MILL ร่วง 11.11% หลัง ตลท. สั่งแจงงบปี 66 ใน 4 ประเด็น ภายใน 5 เม.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL วันนี้ (29 มี.ค.)  ล่าสุด เวลา  15.52 น. ปรับลดลง 11.11% หรือลดลง 0.03 บาท มาอยู่ที่ 0.24 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.31 ล้านบาท ราคาปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 0.27 บาท และปรับตัวลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 0.23 บาท 

หลังจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ MILL ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินประจำปี 2566 ซึ่งผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน เนื่องจากมีความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญของการดำเนินงานต่อเนื่อง 

โดยกลุ่มบริษัทขาดทุน 941 ล้านบาท มีหนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน เงินกู้ยืมสถาบันการเงินถูกจัดเป็นหนี้สินระยะสั้นทั้งจำนวน 11,385 ล้านบาท เนื่องจากผิดนัดชำระหนี้ P/N ซึ่งต่อมา MILL ชี้แจงว่าได้รับการต่ออายุวงเงินแล้ว นอกจากนี้ ยังปรากฏรายการลูกหนี้กิจการที่เกี่ยวข้องที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมีการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตรวม 170 ล้านบาท

ทั้งนี้ ขอให้ MILL ชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 5 เม.ย.2567 และขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินของ MILL และติดตามคำชี้แจงของบริษัท

สำหรับประเด็นที่ขอให้บริษัทชี้แจง 

1. การแก้ปัญหาสภาพคล่องและความสามารถในการชำระหนี้ที่ครบกำหนดของกลุ่มบริษัทภายในปี 2567 ได้แก่ เงินกู้ยืมสถาบันการเงิน มูลค่า 11,385 ล้านบาท เป็นหนี้สินระยะสั้นทั้งหมด มี P/N 189 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดชำระวันที่ 12 เม.ย.2567 และหุ้นกู้ มูลค่า 404 ล้านบาท ครบกำหนดชำระวันที่ 9 ธ.ค.2567 

2. สาเหตุการเพิ่มขึ้นของรายการกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ 1.ลูกหนี้การค้า มูลค่า 2,609 ล้านบาท มีจำนวนเพิ่มจากปี 2565 คิดเป็น 4,731% และ 2.ลูกหนี้อื่น มูลค่า 222 ล้านบาท มีจำนวนเพิ่มจากปี 2565 คิดเป็น 181% สรุปข้อมูลแต่ละรายการ สาเหตุของการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตของลูกหนี้อื่นในปี 2566 จำนวน 170 ล้านบาท และแนวทางการติดตามหนี้

3. นโยบายการลงทุนในกิจการร่วมค้าและบริษัทร่วม สาเหตุการตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าเงินลงทุนของกิจการร่วมค้า มูลค่า 130 ล้านบาท เป็นการตั้งด้อยค่า 73% ของเงินลงทุน 177 ล้านบาท และบริษัทร่วม 3 บริษัท 95 ล้านบาท เป็นการตั้งด้อยค่า 22% ของเงินลงทุน 428 ล้านบาท การติดตามและประเมินผลตอบแทนจากการลงทุนในเงินลงทุนดังกล่าว

4. สรุปสาระสำคัญของคดีความ มูลค่า 140 ล้านบาท โดยระหว่างปี 2566 บริษัทถูกบริษัทต่างประเทศ 2 แห่ง ฟ้องร้องข้อหาไม่ชำระเงินมัดจำค่าสินค้ามีค่าเสียหาย 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แนวทางดำเนินการแก้ไข รวมทั้งผลกระทบจากการไม่ชำระเงินมัดจำดังกล่าว

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.