จังหวะย่อซื้อ 4 หุ้นน้ำมันโรงกลั่น-สะสม 11 หุ้นปันผลสูงกว่า 6%

     ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น PTTEP เช้านี้(4 ม.ค. 2567) ณ เวลา 10.36 น. อยู่ที่ 148.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท คิดเป็น +1.71% มูลค่าการซื้อขาย 435.62 ล้านบาท

     ราคาหุ้น PTT อยู่ที่ 35.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท คิดเป็น +0.71%

     ราคาหุ้น SPRC อยู่ที่ 8.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท คิดเป็น +2.40%

     ราคาหุ้น TOP อยู่ที่ 53.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท คิดเป็น +0.47%

ราคาน้ำมันดิบพุ่งหนุน SET 

     ฝ่ายวิจัย บล. เอเซีย พลัส ระบุว่า วานนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI ปรับตัวขึ้น 3.3% และ 3.7% ตามลำดับ จนอยู่ที่ระดับ 78 และ 73 เหรียญฯ/บาร์เรล หลังลิเบียทำการปิดบ่อน้ำมันชาราราซึ่งมีกำลังการผลิต 300,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากประสบปัญหาการประท้วงของคนงาน อีกทั้งสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและทะเลแดงยังมีแนวโน้มบานปลายเป็นวงกว้าง หลังมีรายงานว่านายซาเลห์ อัล-อารูรี ผู้นำอาวุโสของกลุ่มฮามาสได้ถูกสังหารจากเหตุระเบิดในเมืองเบรุตของเลบานอน 

     ขณะที่ยอดเสียชีวิตในกาซาเพิ่มขึ้นเป็น 22,000 คน ดังนั้นจึงเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม ว่าจะมีความคืบหน้าทางด้านความรุนแรงอีกหรือไม่ ถ้าหากมีอาจเป็นตัวนำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วง 1-2 สัปดาห์

     ขณะที่ทางฝั่งสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ปรับตัวลงแรง 1-3% หลังการประชุม FED Minutes (รายละเอียดตามหัวข้อด้านบน) คาดสร้าง Sentiment เชิงลบต่อ SET Index ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม SET Index ไม่น่าจะผันผวนมากนัก เนื่องจากได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น โดย SET Index มีสัดส่วนหุ้นน้ำมัน-โรงกลั่น เกือบ 1 ใน 3 ของน้ำหนักตลาดฯ โดยหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ PTT PTTEP TOP SPRC เป็นต้น

     อย่างไรก็ดีแม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯจะปรับตัวลงแรง แต่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา จากความกังวล Supply ในตลาดน้ำมันตึงตัวขึ้น และความไม่สงบในสงครามตะวันออกกลางและทะเลแดง คาดเป็นประเด็นหนุนให้ SET Index Outperform ตลาดหุ้นอื่นๆได้ในวันนี้ โดยคาดมาจากหุ้นกลุ่มน้ำมัน-โรงกลั่น โดยฝ่ายวิจัยฯแนะนำ PTT ราคาเป้าหมาย 38 บาท PTTEP ราคาเป้าหมาย 180 บาท TOP ราคาเป้าหมาย  บาท SPRC ราคาเป้าหมาย 10.20 บาท เป็นต้น

หลบภัยเข้าหุ้นน้ำมัน-หุ้นปันผลสูง

     ช่วงก่อนหน้าตลาดหุ้นโลกขึ้นมาร้อนแรง จากความหวังวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นจบรอบแต่วานนี้เริ่มมีกระแสกังวลว่า Bond Yield สหรัฐระยะยาวที่ลงมาเร็ว สร้างดีมานด์อสังหาฯ เพิ่มขึ้น อาจจะกดดันให้เงินเฟ้อขยับยากได้ กดดันให้เห็นการขายทำกำไรสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงสั้นๆ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นโลก MSCI ACWI -1.7% (ytd) และหุ้นเทคฯ อย่าง NASDAQ ปรับตัวลงแรงกว่า -2.8% (ytd) แต่ตลาดหุ้นในเอเชียใต้ถูกกดดันน้อยกว่า อาทิ ตลาดหุ้นไทย +1% (ytd), ฟิลิปปินส์ +0.8% (ytd), อินโดฯ % +0.1%(ytd)

