จับตา"ศึกอภิปรายงบปี67" กูรูเคาะกรอบ 1420-1445 เชียร์หุ้นกำไรดี-ปันผลสูง

เกาะติดงบประมาณฯ2567

     นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า การรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ เดือนธันวาคม (Final) อยู่ที่ 47.9 จุด ต่ำกว่าคาดที่ 48.4 จุดยังคงสะท้อนภาพรวมการผลิตของสหรัฐฯยังไม่เด่นนัก โดยคืนนี้จับตาการรายงานดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือนธันวาคม โดยตลาดคาดที่ 47.2 จุด ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยจาก 46.7 ในเดือนพฤศจิกายน 

     ส่วนทางด้าน PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน เดือนธันวาคม ยังคงอยู่ในระดับต่ำเช่นกันที่ 44.4 จุด แต่ดีกว่าตลาดคาดที่ 44.2 จุด ส่วน Caixin PMI ของจีนปรับขึ้นอีกเล็กน้อยสู่ระดับ 50.8 จาก 50.7 และดีกว่าคาดที่ 50.3 จุด ดังนั้นโดยรวมบ่งชี้ว่าภาคการผลิตทั่วโลกแม้อยู่ในระดับต่ำ แต่ก็มีลุ้นที่จะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นในช่วงดัดไป

     ขณะที่สถานการณ์ในประเทศเริ่มต้นปีใหม่มีทิศทางแข็งแกร่งกว่าตลาดภูมิภาคตามคาด ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ ทั้งด้านการบริโภค ผ่านโครงการ Easy E-receipt ผสานภาคท่องเที่ยวที่ได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการที่จีนเปิดฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวไทย เริ่ม 1 มี.ค. 2024 สะท้อนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-จีน ที่ไม่ต้องมีวีซ่าซึ่งกันและกัน ซึ่งจะหนุนให้ภาพรวมเศรษฐกิจค่อยๆฟื้นตัวดีขึ้น ดังนั้นจึงเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการดี ขณะที่ราคายังอยู่ในโซนล่าง

    ส่วนวันนี้แนะติดตามการประชุมสภาฯ ซึ่งจะอภิปรายร่าง พรบ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท สูงขึ้นจากปีที่แล้วราว 9.3% ถือเป็นประเด็นสำคัญที่น่าจับตา

      “คาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1428-1440 จุด เกาะติดการอภิปราย พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ขณะที่ SET ยังดูแข็งแกร่งกว่าตลาดภูมิภาค โดยมุมมองเชิงกลยุทธ์ยังแนะทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี กำไรเด่น ที่ราคายังอยู่โซนล่างและอัตราการจ่ายปันผลสูง แนะนำ “AH” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 35 บาท 

     ทั้งนี้คาดแนวโน้มปี 2024 ของ AH ยังเน้นที่กลุ่มลูกค้าหลัก คือ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ผสานการขยายฐานลูกค้าในกลุ่ม EV จากฐานการผลิตในโปรตุเกส จีน และไทย ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายเพียง PE 5 เท่า และคาดปันผลสูงราว 5.8% เป็นระดับที่น่าทยอยสะสม

 

SET ผันผวน เน้นหุ้นรายตัว

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index พุ่งแรงต้อนรับปีใหม่ +18 จุด หรือ +1.24% ปิดที่ระดับ 1,434 จุด นัก ลงทุนเข้าเก็งกำไรหุ้นท่องเที่ยว (AOT AAV) รับข่าวฟรีวีซ่าไทยจีน และดักซื้อหุ้นที่ คาดว่าจะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยและราคาพลังงานที่ลดลง อาทิ ไฟแนนซ์, และโรงไฟฟ้า

     แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้(3 ม.ค.2567)ประเมิน SET แกว่งตัว 1,420 - 1,445 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจาก คาดการณ์ FED และ ECB จะทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง รวมถึงแรงซื้อหุ้นที่มี ปัจจัยบวกเฉพาะตัว อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงจากการแข็งค่าขึ้นของเงิน USD ประกอบกับ US bond yield ที่ดีดตัวขึ้นสู่ 3.96% จะกดดันต่อภาพการลงทุนในช่วงนี้จึงยังคงแนะนำ Selective buy เช่นเดิม

