คลัง พร้อมรื้องบฯ ปี68 เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึง แนวทางหาแหล่งเงินที่ใช้ในการดำเนินโครงการ Digital Wallet 10,000 บาท วงเงิน 5 แสนล้านบาท ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือของกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เพื่อหาแนวทางความเป็นไปได้ของแหล่งเงินอื่นที่จะใช้ในโครงการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราเห็นช่องทางที่สามารถปรับเปลี่ยนทำให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งเชื่อว่าการประชุมบอร์ดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ ซึ่งมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธานในวันที่ 10 เม.ย.นี้ จะไม่มีการเลือนออกไปอีก และจะได้คำตอบเป็นที่น่าพอใจของทุกฝ่าย

“ต่อให้ออกพ.ร.บ.กู้ไม่ได้ เราก็มีหลายวิธี ซึ่งดีเทลระหว่างทาง ถ้าจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน เพื่อให้กลไกลได้เดินหน้าได้ เราก็ยินดีทำ ซึ่งหากจะปรับกรอบงบปี 2568 ขาดดุลเพิ่มเติม เพื่อนำงบมาใช้ก็สามารถทำได้ เพราะอยู่ในอำนาจของครม.แต่ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะใช้วิธีใด ต้องรอดูวันที่10 เม.ย. อาจมีเซอร์ไพรส์ที่แตกต่างจากเดิม ซึ่งเป็นข่าวดีแน่นอน”นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ ยังกล่าวต่อว่า หากใช้งบประมาณในการทำโครงการจริง งบประมานนี้ถือได้ว่าเป็นเงินใหม่ เป้าหลักการและเหตุผลยังเหมือนเดิน คือการฟื้นฟู กระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับไปอยู่ในระดับที่เต็มศักยภาพ

สำหรับ เงื่อนไขอื่นๆยังไม่ได้ปรับเปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่สิทธิ์เข้าร่วมโครง รวมถึงวงเงินในการทำโครงการ คือจำนวน 5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ คณะทำงานพยามสร้างกลไกลเพื่อให้การหมุนเงินรอบแรกเกิดประโยชน์กับร้านค้าขนาดเล็กมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ว่าโครงการนี้ไม่ได้เอื้อรายใหญ่ เช่น รอบแรกต้องซื้อสินค้าผ่านร้านขนาดเล็กเท่านั้น ร้านเล็กก็ไปใช้เงินร้านค้าขนาดกลาง ก่อนไปถึงร้านค้าขนาดใหญ  โดยเงินดิจิทัลจะอยู่ในระดับได้ 3 ปี แต่ต้องใช้รอบแรกภายใน 6 เดือน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบกลไกล

พร้อมกันนี้ ยังเพิ่มช่องทางการใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยจะใช้กลไกลของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเข้าร่วม นอกเหนือจากแอพลิเคชั่นเป๋าตัง เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ซึ่งระบบการลงทะเบียน กับเพย์เมนต์น่าจะแยกกัน แต่แอปเป๋าตังยังอยู่ แต่เพิ่มช่องทางให้กับประชาชน