ธอส. โชว์กำไรปี66 แตะ 1.46 หมื่นล้าน ปล่อยสินเชื่อใหม่พุ่งกว่า 2.53 แสนล้าน
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยผลการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2566 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 253,860 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 197,730 บัญชี สูงกว่าเป้าหมาย 235,480 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 2.5 ล้านบาท จำนวน 121,308 ราย สูงขึ้นกว่าเป้าหมาย 116,817 ราย อยู่ที่ 3.84% ทำให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 4/2566 ธนาคารมีสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,713,544 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.21% มีสินทรัพย์รวม 1,785,575 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.60% เงินฝากรวม 1,540,652 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.76% และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 66,343 ล้านบาท คิดเป็น 3.87% ของยอดสินเชื่อรวม ถือว่าดีกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ ธนาคารได้ทยอยตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเป็นจำนวนสูงถึง 147,197 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.09% หรือคิดเป็นสัดส่วนต่อ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ที่ระดับ 221.87% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14,620 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการควบคุมค่าใช้จ่ายภายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ระดับแข็งแกร่งที่ 15.21%
“ ธอส. ยังเป็นธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อบ้านให้คนรายย่อย โดยเฉพาะรายที่กู้ต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท ยอดปล่อยกู้ยังสูง ไม่ได้ถูกปฎิเสธปล่อยกู้ ขณะเดียวกันจากมาตรการช่วยลูกหนี้ทำให้ธนาคารสามารถควบคุมหนี้ NPL ได้ต่ำกว่า 4% โดยการตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ในช่วงครึ่งหลังของปี ทำให้ดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อย หรือ MRR ต่ำที่สุดในระบบ นอกจากนี้ยังเตรียมออกมาตรการช่วยลูกหนี้ตามนโยบายรัฐบาล คาดว่าไม่น่าเกิน 2 สัปดาห์จะมีการประกาศออกมา ” นายกมลภพ กล่าว
สำหรับการช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้สามารถผ่อนชำระเงินงวดได้ตาม “มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ปี 2567” ประกอบด้วย
1.มาตรการภาคครัวเรือน “HD1” สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1-3 จำนวน 1,000 บาท (ตัดชำระเงินต้นทั้งหมด) อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี
2. มาตรการภาคครัวเรือน “HD2” สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1 - 3 คำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90% +100 บาท
3. มาตรการภาคครัวเรือน “HD3” สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ NPL ที่มีเงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1 - 4 จำนวน 1,000 บาท (ตัดชำระเงินต้นทั้งหมด) อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี
ทั้งนี้ ได้เปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่าน Application : GHB ALL BFRIEND และสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า ณ วันที่ 24 มกราคม 2567 มีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 3,853 บัญชี คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 4,544 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธอส. ยังเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 ผ่านทาง Application : GHB ALL BFRIEND
สำหรับ แผนดำเนินงานในปี 2567 ตั้งเป้าขยายสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 3% ของเป้าหมายในปี 2566 หรือคิดเป็นยอดสินเชื่อ 242,544 ล้านบาท ภายใต้แผนจะพัฒนาการเชื่อมโยงพันธมิตรด้านที่อยู่อาศัย (Best Housing Ecosystem) ผ่านการปล่อยสินเชื่อที่หลากหลาย ทั้งด้านความยั่งยืน (Sustainable) ด้านนวัตกรรม (Innovation) ด้านสุขภาพ และด้านสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society)
ประกอบด้วย โครงการ Resale Home Ecosystem โดยขยายความร่วมมือกับพันธมิตรที่ขายบ้านมือสอง โครงการสินเชื่อ Green Loan สนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงาน อาทิ สินเชื่อบ้านอยู่เย็นเป็นสุข สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ซื้ออุปกรณ์ฯ เพื่อให้เป็นบ้านประหยัดพลังงาน (ECO House) อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นปีแรกเพียง 2.80% ต่อปี สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการโครงการสินเชื่อเพื่ออาคารคาร์บอนต่ำ (Project Loan For Carbon Reduction Building) ที่ต้องการปลูกสร้าง ต่อเติม ปรับปรุง ซ่อมแซม อพาร์ทเม้นท์ และผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาโครงการเพื่อปลูกสร้างบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรกเพียง 3.90% ต่อปี
โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง เพื่อดูแลประชาชนให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น รองรับ Aging Society และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม อาทิ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ โดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (Reverse Mortgage : RM) สำหรับผู้ที่ต้องการมีรายได้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพหลังจากเกษียณอายุ และโครงการสินเชื่อชำระหนี้ค่าไถ่ถอนการขายฝากที่อยู่อาศัย โดยเปิดโอกาสให้กับผู้ที่นำบ้านและที่ดินไปจำนองขายฝากกับเจ้าหนี้นอกระบบ สามารถขอสินเชื่อเพื่อไถ่ถอนจำนองการขายฝากที่อยู่อาศัยกับธนาคารได้ โดยกำหนดวงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อรายต่อหลักประกัน
พร้อมกันนี้ ธอส. ยังเตรียมสินเชื่อเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าได้แก่ สินเชื่อบ้าน ธอส. สุขสบาย ปี 2566 แก่ลูกค้าที่มีความประสงค์เปลี่ยนแปลงดอกเบี้ยเงินกู้ โดยไม่พิจารณาประวัติการผ่อนชำระหนี้ หรือสถานะในการทำข้อตกลงประนอมหนี้ อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี หรือ 4.90% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.90% ต่อปี) และ 2. ลูกค้าใหม่ (รีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินอื่นมายัง ธอส.) อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 เท่ากับ 3.75% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 4% และโครงการสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล กับสินเชื่อพร้อมใช้ สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ผ่อนชำระเงินงวดและเงินต้นลดลงอย่างสม่ำเสมอ ให้ได้รับสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำตามวงเงินต้นที่ลดลง เพื่อใช้ซื้อสินค้าและบริการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยในร้านค้าที่เป็นพันธมิตรกับธนาคาร
สำหรับโครงการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ (SFIs) และบริษัทบริหารสินทรัพย์ (Joint Venture Asset Management Company: JV AMC) ในส่วนของ ธอส. เตรียมคัดลูกหนี้ NPL ที่มีการตั้งสำรองไว้ครบจำนวน 1 หมื่นล้านบาท เข้าไปบริหารใน JV AMC อีกด้วย
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.