รู้ก่อนซื้อ! 8 หุ้นค้าปลีก ตัวไหนกำไร Q1/67 พีคสุด

     ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ADVICE  ปิดการซื้อขายเช้านี้(6 มี.ค.67) อยู่ที่ 4.12 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 8.45 ล้านบาท

     ราคาหุ้น BJC อยู่ที่ 24.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท คิดเป็น +2.49% มูลค่าการซื้อขาย 279.08 ล้านบาท

     ราคาหุ้น COM7 อยู่ที่ 19.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท คิดเป็น +1.54% มูลค่าการซื้อขาย 200.83 ล้านบาท

     ราคาหุ้น CRC อยู่ที่ 35.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 75.47 ล้านบาท

     ราคาหุ้น CPALL อยู่ที่ 57.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท คิดเป็น +1.32% มูลค่าการซื้อขาย 771.83 ล้านบาท

     ราคาหุ้น CPAXT อยู่ที่ 33.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท คิดเป็น +1.52% มูลค่าการซื้อขาย 43.58 ล้านบาท

     ราคาหุ้น HMPRO อยู่ที่ 11.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท คิดเป็น +2.73% มูลค่าการซื้อขาย 110.75 ล้านบาท

     ราคาหุ้น DOHOME อยู่ที่ 11.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท คิดเป็น +2.70% มูลค่าการซื้อขาย 23.06 ล้านบาท

 

กำไร Q4/66 โตแรง

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า หุ้นในกลุ่มพาณิชย์ที่ฝ่ายวิจัยศึกษา คือ บมจ.แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท (ADVICE), บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC), บมจ.คอมเซเว่น (COM7), บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL), บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า (CPAXT), บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC), บมจ.ดูโฮม (DOHOME)

     และ บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) มีกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 4/66 รวมกันประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น +58% จากไตรมาสก่อนหน้า(QoQ) , เพิ่มขึ้น +23% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน(YoY)) หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 82% ของกำไรสุทธิโดยรวมทั้งหมดของหุ้นในกลุ่มพาณิชย์ทั้งหมด ซึ่งมีกำไรสุทธิรวมกันอยู่ที่ 1.96 หมื่นล้านบาท (+38% QoQ , +17% YoY)

     ทั้งนี้พบว่าหุ้นเกือบทุกตัวในกลุ่มที่เราศึกษาดังกล่าวข้างต้นมีกำไรที่เติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยเฉพาะ CRC ที่กำไรสุทธิโตแรงสุด 175% QoQ รองลงไปคือ BJC (+137% QoQ) และ DOHOME (+117% QoQ) เนื่องจากทั้ง 3 บริษัทมีฐานกำไรที่ต่ำในไตรมาส 3/66 แต่มีปัจจัยเฉพาะตัวที่มาช่วยผลักดันกำไรในไตรมาส 4/66 กล่าวคือ CRC มีทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น หนุนจากการเติบโตของสินค้าแฟชั่น 

     ส่วน BJC มียอดขายที่โตขึ้นในเกือบทุกธุรกิจและมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบหลักในการผลิตของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ และธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่ลดลง 

     ขณะที่ DOHOME มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น บวกกับมีรายได้พิเศษจากเงินค่าความเสียหายจากน้ำท่วมในไตรมาส 4/65 หากเทียบ YoY กำไรโดยรวมของหุ้นที่เราศึกษาโตได้ 23% ดีกว่ารายได้ขายและบริการโดยรวมที่โตได้เพียง 5% YoY แม้ทุกบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นเกือบทุกบริษัท

     ยกเว้น ADVICE และ COM7 ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้รับผลกระทบจากการที่ผู้บริโภคบางส่วนอาจชะลอการซื้อสินค้าของทั้ง 2 บริษัท ในไตรมาส 4/66 ไปเป็นไตรมาส 1/67 แทน เพื่อรับประโยชน์ทางภาษีจากมาตรการ Easy E-receipt

     โดยในงวดไตรมาส 4/66 หุ้นที่มีกำไรปกติเด่นสุด YoY คือ DOHOME ที่กำไรฟื้นตัวจากฐานต่ำในไตรมาส 4/65 ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม และทำให้ต้องปิดสาขาอุบลราชธานี (สาขาหลัก) ไปชั่วคราว ราว 1 เดือน หุ้นที่เด่นรองลงไป คือ CPALL (+75% YoY) เทียบกับกำไรที่เป็นฐานต่ำในไตรมาส 4/65 เพราะมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการจ่ายโบนัสพนักงาน

เงินเฟ้อ ก.พ.67เริ่มฟื้น

     กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) สำหรับเดือน ก.พ. 67 ที่ 107.22 หรือคิดเป็นเงินเฟ้อที่0.22% MoM (-0.77% YoY) ซึ่งถือว่าดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะชะลอลง 0.8% YoY และดีขึ้นจากในเดือน ม.ค.67 ที่เงินเฟ้อติดลบ 1.1% YoY โดยรวมแล้วเงินเฟ้อเฉลี่ย 2 เดือนแรกในช่วงไตรมาส 1/67(ม.ค.-ก.พ.67) อยู่ที่ 107.1 (-0.95% YoY) เมื่อเทียบกับช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 1/66 (ม.ค.-ก.พ.66) 

