JKN ดิ่งฟลอร์ หลัง ตลท. ปลด SP ยันฟื้นฟูกิจการ หวังรีเซตองค์กร นำเงินใช้หนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN วันนี้ (29 มี.ค.) ล่าสุด เวลา 14.35 น. ลดลง 29.73% หรือลดลง 0.22 บาท มาอยู่ที่ 0.52 บาท ทำราคาต่ำสุด (Floor) มูลค่าการซื้อขาย 18.09 ล้านบาท

หลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปลดเครื่องหมาย SP หุ้น JKN ให้กลับมาซื้อขายได้ตามปกติ หลังจากถูกขึ้นเครื่องหมาย SP มาตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2567 เนื่องจากไม่นำส่งงบการเงินประจำปี 2566 ภายในเวลาที่กำหนด และวานนี้ (28 มี.ค.) JKN ได้นำส่งงบการเงินแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินดังกล่าว ตลท. จึงคงเครื่องหมาย SP ไว้ถึงเมื่อวานนี้ และในวันนี้ปลดเครื่องหมาย SP ขึ้นเครื่องหมาย CS แทน

โดยผลการดำเนินงานของ JKN ในปี 2566 มีผลขาดทุนสุทธิ 2,128.12 ล้านบาท ลดลง 449.77% จากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 608.43 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการพิจารณาการด้อยค่าของสินทรัพย์ของบริษัท โดยมีการเปรียบเทียบการด้อยค่าของสินทรัพย์ของบริษัทจากการพิจารณาข้อบ่งชี้ของสินทรัพย์แต่ละประเภทกับมูลค่าจากผู้ประเมินอิสระภายนอกด้วย 

ทั้งนี้ มีการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าในสินทรัพย์ไม่มีตัวตน-ลิขสิทธิ์คอนเทนต์ของบริษัทและบริษัทย่อย รวมเป็นจำนวน 841.97 ล้านบาท ผลขาดทุนจากการด้อยค่าในเครื่องหมายการค้าและค่าความนิยมของบริษัทและบริษัทย่อย รวมเป็นจำนวน 271.52 ล้านบาท และการตั้งสำรองด้อยค่าในสินทรัพย์อื่นรวมเป็นจำนวน 31.48 ล้านบาท รวมทั้ง 3 รายการ เป็นยอดรวมทั้งสิ้น 1,144.97 ล้านบาท 

รวมทั้งการรับรู้ผลขาดทุนทางด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของบริษัทและบริษัทย่อย โดยตั้งเป็นค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรวมเป็นจำนวน 494.86 ล้านบาท นอกจากนั้นบริษัทมีการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าในเงินลงทุนในบริษัทย่อย รวมเป็นจำนวน 619.45 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการกระทบในงบการเงินเฉพาะแต่ละกิจการ

นอกจากรายการด้อยค่าข้างต้น ยังเป็นผลจากรายได้ในธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในไตรมาส 4/2566 มีจำนวนลดลงอย่างมาก แม้จะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจการจัดประกวดนางงามจักรวาลที่จัดประกวดในเดือน พ.ย.2566 แต่ก็ไม่สามารถชดเชยรายได้ที่ลดลงของธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ได้ เนื่องจากต้นทุนบริการของธุรกิจการขายและให้บริการได้รวมต้นทุนของการจัดการสิทธิ์ของมิสยูนิเวิร์สจากการจัดการประกวด 2 ครั้งในปี 2566 ไว้ (จัดประกวดในเดือน ม.ค.2566 และ พ.ย.2566) 

ดังนั้นส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2566 ปรับตัวลดลงอยู่ในสถานะขาดทุนสุทธิเป็น -86.46% โดยในปี 2565 มีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 21.85% และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเมื่อเทียบกับรายได้รวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่อัตรา 99.39% จากอัตรา 18.16% ในปี 2565

สำหรับรายได้รวมปี 2566 อยู่ที่ 2,495.42 ล้านบาท ลดลง 6.52% จากปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,669.56 ล้านบาท โดยรายได้ของบริษัทและบริษัทย่อยในแต่ละธุรกิจสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2566 มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับรายได้ประเภทเดียวกันจากปีก่อนในแต่ละธุรกิจของบริษัท และรายได้อื่น ดังนี้ 

(1) รายได้ค่าสิทธิ์จากธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์รายการ ลดลง 13.82% 

(2) รายได้จากการให้บริการจากธุรกิจบริการโฆษณา เพิ่มขึ้น 47.62% 

(3) รายได้จากการขายจากธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ลดลง 41.06% 

(4) รายได้จากการบริหารจัดการลิขสิทธิ์ขององค์กรนางงามจักรวาล เพิ่มขึ้น 3,206.06% จากการที่เป็นปีแรกที่มีการจัดประกวดนางงามจักรวาลภายใต้การดำเนินงานของบริษัท 

และ (5) รายได้อื่น ลดลง 92.45% เนื่องจากในปี 2565 มีการรับรู้กำไรจากการซื้อกิจการในราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมจำนวน 441.10 ล้านบาท

