ลุ้น ครม.เคาะ มาตรการ e-Refund พรุ่งนี้

นายลวรรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวัน(พรุ่งนี้) 28 พ.ย. 2566 จะมีการพิจารณาเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชนและประชาชน ผ่านโครงการ e-Refund ที่จะเปิดให้ผู้เสียภาษีสามารถซื้อสินค้าได้ภายในมูลค่าไม่เกิน 5 หมื่นบาท และนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวจะมีการเพิ่มงื่อนไขเพิ่มเติมหรือไม่ คงต้องรอรายละเอียดที่ชัดเจนจาก ครม. ในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลักเกณฑ์เบื้องต้นยังคล้ายกับโครงการที่ได้ดำเนินการไปในปีก่อน คือให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้ามาหักลดหย่อนภาษีได้ แต่ต้องเป็นค่าซื้อสินค้าหรือบริการที่มีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice&e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น ส่วนรายะเอียดและความชัดเจนต่าง ๆ อยากให้รอฟังจาก ครม. อีกครั้ง

 

"คลังได้ส่งเรื่องไปยังเลขาธิการ ครม. เรียบร้อยแล้ว ส่วนเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งเรื่องสินค้าและบริการที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้นั้น อยากให้รอฟังความชัดเจนจาก ครม. ดีกว่า แต่แนวทางเบื้องต้นจะคล้ายกับโครงการช้อปดีมีคืนที่ได้ดำเนินมาเมื่อปีก่อน ที่ให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าจากร้านค้าที่สามารถออกใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ได้ มาหักลดหย่อนภาษี โดยเป็นการยื่นลดหย่อนภาษีในปี 2568" นายพรชัย กล่าว

ทั้งนี้ คาดว่าหากโครงการ e-Refund ผ่านความเห็นชอบของ ครม. แล้ว อาจจะต้องมาดูเรื่องกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนอีกครั้ง เพราะอาจจะต้องมีการดำเนินการทางข้อกฎหมาย ทั้งการออกกฎหมาย หรือแก้ไขข้อกฎหมายในส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้รองรับกันด้วย แต่ตามไทม์ไลน์ที่รัฐบาลวางไว้ก่อนหน้า คือ  โครงการดังกล่าวจะมีกำหนดใช้ 2 เดือน โดยนำรายจ่ายไม่เกิน 5 หมื่นบาท มาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 1.75 หมื่นบาท

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้รัฐบาล ระบุว่า โครงการ e-Refund เป็นหนึ่งในโครงการที่รัฐบาลพยายามคิดให้ครอบคลุมการกระตุ้นเศรษฐกิจ และรองรับ หรือปลอบใจกลุ่มคนที่ไม่ได้รับสิทธิ์จากครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ซึ่งจะเป็นโครงการที่เข้ามาเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