     "กราฟ SET อยู่ในช่วงกลับตัว V shape โดยวานนี้พุ่งผ่าน High เดิม 1,430 จุดขึ้นได้แบบชิวๆส่งผลให้ภาพรวมยังเป็นบวก สนับสนุนด้วยเครื่องมือ MACD + RSI ชี้ขึ้นเป็นสัญญาณซื้อ อย่างไรก็ตาม Volume การซื้อขายยังคงเบาบางส่งผลให้ดัชนีผันผวน ดังนั้นประเมินว่า SET ระยะกลางจะซิกแซกขึ้น(สลับพักตัว)ทดสอบเป้าหมาย 1,445 / 1,460 จุด ดังนั้นกลยุทธ์ระยะสั้นแนะนำซื้อเก็งกำไรกรอบ 1,420 - 1,445 จุด โดยถือหุ้นได้หากไม่หลุด 1,410 จุด ส่วนระยะกลางถึงยาว แนะนำถือหุ้นต่อ บวกซื้อสะสมบริเวณ 1,410 จุด+/-" 

หุ้นแนะนำวันนี้

     AP (11.60 ซื้อ/ เป้า IAA Consensus 14.40 บาท) ทยอยสะสมดักรับเงิน ปันผลปลายปี ซึ่ง AP จ่ายปีละครั้งให้ Dividend yieldสูง 6-7%ต่อปี แนวโน้ม กำไรยังทำ All time high ทั้งปี 23 และ 24 ส่วนยอดขาย Presale 2 คอนโดใหม่ มูลค่ารวม 7 พันล้านบาท กระแสดีมียอด Take up Rate 50-70%

     BGRIM (ปิด 28 ซื้อ/ เป้า IAA Consensus 32 บาท) ได้ Sentiment บวก จากราคาน้ำมันดิบลดลง และยังมีประเด็นเก็งกำไรจากกระแสภาครัฐปรับ โครงสร้างราคาพลังงานและจัดส่งก๊าซในอ่าวไทยที่มีราคาถูกให้โรงไฟฟ้ามากขึ้น

ประเด็นสำคัญวันนี้

     (+) กลุ่มท่องเที่ยว - ครม. เห็นชอบฟรีวีซ่าถาวรไทย - จีน เริ่ม 1 มี.ค. 2567: วานนี้ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบการให้ฟรีวีซ่าถาวรระหว่างนักท่องเที่ยวของ ไทย และ จีน โดยจีนจะเริ่มให้ฟรีวีซ่ากับนักท่องเที่ยวไทยตั้งแต่ 1 มี.ค. 2567 ส่วนไทยมาตรการเดิมจะหมดอายุ 29 ก.พ.นี้ จะเปลี่ยนเป็นถาวรทดแทน มาตรการนี้จะทำให้คนไทยเดินทางไปจีนเพิ่มขึ้นเป็นบวกต่อ AOT และ AAV ซึ่งมี สัดส่วนผู้โดยสารและเที่ยวบินระหว่างจีนกับไทยโดยตรง

     (-) ดัชนีตลาดหุ้น Nasdaq ของสหรัฐร่วงแรงหลัง US Bond Yield เริ่ม ปรับตัวขึ้น: ดัชนีตลาดหุ้น Nasdaq ปรับตัวลดลง 245 จุด (-1.63%) ปิดที่ 14,766 จุด นักลงทุนเทขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีหลังจากที่อัตราผลตอบแทนของ พันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี (US Bond yield) ปรับตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 4% อีก ครั้งเทียบกับ 3.8% ในช่วงปลายปี นอกจากนี้หุ้น Apple (-3.6%) มีปัจจัยลบเฉพาะหลังจากถูกปรับลดอันดับความน่าลงทุน

     (-) ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐและยุโรปยังชะลอตัว: ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐเดือน ธ.ค. ลดลงสู่ระดับ 47.9 จาก 49.4 ในเดือน พ.ย.และต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 48.2 เช่นเดียวกับ PMI การผลิตของยูโรโซนแม้จะเพิ่มขึ้น เป็น 44.4 จาก 44.2 แต่ยังต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนภาคการผลิตของสหรัฐและยุโรปยังชะลอตัว

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.