จากผลการดำเนินงานในปี 2566 ที่มีผลขาดทุนสุทธิดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทงดจ่ายเงินปันผลสําหรับผลการดําเนินงานประจําปี 2566 

คุณแอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ JKN โพสต์เฟสบุ๊ค “Anne Jakrajutatip” วานนี้ (28 มี.ค.) ระบุว่า งบการเงินของ JKN ประจำปี 2566 เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว …. ซึ่งการจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการอย่างถูกต้อง และเป็นมืออาชีพ ทุกบริษัทเหล่านั้นต้องผ่านขั้นตอนที่เรียกว่า “การวัดมูลค่าสินทรัพย์ของบริษัททั้งเครือ” เกือบใหม่ทั้งหมด (Asset Evaluation) โดยผู้เชี่ยวชาญที่ถูกรับรองโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. เพื่อเริ่มต้นเดินหน้ากิจการใหม่อีกครั้งหนึ่ง และสามารถรับผิดชอบเจ้าหนี้ทุกท่านได้อย่างดีที่สุดค่ะ กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและให้โอกาสค่ะ

“งบการเงินปี 2566 ได้มีการปรับทั้ง Amortize และ Impairment สินทรัพย์ ซึ่งหลายๆ เรื่องปรับจนให้มันเข้าที่เข้าทาง ยืนยันไม่ขายสินทรัพย์ เนื่องจากทุกธุรกิจต้องประสานไปด้วยกันในอีโคซิสเต็มส์ มีช่องทีวี ก็ต้องมีโฮมช้อปปิ้ง มีโฮมช้อปปิ้งก็ต้องมีสินค้า Personal Care / Drink และ MUO ระดับโลก มี Influencer ขายของ ขายโฆษณา ทุกอย่าง คือ อีโคซิสเต็มส์” คุณแอน-จักรพงษ์ กล่าว 

ดังนั้น บริษัทจึงยื่นขอฟื้นฟูกิจการ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อหยุด รีเซต ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ จากนั้นขอเวลาทำงาน สร้างผลกำไรจากการดำเนินงาน เพื่อนำเงินมาชำระคืนเจ้าหนี้

โดยปัจจุบันบริษัทมีรายการผิดนัดชำระหนี้ แบ่งเป็นหนี้หุ้นกู้ 7 รุ่นรวม 3,212.15 ล้านบาท หนี้สถาบันการเงิน 4 แห่ง รวม 688.73 ล้านบาท และหนี้หุ้นกู้แปลงสภาพ 1,200 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นกว่า 5,100 ล้านบาท

กางไทม์ไลน์ขั้นตอนฟื้นฟูกิจการ

วันที่ 8 พ.ย.2566 บริษัทได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ต่อศาลล้มละลายกลางภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 และในวันที่ 9 พ.ย.2566 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทแล้ว โดยได้กำหนดวันไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 29 ม.ค.2567 

อย่างไรก็ตาม ทนายลูกหนี้ผู้ร้องขอยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี เนื่องผู้รับผิดชอบเบิกความเกี่ยวกับกับทุกประเด็นตามคำร้องขอฟื้นฟูกิจการป่วยไม่สามารถเดินทางมาเบิกความต่อศาลได้ ศาลล้มละลายกลางได้พิจารณาคำร้องแล้วถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย จึงอนุญาตให้เลื่อนไปนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 5-7 มี.ค.2567

ในวันที่ 5 มี.ค.2567 ศาลล้มละลายกลางได้ไต่สวนพยานของผู้ร้องขอ และไต่สวนพยานของผู้คัดค้านแล้ว คดีเสร็จการไต่สวนให้นัดฟังคำสั่งในวันที่ 23 เม.ย.2567 และยกเลิกนัดวันที่ 6 และ 7 มี.ค.2567

ทั้งนี้ ในวันที่ 23 เม.ย.2567 หน้าที่ของทีมอธิบายให้ศาลเข้าใจ คือ ทาง JKN มีหนี้สินล้นพ้นตัว และมีช่องทางที่จะฟื้นฟูได้ จากนั้นศาลจะพิจารณามีคําสั่งให้ฟื้นฟูกิจการหรือไม่ 

หากศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ ขั้นตอนต่อไป จะเป็นการแต่งตั้งผู้ทำแผนและจัดทำแผน เมื่อจัดทำแผนเสร็จ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นําส่งแผนฟื้นฟูกิจการให้เจ้าหนี้ เพื่อลงมติรับแผนฟื้นฟูกิจการหรือไม่ 

หากเจ้าหนี้ลงมติรับแผนฟื้นฟูกิจการ จากนั้นจะเสนอต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อพิจารณาคําสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ

หากศาลล้มละลายกลางมีคําสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ ก็เริ่มกระบวนการตามแผนฟื้นฟูกิจการ

โดยขั้นตอนตั้งแต่ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการจนถึงศาลล้มละลายกลางมีคําสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี เร็วสุดภายในสิ้นปี 2567 หรือช้าสุดกลางเดือน ก.พ.2568 และเริ่มกระบวนการตามแผนฟื้นฟูกิจการได้ตั้งแต่ปี 2568-2572

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.