะลอการลงทุน รอดูรอบการสร้างฐาน แนวรับ 1330 / 1300 จุด แนวต้าน 1380 / 1400 จุด
"รอดูหุ้นไทยรอบนี้ว่าจะสามารถรีบาวด์ได้ดีแค่ไหน ผ่าน 1400 ได้หรือไม่ หากผ่านได้ก็พอมีหวังปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่หากฝ่าด่าน 1400 ไม่ได้มีโอกาสย่อตัวลงมา สัปดาห์หน้าติดตามหุ้นทยอยประกาศงบไตรมาส 1/67 และการรายงานตัวเลขส่งออกของไทย ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะมีการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย พร้อมติดตามการเปิดเผยตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐในวันศุกร์"
รอเลือกทาง
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้นไทยสัปดาห์หน้า(29 เม.ย.-3 พ.ค. 2567)คาดแกว่งตัวในกรอบ 1350-1370 จุด รอเลือกทิศทาง หลังจากสัปดาห์นี้ SET รีบาวด์แรงตามคาด แต่กำลังติดโซนแนวต้าน 1364-1370 จุดหากไม่ผ่าน กราฟอาจมีการปรับตัวลงแรงไปปิด Gap บริเวณ 1349 จุดได้ ดังนั้นหากจะรักษาโมเมนตั้มทางบวกในระยะสั้นจำเป็นต้องเบรกแนวต้าน 1370 จุดขึ้นไปยืนให้ได้ก่อน แนวรับ 1350 / 1330 จุด แนวต้าน 1370 / 1385 จุด
หุ้นเก็งกำไร แนะนำ SAPPE กราฟขึ้นแรงเบรกแนวต้าน 95.75 บาทขึ้นมามองมีลุ้นทดสอบแนวต้านหลัก 100 บาท ที่หากผ่านได้จะเป็นการทำ All Time high
และ หุ้น AAI กราฟกลับมาเบรกแนวต้าน 4.74 บาทได้อีกครั้ง ทำให้ภาพรวมเป็นแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง ระยะสั้นหากไม่หลุดแนวรับดังกล่าวจะมีโอกาสขึ้นแรงไปที่โซน 5.10 บาท แนวรับ 4.58 บาท แนวต้าน 4.92 / 5.10 บาท
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.