     ซึ่งจากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา (ช่วงปี 2562 – 2566) หุ้นในกลุ่มพาณิชย์ที่ฝ่ายวิจัยศึกษา และมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางเดียวกันกับเงินเฟ้อ แต่การเปลี่ยนแปลงของยอดขายหุ้นดังกล่าวจะดีกว่าเงินเฟ้อ โดยในช่วงไตรมาส 1/62 - ไตรมาส 4/66 หุ้นกลุ่มพาณิชย์ที่ฝ่ายวิจัยศึกษามีอัตราการเติบโตของยอดขายเฉลี่ยราว 12.6% ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 1.7%

     ทั้งนี้เงินเฟ้อที่เริ่มเป็นบวก MoM มากขึ้น ในเดือน ก.พ.67 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 0.02% MoM และเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังจากติดลบต่อเนื่องมา 4 เดือน ตั้งแต่ ก.ย.-ธ.ค.66 ซึ่งเชื่อว่ามาจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น, การจับจ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากมาตรการ Easy Ereceipt, เทศกาลตรุษจีน และกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากขึ้น สำหรับเดือน มี.ค.67 ตลาดคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะขยับสูงขึ้นต่อเนื่อง ฝ่ายวิจัยจึงคาดว่ายอดขายของหุ้นในกลุ่มพาณิชย์ที่เราศึกษาในงวดไตรมาส 1/67จะชะลอลงเพียงเล็กน้อย QoQ แม้เทียบกับไตรมาส 4/66 ที่ได้รับผลบวกจากฤดูกาล และจะยังเติบโตได้ YoY ด้วยอัตราที่สูงกว่าเงินเฟ้อ เช่นเดียวกับในอดีต 

กำไร Q1/67 ชะลอ QoQ โต YoY

     ภาพรวมกำไรในงวดไตรมาส 1/67 สำหรับหุ้นในกลุ่มพาณิชย์ที่ฝ่ายวิจัยศึกษา มีแนวโน้มจะลดลง QoQ เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 4/66 ที่เป็นช่วง high season ของธุรกิจ แต่ยังคาดหวังการเติบโตขึ้นได้ YoY เนื่องจากคาดทุกบริษัทมียอดขายและกำไรสูงขึ้นตามกำลังซื้อที่ดีขึ้น หนุนโดยมาตรการ Easy E-receipt ซึ่งเชื่อว่าผู้บริโภคที่ชะลอการซื้อสินค้าบางประเภท (โดยเฉพาะสินค้าที่มีราคาสูง) ในไตรมาสก่อน จะเร่งซื้อในช่วงต้นไตรมาส 1/67 เพื่อรับประโยชน์ทางภาษียกเว้น DOHOME ที่คาดจะมีกำไรที่ลดลง YoY นอกจากนี้แต่ละบริษัทยังมีปัจจัยอื่น หนุนกำไรไตรมาส 1/67 ดังนี้

     ภาพรวมกำไรในปี 2567 "หุ้นกลุ่มพาณิชย์"ที่ฝ่ายวิจัยศึกษาในทุกๆบริษัท มีแนวโน้มจะดีขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนดังนี้ 1) คาดยอดขายจะเติบโตขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจที่น่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นกว่าปี 2566 โดยอ้างอิงข้อมูลจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2567 จะเติบโตด้วยอัตรา 3.2% เทียบกับปี 2566 ที่โตเพียง 1.9%

     2) นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าไทยมากขึ้น โดยคาดการณ์ยอดนักท่องเที่ยวสำหรับปี 2567 ของฝ่ายวิจัยอยู่ที่ 32 ล้านคน (+14% YoY) อีกทั้งคนไทยมีการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น หลังความรุนแรงของโรคโควิด-19 บรรเทาลงจะช่วยหนุนกำลังซื้อ โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยว

     3) มาตรการ Easy E-receipt กระตุ้นการใช้จ่ายช่วงต้นปี ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะหนุน GDP ให้เติบโตได้ราว 0.8%

เลือก BJC - CRC

     ฝ่ายวิจัยยังคงน้ำหนักการลงทุนสำหรับหุ้นกลุ่มพาณิชย์ “มากกว่าตลาด” เพราะคาดหวังการเติบโตของกำไรโดยรวมสำหรับปี 2567 ที่ 18% YoY ซึ่งสูงกว่าตลาดที่คาดจะมีกำไรโต 13% YoY เราเลือก BJC และ CRC เป็นหุ้น Top picks เนื่องจากระยะสั้นเป็นหุ้นที่คาดว่าจะมีราคาที่ Outperform ตลาดได้ จากการเติบโตของกำไร YoY ในไตรมาส 1/67 ที่น่าจะโดดเด่นสุด

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.