ฮั่วเซ่งเฮงมองราคาทองสัปดาห์นี้อ่อนตัวแนะนำให้หาจังหวะซื้อ

ฮั่วเซ่งเฮงวิเคราะห์ราคาทองสัปดาห์นี้ว่า จากเมื่อวันศุกร์เกิดแท่งเทียนสีแดงปิดตลาดต่ำกว่าแท่งเทียนวันก่อนหน้า ขณะที่ High และ Low ก็ยกระดับต่ำลงจากวันก่อน ซึ่งอาจส่งสัญญาณให้ราคาทองคำปรับตัวลงได้ต่อ

โดยราคาทองคำมีแนวรับบริเวณ 2,000-2,010 ดอลลาร์ สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. โดย Conference Board และดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนพ.ย. สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่  2,000 ดอลลาร์ และ 1,980 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,040 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,050 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 33,200 บาท และ 33,000 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 33,600 บาท และ 33,800 บาท

โดยให้ปัจจัยบวกหนุนตลาดทองคำคือ ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง และเฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกมากขึ้นในปี 2567 ด้านปัจจัยลบคือความต้องการทองคำจากจีนลดลง

นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า สัปดาห์ก่อนราคาทองคำมีความผันผวน ช่วงต้นสัปดาห์ราคาทองคำปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับช่วงกลางสัปดาห์หลังจากทราบผลการประชุมเฟด โดยราคาทองคำพุ่งแรง ซึ่งปรับตัวขึ้นกว่า 48 ดอลลาร์ จากเฟดได้มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับ 5.25-5.50%

แต่การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เฟดได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 0.75% จากเดิมที่เคยส่งสัญญาณในช่วงการประชุมเดือนก.ย.ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีหน้า การส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่มากขึ้นและส่งสัญญาณยุติขึ้นดอกเบี้ยนั้น ส่งผลทำให้เป็นแรงหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้น 

อย่างไรก็ตามในคืนวันศุกร์ ราคาทองคำก็ได้ปรับตัวลงมาอีกครั้ง หลังความเห็นของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กชี้ว่าเฟดยังไม่ได้ทำการหารือเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และคิดว่ายังเร็วเกินไปที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2567 ความเห็นดังกล่าวยังสวนทางตลาดที่คาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.ปีหน้า

โดยฮั่วเซ่งเฮงคาดว่าในสัปดาห์นี้ราคาทองคำจะเริ่มอ่อนตัวลง นักลงทุนจะเริ่มชะลอการซื้อขายทองคำลง จากที่ใกล้ถึงวันหยุดยาวก่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาส (Christmas Day) และโดยปกติแล้วปริมาณการซื้อขายจะเบาบางลงในช่วงคริสต์มาสยาวจนถึงช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่

ดังนั้นฮั่วเซ่งเฮงจึงแนะนำให้หาจังหวะเข้าซื้อทองคำ ในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลง ซึ่งคาดว่าราคาทองคำอาจปรับตัวลงเพื่อขึ้นต่อ ทั้งนี้แนวโน้มราคาทองคำปีหน้า คาดว่ายังมีปัจจัยบวกสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อไปได้ แม้ว่าตลาดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเกิด Soft Landing จากอดีตผ่านมาการเกิด Soft Landing จะไม่ได้เป็นผลบวกต่อราคาทองคำเป็นพิเศษนัก แต่จะส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนของทองคำในเชิงติดลบเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นของการเลือกตั้งที่สำคัญสำหรับประเทศเศรษฐกิจหลักๆ หลายแห่ง รวมถึงการซื้อทองคำของธนาคารกลางอย่างต่อเนื่องอาจเป็นปัจจัยบวกของราคาทองคำได้

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงมีอยู่ โดยในปี 2566 มีความเสี่ยงจากเหตุการณ์สำคัญ 2 ประการ ได้แก่ การล้มละลายของ Silicon Valley Bank (SVB) และความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาส และปีหน้าจะมีการเลือกตั้งที่สำคัญเกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงสหรัฐอเมริกา อินเดีย และไตหวัน ส่งผลให้นักลงทุนมีความต้องการทองคำมากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอพ

ด้านอุปสงค์ของธนาคารกลาง ธนาคารกลางทั่วโลกได้เดินหน้าเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง ปี 2565 ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำแบบโดดเด่นมากนับตั้งแต่ปี 2510 ซึ่งซื้อรวมกันมากถึง 1,136 ตัน หรือมูลค่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มทองคำสุทธิ 337 ตันในไตรมาส 3 และในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ธนาคารกลางซื้อทองคำสุทธิ 800 ตัน ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2565 ถึง 14% ทั้งนี้คาดว่าในปี 2567 ธนาคารกลางต่าง ๆ ยังเดินหน้าเข้าซื้อทองคำต่อไป แต่อาจไม่แตะระดับสูงสุดเท่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่ ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 18-22 ธ.ค.66 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ ระบุว่า 14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 2 ราย หรือเทียบเป็น 14% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 7 ราย หรือเทียบเป็น 50% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 5 ราย หรือเทียบเป็น 36% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 316 ราย ในจำนวนนี้มี 169 ราย หรือเทียบเป็น 53% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 114 ราย หรือเทียบเป็น 36% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 33 ราย หรือเทียบเป็น 11% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

ด้านสถานการณ์ราคาทองคำมองว่า ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 33,400 – 33,800 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 33,400 บาท ต่อบาททองคำ ลดลง 350 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 33,750 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

1. นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 3 ครั้งในปี 2567 อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก มีแนวโน้มอ่อนค่าลง และคาดการณ์ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี จะยังคงลดลงสู่ระดับ 3% ในปี 2567

2. การประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดว่าจะยุติการผ่อนคลายนโยบายการเงิน หลังจาก BOJ ส่งสัญญาณยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ (Ultra-low Interest Rates) ในเร็วๆ นี้

3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์จากมุมมองของผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน ธันวาคม 2566, รายได้/รายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล, ตัวเลขจีดีพี ซึ่งเป็นการปรับปรุง GDP ครั้งสุดท้ายของไตรมาส 3/2566 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.