     ขณะเดียวกันหากดูรายละเอียดลงไปในราย Sector พบว่า นักลงทุนเอนเอียงน้ำหนักการลงทุนไปที่หุ้นน้ำมัน และหุ้นผันผวนต่ำ อย่าง การแพทย์ซึ่งให้ผลตอบแทนเป็นบวกสวนหุ้นกลุ่มอื่นๆ

4 หุ้นน้ำมันดี - 11 หุ้นปันผลสูง

    ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้น 2 ธีม คือ 1. หุ้นอิงกับราคาน้ำมัน อย่าง PTTEP ราคาเป้าหมาย 180 บาท , PTT ราคาเป้าหมาย 38 บาท, TOP ราคาเป้าหมาย 61 บาท, IRPC ราคาเป้าหมาย 2.50 บาท ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นมีการปรับฐานสะท้อนปัจจัยกระทบต่างๆไปแล้วระดับหนึ่ง จนมี DOWNSIDE ที่จำกัดมากขึ้น ถึงแม้ OUTLOOK ธุรกิจช่วงไตรมาส 4/66 จะยังไม่สดใสมากนัก แต่เชื่อว่าภาพรวมจะค่อยๆเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นได้ และทยอยเข้าสู่ภาวะปกติในปี 2567

     และ 2. หุ้นปันผลสูงเกิน 6% ต่อปี น่าจะช่วยรับมือในช่วงตลาดผันผวนได้ดี ทั้ง หุ้น SIRI แนะนำ Outperform ราคาเหมาะสม 2.20 บาท Dividend Yield ปี66 ที่ 10.61% ส่วน Dividend Yield ปี67 ที่ 7.82%

     หุ้น TISCO แนะนำ Outperform ราคาเหมาะสม 109 บาท Dividend Yield ปี66 ที่ 8.04% ส่วน Dividend Yield ปี67 ที่ 8.29%

     หุ้น ORI  แนะนำ Outperform ราคาเหมาะสม 12.20 บาท Dividend Yield ปี66 ที่ 7.54% ส่วน Dividend Yield ปี67 ที่ 7.99% 

     หุ้น SPALI  แนะนำ Outperform ราคาเหมาะสม 27.30 บาท Dividend Yield ปี66 ที่ 7.41% ส่วน Dividend Yield ปี67 ที่ 7.51%

     หุ้น SC แนะนำ Outperform ราคาเหมาะสม 4.80 บาท Dividend Yield ปี66 ที่ 7.24% ส่วน Dividend Yield ปี67 ที่ 7.59%

     หุ้น LH  แนะนำ Outperform ราคาเหมาะสม 10 บาท Dividend Yield ปี66 ที่ 6.79% ส่วน Dividend Yield ปี67 ที่ 6.54%

     หุ้น PYLON แนะนำ Neutral ราคาเหมาะสม 3.72 บาท Dividend Yield ปี66 ที่ 6.39% ส่วน Dividend Yield ปี67 ที่ 5.31%

     หุ้น DRT แนะนำ Outperform ราคาเหมาะสม 9.40 บาท Dividend Yield ปี66 ที่ 6.34% ส่วน Dividend Yield ปี67 ที่ 6.54%

     หุ้น SCB  แนะนำ Neutral ราคาเหมาะสม 111 บาท Dividend Yield ปี66 ที่ 6.32% ส่วน Dividend Yield ปี67 ที่ 6.37%

     หุ้น QH แนะนำ Outperform ราคาเหมาะสม 2.84 บาท Dividend Yield ปี66 ที่ 6.31% ส่วน Dividend Yield ปี67 ที่ 7.11%

     หุ้น INTUCH แนะนำ Outperform ราคาเหมาะสม 91 บาท Dividend Yield ปี66 ที่ 6.30% ส่วน Dividend Yield ปี67 ที่ 4.71%