CCAP ยื่นไฟลิ่งเสนอขายไอพีโอ 125 ล้านหุ้น ระดมทุนเข้า mai
นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO เปิดเผยถึงแผนการเสนอขายหุ้นสามัญของ บริษัท ชโย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ CCAP ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ตามแผน Spin-Off เพื่อวางโครงสร้างธุรกิจในกลุ่มบริษัทให้มีความชัดเจน
ทั้งนี้ CCAP จะเป็นบริษัทหลัก (Flagship Company) ของกลุ่มบริษัทในการดำเนินธุรกิจการปล่อยสินเชื่อ ขณะที่ CHAYO และบริษัทย่อยที่ไม่ใช่ CCAP จะประกอบธุรกิจลงทุนและบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ธุรกิจให้บริการเจรจาติดตามทวงถาม และเร่งรัดหนี้ ธุรกิจร่วมลงทุนและหรือธุรกิจอื่นที่ไม่เป็นการแข่งขันกับ CCAP เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนในกลุ่มบริษัท
ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2567 CCAP ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 125,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (par) 1 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของ CCAP ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้
โดยจะมีการจัดสรรหุ้น IPO ให้ผู้ถือหุ้นของ CHAYO เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรร (Pre-Emptive Rights) ไม่เกิน 12.5 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเสนอขายในครั้งนี้ พร้อมแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน นำ CCAP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจ (sector) ธุรกิจการเงิน (FINCIAL)
ในด้านโครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 9 ม.ค.2567 CHAYO เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นใน CCAP ก่อนและหลัง IPO ที่ 71.3% และ 53.4% ของทุนชำระแล้ว ตามลำดับ ทั้งนี้ CCAP จะยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ CHAYO เช่นเดิม
นายณฐพล ทิพชัชวาลวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ CCAP กล่าวว่า ปัจจุบัน CCAP ให้บริการสินเชื่อทั้งแบบมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อมีหลักประกัน ประเภทจดจำนองและขายฝากสินทรัพย์ (Secured Loan) สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน ให้บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้าสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ (P-Loan) สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ (Nano Finance)
CCAP มีความเชี่ยวชาญและความเข้าใจในธุรกิจการให้สินเชื่อ รายได้หลักของ CCAP มาจากธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกัน ซึ่งมุ่งเน้นกลุ่มผู้กู้ที่ต้องการนำเงินกู้ไปขยายธุรกิจ/เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ โดยเน้นลูกค้ากลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินได้ หรือสามารถเข้าถึงได้เพียงบางส่วน ซึ่ง CCAP เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ โดย CCAP บริหารความเสี่ยงโดยพิจารณาความสามารถชำระหนี้ของลูกค้าตามหลักเกณฑ์พิจารณาสินเชื่อและปล่อยสินเชื่อที่ LTV ไม่เกิน 50-60% โดยมุ่งเน้นการพิจารณารับหลักประกันประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพในจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เขตเศรษฐกิจพิเศษ และจังหวัดหลักของประเทศ
แผนการเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้ CCAP มีวัตถุประสงค์การระดมทุนในการนำไปใช้ขยายพอร์ตการให้สินเชื่อ สำหรับการปล่อยสินเชื่อมีหลักประกันและไม่มีหลักประกันเป็นหลัก รวมทั้งใช้สำหรับจ่ายคืนหนี้สินเงินกู้ยืมจากธนาคาร และ CHAYO บางส่วน
ทั้งนี้ CCAP มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย
นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI กล่าวว่า CCAP เป็นบริษัทย่อยในกลุ่ม CHAYO ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง กลุ่มผู้บริหารมีประสบการณ์ มีความเข้าใจในธุรกิจการให้สินเชื่อเป็นอย่างดี ตลอดจนมีการบริหารจัดการที่ดี สะท้อนจากผลการดำเนินงานของ CCAP ที่มีการเติบโตในระดับที่น่าสนใจ จึงมั่นใจว่าการระดมทุนครั้งนี้จะสนับสนุนให้ CCAP สามารถสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2564-2565 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 CCAP มีรายได้ดอกเบี้ย 13.6 ล้านบาท 77.0 ล้านบาท และ 75.8 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมาจากการเติบโตของลูกหนี้เงินให้กู้ยืมสินเชื่อที่มีหลักประกันซึ่งมีทั้งลูกค้ารายเดิมที่ขอกู้เพิ่ม และลูกค้ารายใหม่ๆ รวมถึงการเติบโตของลูกหนี้เงินให้กู้ยืมจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 5.6 ล้านบาท 39.0 ล้านบาท และ 27.9 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 41.0% 50.3% และ 36.9% ตามลำดับ
โดยอัตรากำไรสุทธิช่วงปี 2564-2565 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าอัตราการเติบโตของต้นทุนค่าบริการและค่าใช้จ่าย
ส่วนอัตรากำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 ลดลง สืบเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการเตรียมตัว IPO และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงานที่โอนย้ายมาจาก CHAYO รวมถึงการเพิ่มขึ้นของการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากลูกหนี้สินเชื่อไม่มีหลักประกัน
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.