หุ้นไทยสัปดาห์หน้าเล็งถึง1,400จุดเงินบาทสัปดาห์หน้า36-36.80 บาท/ดอลลาร์

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท
เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 5 เดือนที่ 36.54 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนฟื้นตัวกลับมาปลายสัปดาห์ 
เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก แต่เริ่มทยอยอ่อนค่ากลับมาในช่วงกลางสัปดาห์ หลังข้อมูลการส่งออกไทยออกมาต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด (การส่งออกเดือนก.พ. +3.6% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ +4.2% YoY) 
นอกจากนี้ เงินบาทยังอ่อนค่าลงตามการเคลื่อนไหวของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค นำโดย เงินเยนที่ทำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 34 ปี และเงินหยวนของจีนท่ามกลางการคาดการณ์ว่า อาจเห็นสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินจากทางการจีนเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด (อาทิ จีดีพีไตรมาส 4/2566 ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย) และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งสะท้อนว่า จังหวะเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ อาจไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้   
อย่างไรก็ดี เงินบาทล้างช่วงอ่อนค่าและฟื้นตัวกลับมาแข็งค่าได้ในช่วงปลายสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก และสัญญาณซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ 
ในวันศุกร์ที่ 29 มี.ค. 2567 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 36.35 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 36.37 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (22 มี.ค. 67) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 25-29 มี.ค. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 113.4 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 14,482.2 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 15,194.2 ล้านบาท หักตราสารหนี้ที่หมดอายุ 712 ล้านบาท)

สัปดาห์ถัดไป (1-5 เม.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าที่ระดับ 36.00-36.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ของไทย สัญญาณเงินทุนต่างชาติ และทิศทางของค่าเงินเอเชีย ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนมี.ค. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.พ. รวมถึงข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ของยูโรโซน และดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมี.ค. ของญี่ปุ่น จีน ยูโรโซน และอังกฤษ

สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง 
หุ้นไทยร่วงลงช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนจะดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมาจนถึงช่วงกลางสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค ประกอบกับน่าจะมีปัจจัยบวกจากตัวเลขส่งออกเดือนก.พ.ของไทยที่ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง และการผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ซึ่งกระตุ้นแรงซื้อหุ้นหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไฟแนนซ์และอสังหาริมทรัพย์ 
อย่างไรก็ดีหุ้นไทยร่วงลงในเวลาต่อมาตามแรงขายทำกำไรของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยมีแรงซื้อหลักๆ จากหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาหนุนตามอานิสงส์จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น   
ในวันศุกร์ที่ 29 มี.ค. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,377.94 จุด ลดลง 0.22% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 34,835.00 ล้านบาท ลดลง 23.97% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.86% มาปิดที่ระดับ 411.72 จุด

สัปดาห์ถัดไป (1-5 เม.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,370 และ 1,360 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,385 และ 1,400 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมี.ค. ของไทย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนมี.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการของญี่ปุ่น จีน ยูโรโซน และอังกฤษ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมี.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.