โผ 4 หุ้นรับอานิสงส์โครงการ E-refund ช็อปดีมีคืนภาษี 50,000 บาท
โฟกัส "CRC - HMPRO"
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่า ตามที่มีข่าว ครม.จะมีการขออนุมัติโครงการ E-refund ช็อปดีมีคืนภาษี 50,000 บาท เริ่มใช้จ่ายได้ 1 ม.ค.-15 ก.พ.67 รวม 46 วัน หากอนุมัติจริง โฟกัสค้าปลีกที่มียอดขายต่อบิลสูง เพราะเม็ดเงินรอบนี้ค่อนข้างสูง น่าจะเงินหมุนเวียนมากกว่ารอบที่ผ่านมา ซึ่งจะเริ่มในไตรมาส 1/67 เลือก CRC และ HMPRO โดดเด่นสุดเพราะยอดขายต่อบิลสูง
ส่วนกรณี AOT ที่ราคาร่วงแรง มองว่าประเด็นเรื่องพื้นฐานไม่น่าห่วง เพราะไม่ได้ทำให้ประมาณการเปลี่ยนมาก แต่ที่มีประเด็นคือคนกลัวชอร์ตเซลมากกว่า ราคาตรงนี้ถือว่าลดลงมาถูกมากแแต่ยังไม่ต้องรีบเข้าซื้อ
"ERW - MINT"ดูดีมีเสน่ห์
ขณะที่ บทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุในมุมฝ่ายวิจัยมองว่าหาก ครม. อนุมัติ E-Refund ให้ครอบคลุมถึงการท่องเที่ยวบนวงเงิน 5 หมื่นบาท เมื่อเทียบโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟสล่าสุด ภาครัฐสนับสนุนค่าที่พัก 40% ไม่เกิน 3 พันบาทต่อห้อง ถือเป็นบวกเล็กน้อยต่อกลุ่มโรงแรมที่มีโครงสร้างรายได้จากโรงแรมไทยเป็นหลักอย่าง ERW ราว 90% ของรายได้รวม และ CENTEL คิดเป็น 80% ของรายได้โรงแรมอยู่ในไทย, โรงแรม : ร้านอาหาร ที่ 42% : 58%
ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย ยามนักท่องเที่ยวจีนอ่อนแรง ตามที่มีข่าวว่า 10 สายการบินจีนยกเลิกเที่ยวบินเข้าไทยเดือน ธ.ค.66 จาก 10,939 เที่ยวบิน เหลือ 5,858 เที่ยวบิน และเดือน ม.ค.67 เดิม 10,984 เที่ยวบิน เหลือ 7,420 เที่ยวบิน ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจและเหตุการณ์ที่กระทบต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีน เมื่อ 3 ต.ค.66 ที่ผ่านมา
สำหรับการขึ้นค่า PSC เพื่อชดเชยต้นทุนการนำระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่องมาให้บริการ เนื่องจากที่ผ่านมาทาง AOT มีการเก็บค่าบริการ 30 บาทต่อหัวในตั๋วเครื่องบินอยู่แล้ว ครั้งนี้เป็นเพียงการย้ายรูปแบบการจัดเก็บมาอยู่ใน PSC จึงไม่ส่งผลต่อค่าตั๋วเครื่องบิน และไม่มีผลต่อรายได้ของ AOT โดยการขึ้นค่า PSC เพื่อชดเชยต้นทุนที่มาจาก SAT-1 และการลงทุนอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างศึกษาของ AOT เพื่อนำเสนอสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และเสนอให้ รมต.คมนาคม พิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ตลาดมีการมองไปที่ 800-900 บาท ต่อผู้โดยสารระหว่างประเทศ ในปี 2568-2569 สมมติฐานฝ่ายวิจัยที่ 700 บาท
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยช่วง 10 เดือนแรกปี2566 อยู่ที่ 22 ล้านคน คิดเป็น 68% ของ Pre-COVID เป็นนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 2.8 ล้านคน สัดส่วน 30% งวด 10เดือนปี2562 ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดทั้งปี 2566 อยู่ในกรอบ 3-3.5 ล้านคน เทียบปี 2565 ที่ 2.6 แสนคน และในปี 2567 ที่ 5 ล้านคน ปี 2562 ที่ 11 ล้านคน
อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวชาติอื่นมีแนวโน้มฟื้นตัวดีต่อเนื่อง เช่น ยุโรป ช่วง 10 เดือนปี66 คิดเป็น 20% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย กลับสู่ระดับ 87% ของ Pre-COVID, อินเดีย ช่วง 10 เดือนปี66 คิดเป็น 6% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย กลับสู่ระดับ 80% ของ Pre-COVID เบื้องต้นยังประเมินนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยปี 2567 ราว 35 ล้านคน ขณะที่ปี 2562 ที่ 40 ล้านคน
ภาพรวมฝ่ายวิจัยมองว่าภายใต้การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้กลุ่มโรงแรมที่สามารถยกค่าห้องพัก (ADR) ให้สูงกว่า PreCOVID ได้เปรียบกว่าสนามบิน โดย ERW งวดไตรมาส 3/66 มี ADR ของโรงแรม Ex Hop Inn บวก 23% จากไตรมาส 3/62 และ Occupancy rate เกิน Pre-COVID ราว 8% มาอยู่ที่ 82% ถือว่าทำได้ดีกว่า CENTEL ที่แม้ ADR งวดไตรมาส 3/66 ของโรงแรมไทยบวก 30.5% จากไตรมาส 3/62 แต่ Occupancy rate ยังต่ำกว่าไตรมาส 3/62 ราว 8% อยู่ที่ 68% ดังนั้นกลุ่มโรงแรมไทยจึงชอบ ERW แนะนำ Outperform ราคาเหมาะสม 6.7 บาท มากกว่า CENTEL แนะนำ Neutral ราคาเหมาะสม 48 บาท
ส่วน MINT แนะนำ Outperform ราคาเหมาะสม 38 ที่มีโครงสร้างรายได้มาจาก EU ราว 50% ของรายได้รวม ตลาดอาจเริ่มกลับมาให้ความสนใจมากขึ้น หลัง Sentiment บวกต่อภาคท่องเที่ยวไทยเริ่มจางลง
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.